ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 136 สู้กับวิญญาณชั่วร้าย!
“ชิงลงมือก่อนได้เปรียบที่สุด!”
ฉินเทียนอีกระทืบเท้าข้างหนึ่งออกไป แสงเปลวเพลิงส่องออกจากตัวเขาทันที ทั้งร่างราวกับอาบอยู่ในกองเพลิง
การฝึกฝนของตำหนักหลีหั่ว สามารถทำให้พลังวิญญาณกายร่างเป็นเปลวเพลิงมอดไหม้ทุกสรรพสิ่ง
เปลวเพลิงนั้นบีบให้เจียงหลีต้องถอยหลัง
แต่นางกลับพบว่าหลังจากที่ฉินเทียนอีขยับตัว เปลวเพลิงไล่หมอกทึบจนจางหายไปไม่น้อย แต่วิญญาณชั่วร้ายกลับไม่พุ งเข้าใส่เหมือนในตอนแรก
วิญญาณชั่วร้ายหนึ่งดวงก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและเผชิญหน้ากับฉินเทียนอี การจู่โจมของคนหลัง กลายร่างเป็นเปลวเ เพลิงลุกโชนพุ่งไปที่วิญญาณชั่วร้าย ส่วนวิญญาณชั่วร้ายกลับรวดเร็วอย่างมาก หลบหลีกการจู่โจมของฉินเทียนอีอย่างง ง่ายดายและหายไปในพริบตา
ศัตรูหายไปทันที ทำให้ฉินเทียนอีเอ่ยเงียบๆ ในใจ แย่แล้ว
ส่วนเจียงหลีที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง จู่ๆ กลับรู้สึกว่ามีเสียงทลายฟ้าดังขึ้น จิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัว ตั้งเป ป้ามาที่ตนแล้ว
“ระวัง!” เสียงของฉินเทียนอีดังขึ้นมา
ในขณะเดียวกันนั้น ร่างของเจียงหลีก็ส่องแสงเปล่งประกาย หลบหนีออกจากตำแหน่งนั้นทันที
นางเพิ่งจะหลบหนี วิญญาณชั่วร้ายที่ต่อสู้กับฉินเทียนอีก่อนหน้านี้ ปรากฏตัวหน้าเจียงหลีทันที
เมื่อมองเห็นเจียงหลีไม่เป็นอะไร ฉินเทียนอีก็โล่งใจ “ไอ้พวกวิญญาณรนหาที่ตาย!”
ทันใดนั้น เขาเหมือนว่าจะรู้สึกอะไรบางอย่างขึ้นมา สีหน้าจึงเปลี่ยนไปทันที “เจียงหลีระวัง! ”
ขณะที่เขาส่งเสียงเตือนออกไป เจียงหลีก็รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของบริเวณโดยรอบผ่านพลังจิตแล้ว วิญญาณชั่วร้ายที่ เคยหยุดนิ่งแล้ว ดูเหมือนกับวิญญาณที่ฟื้นคืนชีพจากนรกเก้าขุม และเริ่มจู่โจมมายังพวกเขาอีกครั้ง บนตัวของวิญญา าณชั่วร้ายพวกนั้นแผ่รังสีความอำมหิตออกมา ใบหน้าอันดุร้ายพุ่งเข้ามาฆ่าพวกเขา
“พวกเจ้าหนีไม่พ้นหรอก!”
“หนีไม่พ้น…!”
“หนีไม่พ้น…!”
“…”
เสียงนั้นออกมาจากปากของวิญญาณชั่วร้ายไม่หยุด
“วิญญาณชั่วร้ายของที่นี่แข็งแกร่งกว่าครั้งก่อนมาก!” ฉินเทียนอีรีบมายืนข้างกายเจียงหลี น้ำเสียงเต็มไปด้วยความ มตึงเครียด
ระหว่างการสนทนา เขาวาดมือไปข้างหน้า เปลวเพลิงหลายกองพุ่งออกจากปลายนิ้ว กลายเป็นดาวเพลิงฟาดฟันไปยังวิญญาณชั่ว วร้ายตรงหน้า
เจียงหลีก็ออกอาวุธพร้อมๆ กัน นางปลดปล่อยพลังวานรกลืนเวหาร่วมกับฝ่ามือพันคลื่นออกไป จู่ๆ ฝ่ามือที่ปลดปล่อยออ อกไปจำนวนมากจากบริเวณโดยรอบเข้าปะทะกับวิญญาณชั่วร้าย
ทั้งสองร่วมต่อสู้กันเคียงบ่าเคียงไหล่ เจียงหลีมีสีหน้าเยาะเย้ย ระหว่างที่ตวัดมือนำหลิวหลีกลับเข้ากระเป๋าวิเศ ศษ และตั้งใจรับมือกับการโจมตี
“อย่าให้พวกเขาล้อมเข้ามา”
ฉินเทียนอีปลดปล่อยเปลวเพลิงแสงออกไปอีกครั้ง จู่โจมวิญญาณชั่วร้าย หลังจากนั้น วิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้กลับไม่เหมือนก กับก่อนหน้านี้ ออกอาวุธเพียงครั้งเดียวก็ดับลง เปลวเพลิงเหล่านั้น ทันทีที่ตกลงบนร่างของพวกเขา ก็สลายกลายเป็น นควันเท่านั้น ไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก
“เป็นไปได้อย่างไร” ฉินเทียนอีสีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
การจู่โจมที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้ เขาเพิ่งพบเจอเป็นครั้งแรก
เจียงหลีใช้หางตาสำรวจเขาเล็กน้อย รีบเอ่ยเสียงเบา “ข้างหน้ามีถ้ำ เข้าไปหลบในนั้นก่อนเถิด”
ถ้ำหรือ
ฉินเทียนอีไม่ทันได้ถามเจียงหลีว่าเหตุใดจึงรู้ว่าข้างหน้ามีถ้ำ แต่เขาเชื่อคำพูดของเจียงหลี และขวางตัวเองอย ยู่ด้านหน้านาง ปลดปล่อยพลังวิญญาณอย่างไม่ยั้งราวกับไม่ต้องเสียเงิน “ข้าเปิดทางเอง”
เจียงหลีหันหลังชนหลังเขาไว้ เพื่อคุ้มกั้นวิญญาณชั่วร้ายที่ไล่ตามมา
เฉียนคุนเปี้ยนเปลี่ยนจักรวาล! เจียงหลีปลดปล่อยพลังอันหายากออกมา โจมตีวิญญาณชั่วร้ายด้วยพลังของวิญญาณชั่วร้า าย
วิธีนี้ใช้ได้ผล!
วิญญาณชั่วร้ายสองดวงหายไปพร้อมกัน เจียงหลีดวงตาเป็นประกาย
แต่วิญญาณชั่วร้ายที่เพิ่งหายไป ก็ปรากฏตรงด้านหลังอีกครั้ง
น่ารังเกียจสิ้นดี!
ความยินดีในแววตาอันลุ่มลึกของเจียงหลีหายไปในทันที
“เจียงหลี!” เสียงของฉินเทียนอีดังขึ้นมาจากด้านหน้า เขามองเห็นถ้ำที่เจียงหลีบอกแล้ว
หน้าปากถ้ำ หนามรายเรียง มีหญ้ารก และปากถ้ำเล็กมาก ต้องบิดเอวเข้าไปทีละคน ส่วนด้านในมีอะไรอยู่ มิอาจทราบได ด้
“ข้างในมี…”
ความกังวลของฉินเทียนอียังไม่ทันพูดจบ ก็รู้สึกว่าไหล่ของตนถูกจับแน่น แล้วก็หายไปพร้อมกับเจียงหลี และปรากฏ ฏตัวขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเข้ามายังในอุโมงค์แล้ว
ภายในอุโมงค์แสงสว่างน้อยมาก รอบด้านล้วนเป็นหินที่แข็งแรง ภายในไม่มีสิ่งใด ไม่ใหญ่ และหากมีคนเพิ่มขึ้นคนถึงสอ องคน เกรงว่าจะยืนกันไม่ได้
สีหน้าเจียงหลีเย็นเยือก
หากพูดถึงศาสตร์ลับที่นางใช้คล่องในตอนนี้ ยังไม่อาจหลบหนีในระยะไกลภายในเวลาอันสั้นได้ ยิ่งไม่พูดถึงการพาคน นติดตามไปด้วย
“พวกมันเข้ามาแล้ว” ฉินเทียนอียืนอยู่ปากถ้ำ มองเห็นวิญญาณชั่วร้ายกำลังมารวมตัวกันที่นี่
เจียงหลีถอยหลังไปหนึ่งก้าว อ้อมไปข้างหน้าฉินเทียนอี มองเห็นเพียงนางก้าวเท้าไปไม่กี่ก้าว แสงสว่างก็ส่องแสงขึ นไปยังที่สูงและปรากฏต่อหน้านาง กั้นปากถ้ำอย่างแน่นหนา
ปัง!
การจู่โจมของวิญญาณชั่วร้ายตกลงบนแสงนั้น ร่างก็สลายหายไป
“ยอดเยี่ยมมาก!” ฉินเทียนอีแววตาลุกวาว และขยับเข้ามาใกล้
ภายนอกถ้ำ การจู่โจมของวิญญาณชั่วร้ายยังคงดำเนินต่อไป แต่ก็ไม่สามารถทำลายลำแสงของเจียงหลีได้ในระยะเวลาอันสั้น น
เจียงหลีกลับไม่ได้รู้สึกดีใจอะไร นางขมวดคิ้วแน่น สีหน้ายังคงเรียบนิ่ง
“นี่คือศาสตร์ลับของฮวงเสินหรือ” ฉินเทียนอียื่นมือออกไปลองแตะลำแสงนั่นดู แต่กลับไม่รู้สึกถึงพลังวิญญาณที่เ เคลื่อนไหวจากในนั้น จึงคาดเดาแล้วเอ่ยขึ้น
เจียงหลีมุมปากยิ้มขึ้นเล็กน้อย เอ่ยเงียบๆ ในใจ ศาสตร์ลับของฮวงเสินช่างมีชื่อเสียงเสียจริง
“อืม เป็นศาสตร์ลับ แต่ข้าเพิ่งฝึกได้ไม่นาน” เจียงหลีเอ่ยตามจริง
“ศาสตร์ลับแห่งฮวงเสินช่างสมคำล่ำลือจริงๆ” ฉินเทียนอีมองวิญญาณชั่วร้ายที่อยู่ด้านนอกซึ่งโจมตีเข้ามาไม่ได้ ก็ รู้สึกโล่งใจขึ้นมา “ไม่รู้ว่าข้าจะฝึกได้หรือไม่”
“ได้สิ ก็แค่ย้ายสำนักมาเป็นศิษย์ของฮวงเสินก็ได้แล้ว คนรู้จักกัน ข้าสามารถช่วยขอกับซือจุนได้ ให้เขารับศิ ษย์หลานเพิ่มอีกสักคน” เจียงหลียกคิ้วยิ้มเอ่ย
ฉินเทียนอีตอบกลับทันที “เจ้าคิดไม่ดีกับข้าก็มากพอแล้ว ยังจะมาเอาเปรียบข้าอีก ผลลงโทษของการทรยศอาจารย์หนัก กมากนะ”
“ใครใช้ให้เจ้าโลภอยากได้ศาสตร์ลับขงฮวงเสินล่ะ” เจียงหลีเอ่ยเย้าแหย่
ฉินเทียนอีส่ายศีรษะ เอ่ยอย่างเอือมระอา “ข้ากล้าโลภซะที่ไหนกัน เพียงแค่ถามดูเท่านั้น”
ปากถ้ำ วิญญาณชั่วร้ายยังคงโจมตีไม่หยุด โชคดีที่ปากถ้ำมีขนาดเล็ก แม้จะต้องตั้งรับการจู่โจม ก็มีเพียงวิญญาณชั่วร ร้ายตัวเดียวที่ออกอาวุธได้
มองดูอยู่สักพัก ฉินเทียนอีเอ่ยถาม “ศาสตร์ลับนี้จะทนได้นานแค่ไหน”
เจียงหลีเข้าใจความหมายของเขา เขาต้องการรอให้วิญญาณชั่วร้ายถึงเวลาพักผ่อน แล้วค่อยออกไปจากที่นี่
“ยังกันได้อยู่” เจียงหลีตอบ
แต่นางกลับไม่ได้พูดถึงสิ่งผิดปกติในใจออกมา นางรู้สึกว่าวิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้จะไม่นอนหลับพักผ่อน พลังการต่อสู้ ของพวกมันแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้ที่เคยปะทะกันอยู่มาก
“ถ้าเช่นนั้นก็ดี พวกเราจะได้พักผ่อนกัรสักครู่” ฉินเทียนอีพูดจบ ก็เดินเข้าไปนั่งลงตรงด้านในถ้ำ
เจียงหลีดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย เดินไปยังตำแหน่งตรงข้ามฉินเทียนอีแล้วนั่งลง เหตุใดวิญญาณชั่วร้ายถึงวางกับดักไ ไว้ในนี้
คือสิ่งที่เตรียมไว้ให้กับผู้ฝึกฝนอย่างพวกเขาโดยเฉพาะอย่างนั้นหรือ
“เต่าหดหัวอยู่แต่ในกระดอง…” เสียงที่ไม่น่าฟัง ออกมาจากปากของวิญญาณชั่วร้ายจากนอกถ้ำ
เจียงหลีหันหลังกลับไปมองโดยไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ ฉินเทียนอีก็เหลือบมองด้านบน มองเยาะวิญญาณชั่วร้ายที่อยู่ ปากถ้ำ “ท่านอาวุโส ขายหน้าต่อหน้าท่านแล้ว พวกเราทั้งสองพบเจอกับพวกคนแก่หนังเหนียวตามไล่ฆ่า หลบซ่อนตัวชั่วคร ราวจึงถือเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด”
เจียงหลียิ้ม
ฉินเทียนอีผู้นี้ ยังมาหาว่านางพูดจาอำมหิตอีก เขาก็ไม่ได้น้อยหน้าเลย
“อยากตายหรือ!” วิญญาณชั่วร้ายเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างกำลังมองมายังฉินเทียนอี
ฉินเทียนอีกลับท้าทาย “มาสิ! ข้ารออยู่ตรงนี้ ท่านมาฆ่าข้าสิ”