ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 407 พบซู่ซินอีกครั้ง
“ธิดาสวรรค์ ยังมีเรื่องที่เจ้าไม่รู้ หลังจากที่ข้าเป็นนักสังหารระดับสัญลักษณ์สีทอง ข้าให้สาบานไว้แล้วว่าจะไม่ฆ่าคนในถ้ำสวรรค์อีก” จอมยุทธ์หนุ่มเอ่ย
“อย่างนั้นก็ดี ข้าฆ่าเจ้า” เจียงหลีหัวเราะ
“…” จอมยุทธ์ตะลึง เขา…เขาทำบาปกรรมอะไรมา เขาถอนหายใจยาวๆ แสดงสีหน้าจริงจัง “ธิดาสวรรค์ เจ้ายังหลับไม่ตื่นอยู่ใช่หรือไม่ ถึงแม้ชีวิตในถ้ำสวรรค์อาจไม่ดีนัก ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็มีโอกาสที่ยังได้มีชีวิต ทำไมถึงคิดสั้น”
ทันใดนั้น เหมือนกับเขาคิดอะไรได้ ส่งเสียงในใจ อ๋อ “เจ้าอยากได้ระดับสัญลักษณ์สีทองของข้าหรือ”
มุมปากเจียงหลีตึง ยากที่จะอธิบายเจ้า “เจ้าจะคิดเช่นนั้นก็ย่อมได้”
“ธิดาสวรรค์ ข้าคิดว่าตัวข้าจริงใจกับพวกเจ้า ทำไมเจ้าถึงทำกับข้าเช่นนี้” จอมยุทธ์หนุ่มเอ่ยอย่างชิงชัง
เจียงหลีตัดบท “เจ้าแค่พูดมา ว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยข้า ไม่ว่าอย่างไร หากเจ้าไม่ตกลง ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้ง”
“ธิดาสวรรค์พูดออกมาอย่างไร้เยื่อใยเช่นนี้ ข้าจะทำร้ายบุปผางามได้เช่นไร แต่คงทำได้เพียงทำตามสิ่งที่เจ้าขอ ข้าไม่อาจลงมือได้ที่นี่ พรุ่งนี้พวกเราออกไปประลองกันว่าอย่างไร” จอมยุทธ์หนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
“ดี” เจียงหลีพยักหน้า หันตัวกลับไปแล้วเดินออกไปจากห้องเขา
“เป็นบ้าอะไรนะ นึกไม่ถึงว่าจะมารนหาที่ตาย” จอมยุทธ์หนุ่มพูดพึมพำ
ทันใดนั้น เขารู้สึกประหลาดใจ “นางถามแต่เรื่องยันต์ธาราทมิฬ หรือว่านางจะโดนคนใช้ยันต์ธาราทมิฬเล่นงาน แต่คงไม่ใช่! มีเพียงความตาย ถึงจะกำจัดยันต์ธาราทมิฬได้ หากนางเลือกที่จะตายเพื่อกำจัดยันต์ธาราทมิฬ เปลี่ยนจากคนเป็นที่โดนควบคุมกลายเป็นคนตายที่อิสระ นี่มันได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ!”
จอมยุทธ์หนุ่มคิดจนคิ้วขมวด ก็คิดไม่ออกว่าเจียงหลีคิดอะไรอยู่
อ๊ากกกก! เขาทึ้งผมตัวเองจนยุ่ง
หลังจากเจียงหลีออกมา ก็กลับไปที่ห้องตนเอง หยอกล้อเจ้าเปี๊ยกที่นอนอยู่ตลอดเวลา ความเคร่งขรึมปรากฏอยู่บนใบหน้า
นางยังไม่เคยใช้วิญญาณยุทธ์นกอมตะไม่รู้ว่าหลังจากถูกฆ่า สถานการณ์จะเป็นเช่นไร ในความไม่แน่นอนนี้ ทำให้นางไม่อาจจะใช้วิญญาณยุทธ์นกอมตะอย่างตามอำเภอใจ
ไม่เช่นนั้น หากแผนการแกล้งตายถูกเปิดโปง ไม่แน่ว่าไพ่ที่อยู่ในมือก็อาจโดนเปิดโปงไปด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ได้ไม่คุ้มเสีย
ดังนั้น ทางที่ดีสุดต้องหาคนที่น่าเชื่อถือเพื่อฆ่านางในถ้ำสวรรค์…
หลังจากใกล้ชิดมาสองวัน ชิงหว่านไม่สามารถฆ่านางในถ้ำสวรรค์ได้ ไม่อย่างนั้นจะโดนลงโทษ ทางเลือกเดียวของนางคือจอมยุทธ์หนุ่มคนนั้นแล้ว
ชายหนุ่มคนดีนี้ดูแล้วอาจจะดูไม่จริงจังต่อเรื่องราวใดๆ พูดจากะล่อนปลิ้นปล้อน แต่ดูแล้วยังนับว่าเป็นคนมีคุณธรรม ที่สำคัญคือนางไม่ได้มีผลโยชน์โดยตรงต่อเขา ต่างฝ่ายต่างไม่รู้จักกัน
ต่อให้ตอนที่ฟื้นคืนชีพ อาจทำให้เขาสงสัย แต่คงไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากทางฝั่งสำนักพรตเสวียนหมิง
…
วันถัดมา ฟ้าเพิ่งสว่าง เจียงหลียกเท้าถีบประตูห้องของจอมยุทธ์หนุ่ม
แต่ทว่า เหตุการณ์ภายในห้อง ทำให้นางยิ้มอย่างเย้ยหยัน หนีไปแล้ว นางคิดไม่ถึงว่า ชายหนุ่มผู้นี้จะกลัวการต่อสู้ ในเมื่อไม่อยากฆ่านางและก็ไม่อยากโดนนางฆ่า จึงเลือกที่จะหนีไปตอนกลางคืน
บนกำแพงห้อง ยังเขียนอักษรทิ้งไว้ เมื่อพบย่อมมีเวลาจาก หญิงงามทั้งสอง หากข้ามีวาสนา คงได้พบกันอีกครั้ง
“ช่างน่าประหลาดใจจริง ระดับสัญลักษณ์สีทองของเขาได้มาอย่างไรกันนะ” เจียงหลียิ้มเยาะเย้ย
มีประสบการณ์เป็นนักสวรรค์อยู่ในถ้ำสวรรค์มาตั้งนาน นึกไม่ถึงเลยว่ายังคงรักษานิสัยเดิมไว้ได้ ไม่ได้รับผลกระทบจากการเป็นนักสังหาร คนนี้นับว่าน่าชื่นชมนัก
“อ้าว! จอมยุทธ์หนุ่มล่ะ” เงาของชิงหว่านปรากฏอยู่ด้านหลังของเจียงหลี
“หนีไปแล้ว” เจียงหลีหันกลับมา แล้วเดินออกจากห้องไป
“หนีไปแล้วหรือ ยังไม่ถึงวันที่เขาจะได้ออกไปไม่ใช่หรือ” ชิงหว่านถามอย่างไม่เข้าใจ
“สงสัยจะกลัวตาย” เจียงหลีพูดอย่างเย็นชา
อึก…
ชิงหว่านยิ่งไม่เข้าใจ “กลัวตายหรือ”
สีหน้าของเจียงหลีเย็นชา เดินออกจากตลาดไปพร้อมกับชิงหว่าน เดินในถ้ำสวรรค์อย่างไม่มีจุดหมาย คนที่เหมาะสมที่สุดหนีไปแล้ว ตอนนี้ทำได้เพียงหาใครก็ได้ เพื่อฆ่าข้า… ข้าต้องการพยายาม ให้ชิงหว่านเห็นเหตุการณ์ตอนที่ข้าถูกฆ่า เพื่อไปแจ้งต่อผู้นำสำนักพรตเสวียนหมิงว่าข้าโชคไม่ดีที่ถูกฆ่าในระหว่างฝึกฝน
ถ้ำสวรรค์กว้างใหญ่ เจียงหลีและชิงหว่านเดินไปมาตามใจตน เมื่อพบคน เจียงหลีก็ไม่ได้แสดงฝีมือ ชิงหว่านก็เลือกที่จะเดินอ้อมไป
เจียงหลีไม่ได้ลงมือ เพราะว่านางไม่อยากได้ระดับสัญลักษณ์สีเงินสัญลักษณ์สีทองอะไรนั่น เพราะฉะนั้น หากไม่มีคนเข้ามาหาเรื่องนาง นางก็จะไม่สังหารคนตามอำเภอใจ
แต่ชิงหว่าน นางยังหาเหตุที่จะสังหารไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่พบผู้อื่น ก็จะรีบดึงเจียงหลีเพื่อหลีกหนี
“เจ้าทำเช่นนี้ต่อไป เพราะว่าอยากจะอยู่ระดับล่างต่อไปหรือ” เดินเลี่ยงคนอีกแล้ว เจียงหลีหัวเราะแล้วเอ่ยกับชิงหว่าน
“ข้า…ข้า…” ใบหน้าของชิงหว่านแดงก่ำ ก้มหน้าไม่พูดจา นางรู้ว่าตนเองผิด แต่ไม่มีวิธีการที่จะละเลยความคิดที่อยู่ภายในใจ
รอยยิ้มบนใบหน้าเจียงหลีแสดงถึงความหยอกล้อ “ในเมื่อเจ้ากลัวถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาเมื่อถูกคัดออก แต่ก็ไม่ยอมพยามยามเพื่อให้ได้มันมา นี่มันหลักการอะไรกัน”
“ข้าแค่คิดว่า…คิดว่า…” ชิงหว่านขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ที่เจียงหลีพูดมาทั้งหมดนั้นถูกต้อง แต่ว่านาง “เมื่อพบเจอคนไม่รู้จักมาก่อน ข้า…”
สีหน้านางดูหงิกงอ ทำให้เจียงหลีถอนหายใจ “เจ้าไม่เหมาะที่จะเป็นธิดาสวรรค์ของสำนักพรตเสวียนหมิง”
ชิงหว่านเงยหน้าขึ้นมา มองมาทางนาง เพราะว่าคำพูดของเจียงหลี ทำให้ดวงตานางเกิดความสับสน เบ้าตาของนางแดงเล็กน้อย “ข้าไม่ได้อยากเป็นธิดาสวรรค์อะไร แต่ข้าโดนสำนักพรตเสวียน
หมิงเลือกแล้ว ข้าจะมีหนทางใด หากปฏิเสธก็ต้องตาย ข้าไม่อยากตายเช่นนี้ จึงทำได้เพียงยอมรับมัน”
“ถ้าไม่ได้ไร้ซึ่งหนทาง ใครๆ คงไม่เลือกที่จะตาย เพราะว่าเจ้าไม่อยากตาย จึงยอมรับในการคัดเลือกของสำนักพรตเสวียนหมิงแล้ว ตรงนี้คงไม่มีเหตุให้ติเตียนอะไรได้ เพียงแค่ เจ้าก็ต้องเข้าใจ หากเจ้าไม่ทำตามสิ่งที่สำนักพรตเสวียนหมิงสั่งไว้ ผลสุดท้ายก็คือความตายอยู่ดี” เจียงหลีหยุดพูดไปสักพัก แล้วพูดต่ออีกประโยค “บางที สิ่งนั้นอาจจะทรมานยิ่งกว่าตาย”
ร่างกายชิงหว่านสั่นเทา เย็นเยือกไปทั่วบริเวณกระดูกสันหลัง ใบหน้าซีดเซียวไปทางเจียงหลี
เจียงหลังเดินเข้าไปใกล้นางก้าวหนึ่ง นัยน์ตาที่เป็นประกายจ้องมองไปทางนาง พูดด้วยน้ำเสียงที่เน้นย้ำทีละคำ “อย่าลืม วิธีการที่สำนักพรตเสวียนหมิงปฏิบัติตัวต่อธิดาสวรรค์ที่ถูกคัดออก เป็นสิ่งที่เจ้าบอกกับข้าเอง”
“แล้วเจ้าล่ะ” ชิงหว่านพูดเสียงดังออกมาทันใด
เจียงหลีเลิกคิ้ว “ข้ารึ”
ชิงหว่านพยักหน้าอย่างแรง “เจ้าก็ไม่ได้ฆ่าคนเหมือนกัน” นอกจากวันที่พึ่งเข้ามา
เจียงหลียิ้ม นางกับชิงหว่านเหมือนกันหรือ นางไม่ได้ตัดสินใจที่จะเป็นธิดาสวรรค์ของสำนักพรตเสวียนหมิงตั้งแต่แรกแล้ว และไม่มีทางที่จะยอมศิโรราบ
ตอนนี้ ที่นางยังอยู่ในสำนักพรตเสวียนหมิง เพียงเพื่อจะว่าหาวิธีรับมือเท่านั้น
แต่ว่า นางก็ไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้กับชิงหว่านได้ ในช่วงเวลาที่อยู่รวมกัน นางมองออก ยังมีบางเรื่อง ที่ชิงหว่านไม่อาจจะรับได้
“อย่างน้อย ตอนนี้ข้าได้ระดับสัญลักษณ์สีแดง” เจียงหลีพลิกฝ่ามือขึ้นมาใช้ลวดลายของดอกไม้มาตกแต่งตัวเองเพื่อปิดบังอารมณ์ ยิ้มอย่างเห็นอกเห็นใจ
“…” ชิงหว่านเงียบ ไม่มีคำพูดใด
ทั้งสองคนยังคงเดินเงียบๆ อยู่ในถ้ำสวรรค์ ไม่มีจุดหมาย เพราะว่าคนทั้งหมดในถ้ำสวรรค์ เป้าหมายเดี่ยวของพวกเข้าคือสังหารคน
ไม่รู้ว่าเดินไปนานแค่ไหน ทันใดนั้น ชิงหว่านหยุดเดิน ดึงไปที่แขนเสื้อของเจียงหลี “เจียงหลี นั้นซู่ซิน…รีบดู!”