ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 403 นังตัวแสบ! ฝากไว้ก่อน
“เจ้า! แม้ว่าเจ้าต้องการจะลงแข่ง ก็ไม่สามารถใช้วิธีนี้!” ชิงหว่านกล่าวด้วยเสียงโกรธ นางเดินอ้อมซู่ซินและกำลังจะกลับไปช่วยสมทบ
ซู่ซินไม่ได้ขยับตัวแต่กลับยิ้มเยาะ “อย่ามาทำหน้าซื่อใจคดที่นี่”
ชิงหว่านหันกลับมาด้วยความโกรธ “เจ้าพูดว่าอะไรนะ”
“ไม่ใช่หรอกหรือ” ซู่ซินหันกลับมาและมองหน้านางอย่างหยอกเย้า “ล้วนคือผู้สมัครเป็นธิดาสวรรค์กันทั้งนั้น เจ้ากับนางจะแสร้งทำเป็นพี่น้องจอมปลอมอะไรนั่นไปทำไมกัน”
“เจ้า! ” ชิงหว่านโกรธมากจนหน้าอกพองยุบไม่เป็นจังหวะ
เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน แม้ว่านางอยากจะลงแข่งก็จะทำตามกฎระเบียบ ไม่เคยคิดที่จะใช้วิธีสกปรกในการกต่อสู้กับเจียงหลีหรือซู่ซินตรงหน้าเลย
แต่ตอนนี้นางกลับถูกซู่ซินใส่ร้าย!
“ชิงหว่าน ข้าจะบอกเจ้าให้รู้ไว้ว่าการฝึกฝนก็คือสนามรบ เพื่อบรรลุเป้าหมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพยากรที่ดีกว่า ทุกคนล้วนจะทำทุกวิถีทาง ความใจดีของเจ้า สักวันหนึ่งจะหันมาทำร้ายเจ้า หากวันนี้เจ้าใจอ่อน วันข้างหน้านางไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่” ซู่ซินกล่าวอย่างดุดัน
ชิงหว่านมองไปยังนางด้วยความตกใจ ราวกับว่าไม่เคยรู้จักนางมาก่อน “ซู่ซิน ข้าคิดเสมอว่าเพียงเพราะการฝึกฝนของเจ้าอยู่ในขั้นที่สูง จึงค่อนข้างหยิ่งผยอง นึกไม่ถึงว่าหัวใจของเจ้าจะเลือดเย็นเช่นนี้”
“เลือดเย็นหรือ” ซู่ซินหัวเราะเยาะ “หากเลือดเย็น แล้วข้าจะได้เป็นธิดาสวรรค์แห่งสำนักพรตเสวียนหมิง และนับจากนี้เป็นต้นไป สามารถกางปีกโผบินเหนือท้องนภา และกลายเป็นผู้ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง ข้ายอมที่จะเป็นคนเลือดเย็น”
“ข้ากับเจ้าไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน” ชิงหว่านส่ายหัวอย่างผิดหวัง
“เก็บหัวใจอันบริสุทธิ์ของเจ้าไว้ซะ” ซู่ซินพูดอย่างรังเกียจ “คนอย่างเจ้าไม่เหมาะกับการฝึกฝนเลย! หากตอนนี้เจ้าแสร้งทำเป็นคนดี ข้าคงจะชื่นชมเจ้าสักหน่อย”
สีหน้าของชิงหว่านสงบลง “หึ! หลักการแตกต่างมิอาจร่วมเดินทาง” หลังจากพูดจบ นางได้หันกลับมาอีกครั้งเพื่อจะช่วยเจียงหลี
ซู่ซินหัวเราะเยาะ “ข้าพูดมากถึงเพียงนี้ ทางนั้นคงจะใกล้เสร็จแล้ว ไม่รู้จริงๆ ว่าภายใต้วิธีการของ
หลิงอวี้เรา นางจะ…หรือไม่”
“เจ้าตั้งใจถ่วงเวลาข้า! ”
“จะเกิดอะไร”
ในเวลาเดียวกับที่เสียงของชิงหว่านเอ่ยถามด้วยความโมโห ก็มีเสียงเนือยๆ และยั่วยวนดังขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เสียงนี้ปรากฏขึ้น ใบหน้าที่หยอกเย้าของซู่ซินได้เปลี่ยนไป ใบหน้าที่หยิ่งผยองก็มืดมนลงทันทีและดวงตาก็ดำมืดลง
ตรงกันข้ามกับนาง ชิงหว่านยิ้มอย่างตื่นเต้นและวิ่งเข้าไปหาผู้มาเยือน “เจียงหลี เจ้าไม่เป็นอะไร ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน! ”
หลังจากนั้น นางก็กล่าวขอโทษอีกครั้ง “ข้าขอโทษที่ทิ้งเจ้าไว้คนเดียว”
เจียงหลีไม่ได้เพิ่งมาถึง แต่มาสักพักแล้วเพียงแค่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดและฟังการสนทนาระหว่างพวกเขาทั้งสอง เมื่อเห็นการแสดงออกของชิงหว่าน ตอนนี้นางก็เห็นด้วยกับคำพูดของซู่ซิน ชิงหว่านไม่เหมาะกับการฝึกฝนจริงๆ
“ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะ…”
ระหว่างที่เจียงหลีเปลี่ยนไปมองซู่ซิน ได้พูดกับนางว่า “ไม่ตายหรือไม่ถูกคนของหลิงอวี้จงหยามเกียรติกันแน่”
ดวงตาของซู่ซินหดลงอย่างรวดเร็ว สายตาจับจ้องไปที่สัญลักษณ์สีแดงบริเวณกึ่งกลางคิ้วของนาง “เจ้าฆ่าเขา!”
“ใช่แล้ว” เจียงหลีราวกับจงใจทำให้นางโกรธและชี้กลับไปที่กลางคิ้วของตน “เจ้าคิดว่าสัญลักษณ์สีแดงนี่มาได้อย่างไร ว่าไปแล้วล้วนเป็นศิษย์ร่วมสำนัก จะไม่ยินดีกับข้าสักหน่อยหรือ”
“ยอดเยี่ยมมาก! เจียงหลีมีสัญลักษณ์ขึ้นตั้งแต่วันแรก คนของหลิงอวี้จงสมควรถูกฆ่าทิ้งทั้งหมด! ยินดีด้วย!” ชิงหว่านกล่าวอย่างตื่นเต้น
เจียงหลีได้ยินความจริงใจจากน้ำเสียงของนาง
แต่ทว่า ตอนนี้นางสนใจซู่ซินมากกว่า นางมองซู่ซินอย่างมีเลศนัย ราวกับว่านางกำลังรอให้อีกฝ่ายแสดงความยินดีกับตน
ซู่ซินโกรธมากจนปวดแสบปวดร้อนอวัยวะภายในทั้งหมด นางไม่คาดคิดว่าบุรุษของหลิงอวี้จงที่มีสัญลักษณ์สีแดงจะไร้ประโยชน์เช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะฆ่าเจียงหลีไม่ได้แต่ยังถูกนางฆ่าแทน
เมื่อมองเห็นสัญลักษณ์ระหว่างคิ้วของเจียงหลี ซู่ซินก็ริษยาจากก้นบึ้งหัวใจจนบ้าคลั่งขึ้น
“ยินดีด้วย” ภายใต้การจ้องมองที่ไม่เต็มใจของเจียงหลี ซู่ซินกัดฟันและบีบเค้นคำพูดที่ขัดกับหัวใจของตนออกมา
เมื่อเห็นท่าทางที่ถูกบีบให้พ่ายแพ้ของซู่ซิน ชิงหว่านได้สลัดความคับแค้นใจก่อนหน้านี้ เสียง ฟิ้ว ดังขึ้นหนึ่งคราและหัวเราะออกมา
“ขอบคุณที่ช่วยเหลือให้ได้สัญลักษณ์สีแดงนี้มา” เจียงหลีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
การแสร้งทำเป็นสับสนของนาง สามารถทำให้คนโมโหสุดขีด
“หึ!” ซู่ซินตะคอกกลับอย่างเย็นชา สะบัดแขนเสื้อและหันหลังเดินต่อ
เมื่อมองจนนางเดินจากไป เจียงหลีหุบยิ้ม ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชาแทน หากไม่ได้อยู่ในถ้ำสวรรค์ ไม่สามารถฆ่าศิษย์ร่วมสำนัก เจ้าจะมีชีวิตอยู่อีกหรือ ฝากไว้ก่อนเถอะ เจ้าติดหนี้ข้า ข้าจะทบทั้งต้นทั้งดอก
“เจียงหลียอดเยี่ยมมาก! จะทำให้ข้าโกรธแทบตาย” ชิงหว่านป้องปากและยิ้ม
เจียงหลีโค้งริมฝีปากขึ้น “ข้าไม่รู้ว่าหากทำให้ศิษย์ร่วมสำนักโกรธแทบตาย ถือว่าผิดกฎหรือไม่”
ชิงหว่านผงะไปชั่วขณะ และเมื่อนางเข้าใจก็รู้สึกตลกและหัวเราะขึ้น “ฮ่าๆๆ… เจียงหลีเจ้าฉลาดมาก! แต่ช่างมันเถอะ ไม่คุ้มที่จะละเมิดกฎของถ้ำสวรรค์เพราะคนอย่างนาง”
เจียงหลีพยักหน้าและกล่าวว่า “จริงด้วย! มีวิธีเล่นงานนางให้ตายอีกมากมาย อย่าเสี่ยงดีกว่า หวังว่านางจะรู้จักคำว่าเจียมตัวและไม่สร้างเรื่องอีก”
ชิงหว่านพยักหน้าและปลอบโยน “วางใจเถิด ตอนนี้เจ้ามีสัญลักษณ์นี้แล้วและนางก็ไม่สามารถฆ่าเจ้าได้ นางคงร้อนรนอยากฝึกฝนให้เทียบเคียงกับเจ้า ไม่มีเวลามาสนใจพวกเราทั้งสองแล้ว”
“ไปกันเถอะเข้าไปดูกันว่าในถ้ำสวรรค์เป็นอย่างไร” เจียงหลียิ้มและพูดอย่างไม่แยแส
ชิงหว่านเดินตามเจียงหลีด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่านางจะรู้ว่าซู่ซินพูดถูกว่าพวกนางเป็นคู่แข่งกัน แต่นางไม่คิดว่าคู่ต่อสู้จะเป็นได้เพียงศัตรูเท่านั้นและทำทุกวิถีทางเพื่อชัยชนะ
ถ้ำสวรรค์เสมือนเปลือกขนาดใหญ่ มีรูขนาดเล็กใหญ่อยู่บนเปลือก มีภูเขาซ้อนทับ น้ำตกและลำห้วย ป่าไม้และทุ่งหญ้าภายในเปลือก…
“ที่…ที่นี่ทำไมถึงมีตลาดด้วย” เจียงหลีจ้องไปยังตลาดที่มีชีวิตชีวาซึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าและเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในใจ
“เชอะ…! มีอะไรน่าแปลกกัน คนที่ฝึกฝนในถ้ำสวรรค์ ขณะมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องกินดื่มกันเลยหรือไร” เสียงพูดแดกดันดังมาจากข้างทาง
เจียงหลีและชิงหว่านมองไปที่เขาในเวลาเดียวกัน
ในโรงน้ำชาริมถนน ชายที่สวมใส่เสื้อผ้าขาดๆ ทรงผมยุ่งเหยิงบดบังใบหน้ากำลังพิงเสาของโรงน้ำชาและดื่ม…สุราอยู่
เจียงหลีสูดดมและได้กลิ่นสุราด้อยคุณภาพ
ดื่มสุราในโรงน้ำชาหรือ ชายผู้นี้ช่างพิลึกนัก
ทันใดนั้น ชายคนนั้นได้หยิบถั่วลิสงขึ้นมาจากจานบนโต๊ะและดีดไปที่ก้อนหินด้านหลังของพวกเจียงหลี
พวกเจียงหลีทั้งสองหันกลับไปมองและสังเกตเห็นว่ามีอักษรสลักอยู่บนก้อนหิน
โดยเป็นการแนะนำสั้นๆ เกี่ยวกับข้อควรระวังเมื่อเข้าสู่ตลาดแห่งนี้
สรุปได้ความว่าไม่สามารถฆ่าหรือต่อสู้ในตลาด ใครฝ่าฝืนจะถูกลงโทษ
ที่นี่ถือได้ว่าเป็นสถานที่เงียบสงบบนโลกแห่งการเข่นฆ่าแย่งชิง เจียงหลีพูดในใจ
“ขอถามพี่ชายสักหน่อยว่าในถ้ำสวรรค์มีตลาดเช่นนี้อยู่กี่แห่ง” ชิงหว่านถามอย่างสงสัย
ชายคนนั้นถือว่าอัธยาศัยดี และตอบกึ่งเมากึ่งตื่นว่า “เจ็ดแห่ง มีขนาดไล่เลี่ยกันหมด” เขาเงยหน้าขึ้นกวาดมองทั้งสองคนผ่านผมที่ห้อยลงมาจากหน้าผากแล้วยิ้ม “ดูจากชุดของพวกเจ้าแล้ว เป็นธิดาสวรรค์ของสำนักพรตเสวียนหมิงใช่หรือไม่”