ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 132 เหตุใดจึงอ่อนแอนัก
เมื่อได้ยินฉินเทียนอีพูดเช่นนี้ เจียงหลีมองไปที่เจ้าเปี๊ยกบนต้นไม้ที่กำลังทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่
สัตว์เดรัจฉานในบรรพกาล ดวงตาของเจียงหลีเป็นประกาย
ข้อสงสัยก่อนหน้านี้ นางนึกถึงสัตว์เลี้ยงผู้น่ารักของตนเป็นตัวแรกหลังจากตัดสำนักหลีหุนจงออกไปแล้ว อย่างไรก็ตา าม นางนึกแรงจูงใจในการกระทำเช่นนั้นไม่ออก
หรือว่าไม่ชอบหน้าฉินเทียนอีเพียงอย่างเดียวเลย เจียงหลีคาดเดาในใจ
“เจียงหลี!” เสียงเคร่งขรึมของฉินเทียนอีดึงความคิดของเจียงหลีกลับมา
“พวกมันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว” ฉินเทียนอีพูดอย่างจริงจัง
ด้วยคำเตือนของเขา เจียงหลีก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของวิญญาณชั่วร้ายที่อยู่รายล้อม ชั่วครู่ วิญญาณชั่วร้ายเห หล่านี้เฉื่อยชาเล็กน้อย การเคลื่อนไหวค่อนข้างเชื่องช้า และทักษะการต่อสู้ที่พวกเขาปลดปล่อยออกมาเหมือนข้างนอกดูดี แต่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้
แต่ขณะนี้วิญญาณชั่วร้ายทั้งหลายที่ยืนอยู่กับที่เริ่มบิดคอเสียงดัง กรอบแกรบ ข้อต่อทั่วทั้งร่างกายดูเหมือนจะเป ปิดออก พลังอำนาจที่ดุร้ายบนร่างของพวกเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม บริเวณโดยรอบหนาวเย็นฉับพลันและแฝงไปด้วยลมปราณ ที่บ้าคลั่ง
“ดูเหมือนพวกมันจะตื่นแล้วจริงๆ” เจียงหลีหรี่ตาลงเล็กน้อย
เจ้าเปี๊ยกบนต้นไม้ค่อยๆ ลืมตา ดวงตาสีเขียวครามจ้องมองเหตุการณ์ต่อหน้าอย่างเย็นชา
ฉินเทียนอีค่อยๆ ส่ายศีรษะ “พวกมันมีมากเกินไป หนีกันก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยว่ากัน”
“อืม” เจียงหลีพยักหน้า
ทันใดนั้น วิญญาณชั่วร้ายได้พุ่งเข้าหาเจียงหลีและฉินเทียนอีแล้ว
วิญญาณชั่วร้ายทั้งหลายเร็วดั่งสายฟ้า ทำให้ยากแก่การหลบหลีก
เมื่อเสียโอกาสหลบหนี จึงทำได้เพียงเผชิญหน้าสู้ต่อ
เจียงหลีเงยหน้ามองวิญญาณชั่วร้ายที่วิ่งกรูเข้ามา มันเร็วมากและมีใบหน้าที่ดุร้าย แต่หมัดที่ปล่อยออกมากลับ บค่อนข้างอ่อนแอ
แรงเขาไม่พอ! เจียงหลีตัดสินอย่างรวดเร็วในใจ
ขณะเดียวกัน ได้รวบรวมพลังวานรกลืนเวหาไว้ในมือ
ตู้มมม!
ขณะที่วิญญาณชั่วร้ายเข้ามาประชิด เจียงหลีเตรียมหมัดพร้อมระเบิดอย่างรุนแรง ทันทีที่หมัดทั้งสองปะทะกัน พลังอั นบ้าคลั่งของวานรกลืนเวหาพุ่งเข้าใส่ร่างของวิญญาณชั่วร้าย
วิญญาณชั่วร้ายที่เข้ามาประชิดตัวเจียงหลีได้ระเบิดกลายเป็นความว่างเปล่า
เจียงหลีตกตะลึง เกิดความแปลกประหลาดขึ้นในใจของนาง
อย่างไรก็ตาม นางไม่มีแม้แต่เวลาที่จะคิดเรื่องนี้ วิญญาณชั่วร้ายอีกตัวได้เข้าโจมตีนาง
ปัง!
เจียงหลีเปลี่ยนจากหมัดเป็นฝ่ามือแทนและดันไปข้างหน้า แรงสั่นสะเทือนอันแรงกล้ามาพร้อมกับลมบนฝ่ามือของนาง ใน ชั่วพริบตา วิญญาณชั่วร้ายจำนวนมากถูกโจมตี ร่างกายของพวกมันแตกสลายและหายวับไปในทันที
เจียงหลีหรี่ตา เม้มริมฝีปาก แต่ดวงตากลับดูเคร่งขรึมมากขึ้น
วิญญาณชั่วร้ายกระโจนเข้ามาอีกครั้ง เจียงหลีทำได้เพียงสู้ต่อไป
คราวนี้วิญญาณชั่วร้ายไม่ได้เลือกคนแล้ว นางและฉินเทียนอีล้วนได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกันวิญญาณชั่วร้ายที่ปรา ากฏรอบกายของพวกเขาหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ร่างของเจียงหลีเป็นประกายอย่างต่อเนื่องท่ามกลางวิญญาณชั่วร้ายเหล่านั้น และเมื่อวิญญาณชั่วร้ายกระโจนเข้าใส่ นา างก็สามารถฆ่าพวกมันได้ในกระบวนท่าเดียว
นางทำได้ ฉินเทียนอีก็ทำได้เช่นกัน
เพียงแต่เมื่อผลออกมาเช่นนี้ ความรู้สึกผิดปกติยิ่งผุดขึ้นในใจของเจียงหลี และไม่สามารถสลัดมันออกไปได้
ตามคำแนะนำของศิษย์พี่สาม วิญญาณชั่วร้ายในดินแดนผนึกมารไม่ได้อ่อนแอเช่นนี้! เจียงหลีงงงวยในใจ
“ทำไมพวกมันถึงได้อ่อนแอเช่นนี้” เสียงสงสัยของฉินเทียนอีดังขึ้นจากอีกฝั่งหนึ่ง
ดูเหมือนว่าระหว่างการต่อสู้ เขาจะค้นพบข้อสงสัยนี้
หากพลังโจมตีของวิญญาณร้ายอ่อนแอ ทำไมพวกเขาถึงต้องมาฝึกฝนที่นี่ด้วยเล่า
“มีบางอย่างผิดปกติ ระวังตัวด้วย” เจียงหลีตอบ
“เจ้าด้วย” ฉินเทียนอีมองหันกลับมากำชับ เมื่อมองเห็นหญิงสาวเจ้าเสน่ห์ต่อสู้กับวิญญาณชั่วร้าย ฉินเทียนอีก็ตก กตะลึงทันที
ดูเหมือนว่าพวกเขาได้ย้อนเวลากลับไปที่ซั่งตู
เขายังจำเหตุการณ์ที่ต่อสู้ในป่าเมื่อเจอกันครั้งแรกและการล่าสัตว์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิหลังจากนั้นได้ดี ร่างที่ดื้ อรั้นและหยิ่งผยองของนางได้ท้าทายสามในสิบผู้องอาจแห่งเมืองหลวง
เขาไม่เคยลืมว่านางต่อสู้เพื่อใคร
ณ เวลานั้น เขาถึงรู้ว่าหญิงสาวผู้แข็งแกร่งที่มีจิตวิญญาณแห่งนักสู้เพื่อมีชีวิตรอด และมีจิตวิญญาณที่ไม่ย่อท้อ นั้นโดดเด่นแค่ไหน
ความรู้สึกของนางที่มีต่อลู่เจี้ยนั้นน่าอิจฉานัก และขณะที่มองดูนางต่อสู้เพื่อลู่เจี้ยอย่างไม่ลังเล เขาถึงข ขั้นเคยเพ้อฝันว่าจะมีผู้หญิงปฏิบัติต่อตนเช่นนี้บ้างหรือไม่
น่าเสียดายที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาสิ้นสุดลงนับจากวันนั้น
เขาเดินทางออกจากหนานฮวงเร็วเกินไป จึงเสียโอกาสที่จะทำความรู้จักนางไป เมื่อได้พบกันอีกครั้ง นางไม่ใช่หญิงสาวที ดื้อรั้นคนนั้นอีกต่อไปแล้ว แต่กลับสูงส่ง งดงามจนยากจะละสายตา และสง่างามจนทำให้เขาหวั่นไหว
ปัง!
วิญญาณชั่วร้ายแตกสลายไปต่อหน้าต่อตาของฉินเทียนอี และปลุกเขาที่จมปลักอยู่ในอดีต
“หากเจ้าสติหลุดอีกครั้ง ข้าคงช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว” เจียงหลีพูดอย่างเย็นชา แสดงความไม่พอใจที่เขาเสียสมาธิระหว่ างการต่อสู้
ฉินเทียนอีหัวเราะและยอมรับความผิดอย่างจริงใจ “จะไม่ทำเช่นนั้นอีกแล้ว”
“ตกลงมีวิญญาณชั่วร้ายกี่ตัวกันแน่” เจียงหลีไม่เอาความแต่ถามกลับ และมุ่งสนใจแต่สถานการณ์ตรงหน้า แต่เกรงว่า จะไม่มีใครตอบคำถามของนางได้
ทั้งสองต่อสู้กับวิญญาณชั่วร้ายเป็นเวลานาน แขนทั้งสองข้างเริ่มเมื่อยล้า พลังวิญญาณถูกใช้ไปเกินครึ่งแล้ว แต่ว วิญญาณชั่วร้ายเหล่านั้นกลับไม่ลดลงเลย
“หือ?”
ทันใดนั้น หมัดของเจียงหลีหยุดอยู่ระนาบเดียวกับวิญญาณชั่วร้าย ทำไมนางถึงรู้สึกว่าวิญญาณชั่วร้ายตรงหน้า นางค คุ้นเคยนัก!
นางรีบฟื้นความทรงจำอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่ร่างหลักมีความสามารถในการจดจำสิ่งที่เคยมองเห็นได้อย่างแม่นยำ และในที่สุดก็จำได้ว่าวิญญาณชั่วร้ายต ตรงหน้าคือวิญญาณที่ถูกนางโจมตีและฆ่าด้วยหมัดแรก
ทำไมถึง… เจียงหลีตกใจเล็กน้อย
แต่กลับไม่ได้แสดงสีหน้าออกมาให้เห็น
เพราะในเวลานี้นางยังไม่แน่ใจและไม่รู้ว่าที่นี่จะมีกิเลสเสมือนฝาแฝดหรือไม่
อีกฝั่งหนึ่ง ฉินเทียนอียังคงต่อสู้ มองเห็นเท้าก้าวออกไปและแขนที่เขาเหวี่ยงออกมาเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที ราวกั บเหล็กหลอมที่เผาไหม้ด้วยเปลวไฟ
อุณหภูมิโดยรอบเพิ่มขึ้นกะทันหัน ความร้อนอันน่าหวาดกลัวที่ลุกโชนอย่างรวดเร็วทำลายวิญญาณชั่วร้ายทั้งหมดที่เข้าใก กล้ฉินเทียนอีด้วยทักษะการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวนี้
ความร้อนนี้ทำให้เจียงหลีหันกลับมามองเขา และเมื่อมองเห็นสีแดงราวกับเปลวไฟบนแขนของเขา ดวงตาที่สดใสของเจีย ยงหลีหดตัวลงและชื่นชม กลุ่มอำนาจทั้งหลายของซีฮวงย่อมมีลักษณะเฉพาะตนจริงๆ ด้วย
บัดนี้ ทุกกลุ่มอำนาจที่นางรู้จักล้วนมีวิธีการอันเฉียบขาดเฉพาะตนทั้งหมด
ตัวอย่างเช่น การสังเกตแผนที่ดาราเทพสงครามของวังเทียนอู่กง การดำรงอยู่ของมันแทบจะเป็นสัญลักษณ์ของการกำเนิด ทักษะการต่อสู้นับไม่ถ้วนในวังเทียนอู่กง หรือวิชาเสกหุ่นเชิดของสำนักหลีหุนจง วิชามารยาของวังเวิ่นฉิง ศาสตร ร์ลับในบรรพกาลของฮวงเสิน และตอนนี้…ตำหนักหลีหั่ว…
พรึบ!
ไฟอันน่ากลัวทะลุผ่านอากาศและปรากฏหมัดเปลวไฟขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่าแล้วกวาดผ่านไป ซึ่งเต็มไปด้วยเจตนาอันบ้า าคลั่งที่น่าสะพรึงกลัวและรวดเร็วมาก
หมัดไฟเหล่านี้ตกลงสู่วิญญาณชั่วร้ายโดยตรงจนบริเวณโดยรอบของฉินเทียนอีว่างเปล่าทันที
หลิงจงขั้นเก้า! แข็งแกร่งนัก! เจียงหลีประเมินในใจ
ขณะนี้ สายตาของนางเบนออกจากฉินเทียนอี และมองไปยังวิญญาณชั่วร้ายที่กำลังวิ่งกรูเข้ามาหานางอีกครั้ง เมื่อ ชั่วครู่นางเพิ่งฆ่าพวกมันไปแล้วรอบหนึ่ง
“ทำไมถึงมีมากเพียงนี้ ฆ่ายังไงก็ไม่หมด!” เสียงของฉินเทียนอีดังมาจากด้านข้าง
แน่นอนว่าหลังจากได้ยินคำพูดของเขา ดวงตาของเจียงหลีหรี่ลงอย่างรวดเร็ว ความคิดอันน่าสะพรึงกลัวผุดขึ้นในก้นบ บึ้งของหัวใจ…