ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 21 เช่นนี้ก็ได้หรือ
!
เจียงหลีและชิงหว่านต่างตกตะลึงและชำเลืองมองกัน
สำนักพรตเสวียนหมิงนี้มีชื่อเสียงมากเลยหรือ เป็นบุคคลที่สามารถมองจากเสื้อผ้าของพวกนางก็รู้ว่ามากจากไหนแล้วหรือ เจียงหลีพึมพำในใจ
“ใช่แล้ว” ชิงหว่านที่อยู่ด้านข้างยอมรับสถานะของตนอย่างซื่อสัตย์
ชายผู้มอมแมมผมเผ้ากระเซอะกระเซิงฉีกยิ้ม ฟันสีขาวเห็นเด่นชัดเป็นพิเศษ “นึกไม่ถึงว่าก่อนข้าจะออกไป ข้าจะโชคดีพอที่จะได้พบกับธิดาสวรรค์แห่งสำนักพรตเสวียนหมิง”
สายตาของเขามองไปมาระหว่างเจียงหลีและชิงหว่าน แม้จะตรงแต่กลับทำให้อึดอัด “งดงาม! งดงามจริงๆ ! ว่ากันว่าธิดาสวรรค์ของสำนักพรตเสวียนหมิงงดงามราวกับเทพธิดา วันนี้ได้พบเจอ ช่างสมคำล่ำลือจริงๆ”
น้ำเสียงของชายคนนั้นดูเหมือนจะเจ้าชู้อยู่บ้าง แต่เจียงหลีกลับสัมผัสได้เพียงความชื่นชมในดวงตาของเขา และไม่มีความคิดชั่วร้ายอื่นใดแฝงอยู่
“ธิดาสวรรค์ทั้งสองเพิ่งจะมาถ้ำสวรรค์เป็นครั้งแรก วันสองวันนี้ ก็เดินเล่นตลาดแห่งนี้ไปก่อนจะดีกว่า” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม
“ท่านรู้ได้อย่างไรว่าเราเพิ่งมาถึงถ้ำสวรรค์” ชิงหว่านถามด้วยความประหลาดใจ
ชายหนุ่มยิ้มโดยไม่พูด แต่ท่าทางของเขาบ่งบอกชัดเจนจนเหลือเพียงสลักคำว่า มาเยือนเป็นครั้งแรก ฝากเนื้อฝากตัวด้วย บนหน้าผากแล้ว
“ธิดาสวรรค์ผู้นี้เก่งจริงๆ เพิ่งเข้ามาก็ขึ้นสัญลักษณ์สีแดงแล้ว” สายตาของชายหนุ่มจ้องมองไปที่เจียงหลี
เจียงหลีขมวดคิ้ว สัญลักษณ์สีแดงบนหน้าผากของนางเด่นชัดเกินไปจริงๆ
“ยอดฝีมือในถ้ำสวรรค์แห่งนี้บางครั้งก็เป็นเรื่องแย่ บางครั้งก็เป็นเรื่องดี” ชายหนุ่มพูดอย่างมีเลศนัย
แต่หลังจากเขาพูดจบ เจียงหลีสัมผัสได้ว่าผู้คนที่เดินผ่านไปมากำลังมองหน้าตนโดยไม่รู้ตัว
“เจียงหลีทำไมพวกเขาจ้องมองมาที่พวกเรา” ชิงหว่านก็สังเกตเห็นสายตาที่ไม่เป็นมิตรเช่นกันและถามเจียงหลีเสียงเบา
ไม่ได้มองพวกเรา แต่มองข้าต่างหาก เจียงหลีพูดเสียงเงียบในใจ
ชายหนุ่มหัวเราะเสียงเบา เงยหน้าดื่มสุราและไม่ได้แก้ไขความเข้าใจผิดของชิงหว่าน
“ไปกันเถอะ” เจียงหลีพูดกับชิงหว่านด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ชิงหว่านพยักหน้า
ทั้งสองกำลังจะเดินจากไปและเข้าไปในตลาดต่อ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นก้าวเดินได้เพียงสองก้าว ชายหนุ่มก็ตะโกนว่า “ช้าก่อน”
“มีอะไรชี้แนะอีกหรือ” เจียงหลีหันกลับมามองเขา
ชายหนุ่มยิ้มและพูดว่า “วันนี้ข้าอารมณ์ดี ใจบุรุษควรทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรี อย่างไรก็ตาม ยังเหลือเวลาอีกเจ็ดวัน ข้าก็จะออกจากที่นี่แล้ว ช่วงเวลานี้ พวกเจ้าติดตามข้า จะได้ทำความคุ้นชินกับถ้ำสวรรค์”
ความหวังดีอย่างฉับพลันเช่นนี้ ทำให้เจียงหลีเลิกคิ้ว มองเขาอย่างครุ่นคิด
ชิงหว่านเฝ้าระวังและมองเขาอย่างใจเย็น “ท่านกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่ใช่ว่าจะฆ่าพวกเรานะ”
การคาดเดาของนางทำให้ชายหนุ่มหัวเราะเยาะ ยกมือขึ้นอย่างเกียจคร้านและเสยผมยาวยุ่งเหยิงต่อหน้าตน
เพียงครู่เดียวเขาก็ปล่อยผมลงมาปิดหน้าผากอีกครั้ง
แม้จะเพียงครู่เดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับทั้งเจียงหลีและชิงหว่านที่จะเห็นสัญลักษณ์สังหารบนหน้าผากของเขา
สีทอง! ดวงตาของเจียงหลีเป็นประกาย
ชิงหว่านพูดตะกุกตะกักด้วยความตกใจ “ท่าน ท่าน ท่าน…ท่าน…ฆ่าคนไปแล้วกี่คน…”
ชายหนุ่มยิ้มอย่างสบายๆ “ณ ที่แห่งนี้ ไม่ใช่เจ้าฆ่าคนก็จะมีคนมาฆ่าเจ้า หากเจ้ามีชีวิตอยู่ถึงสี่สิบวันก็จะเป็นเหมือนข้า”
“หลังจากฆ่าคนไปห้าร้อยคน และหลังจากสัญลักษณ์สังหารเปลี่ยนเป็นสีทอง หากเจ้าฆ่าคนต่อ ก็จะไม่เปลี่ยนสีแล้ว” ชิงหว่านแอบพูดข้างหูเจียงหลี
แววตาของเจียงหลีเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทันใดนั้นก็ยิ้มอย่างมีเสน่ห์เย้ายวนและพยักหน้าว่า “ต้องรบกวนท่านจอมยุทธ์แล้ว”
“เจียงหลี!” ชิงหว่านพูดเสียงกังวลด้วยความประหลาดใจ
เจียงหลีส่ายหัวที่แทบจะสังเกตไม่เห็นและอธิบายด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านจอมยุทธ์ผู้นี้มีสัญลักษณ์สีทองและไม่จำเป็นต้องฆ่าคนอีกต่อไป ขอเพียงแค่สองสามวันนี้ ไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ ก็จะสามารถออกไปได้อย่างปลอดภัย พวกเรามาที่นี่เป็นครั้งแรก มีจอมยุทธ์คอยชี้แนะ ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว”
“ฮ่าๆๆ…ธิดาสวรรค์เฉลียวฉลาดนัก เพียงพริบตาก็มองออกทันทีว่าข้าต้องการรักษาชีวิตไว้เท่านั้น” ชายหนุ่มหัวเราะลั่น
หลังจากฟังคำอธิบายของเจียงหลีและคำพูดของชายผู้นั้น กำแพงในใจของชิงหว่านก็ลดลงเล็กน้อย
“ไปกันเถอะ ข้าจะพาพวกเจ้าไปพักผ่อนก่อน” ชายหนุ่มเดินออกจากโรงน้ำชาอย่างโซเซและนำทางหญิงสาวทั้งสอง
ระหว่างทางชิงหว่านได้สอบถามชื่อของชายผู้นั้น
ชายหนุ่มตอบกลับว่าในถ้ำแห่งนี้ มีวันนี้อาจไม่มีพรุ่งนี้ ชื่อเรียกก็ช่างมันไปเถิดเพราะเขาคิดว่า ‘จอมยุทธ์’ สองพยางค์นี้ไม่เลวเลยก็เรียกแทนชื่อจริงแล้วกัน
เขาแสร้งทำเป็นสง่างาม แต่เจียงหลีกลับได้ยินคำพูดที่ระมัดระวังปนอยู่ด้วยเล็กน้อย เขากลัวว่าการที่ฆ่าคนที่นี่มากเกินไป หลังจากออกจากถ้ำสวรรค์ อาจจะถูกคนชำระแค้นกับตระกูลตนก็เป็นได้
จอมยุทธ์พาพวกนางไปยังโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง
โรงเตี๊ยมของถ้ำสวรรค์มิได้ความหรูหราเท่าไรนักถึงขั้นพูดไม่ได้ว่าสะอาดด้วยซ้ำ
พักค้างคืนอย่างไม่เต็มใจสักคืนและหลังจากได้ยินจอมยุทธ์พูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้นในถ้ำสวรรค์ เมื่อทั้งสามคนเดินออกจากตลาดในวันรุ่งขึ้น หน้าผากของเจียงหลีได้ผุดลายดอกไม้ที่ละเอียดอ่อนขึ้นและปิดสัญลักษณ์สีแดงมิดชิด
ตามคำพูดของจอมยุทธ์สิ่งนี้เรียกว่านิ่งสยบความเคลื่อนไหว ตั้งใจแต่งกายมอมแมมเช่นเดียวกับเขาและทำทรงผมยุ่งเหยิงเพื่อปกปิดหน้าผากของตนซึ่งแตกต่างอย่างลงตัว
เพราะการเข่นฆ่าคนนับร้อยเป็นเรื่องที่เหน็ดเหนื่อยและอันตรายเกินไป แต่การฆ่าคนที่มีสัญลักษณ์สีแดงนั้นง่ายกว่ามากและสามารถเพิ่มจำนวนได้อีกร้อยชีวิตในชั่วพริบตา
“วันนี้ข้าจะพาพวกเจ้าไปเปิดหูเปิดตายังสนามล่าสัตว์แถวนี้ที่ได้รับความนิยมสูงสุด” ระยะทางห่างออกจากตลาดไม่ไกลนักและต้องเดินเข้าไปในก้นหุบเขา จอมยุทธ์กล่าว
“สนามล่าสัตว์หรือ” ชิงหว่านถามอย่างสงสัย
จอมยุทธ์หันไปมองเจียงหลีและหัวเราะ “เจ้าเป็นคนที่น่าสนใจมาก มาถึงถ้ำสวรรค์ยังจะพกสัตว์เลี้ยงมาด้วย”
เจียงหลียิ้มโดยไม่อธิบาย
ชายหนุ่มก็ไม่สนใจและหันไปสบตาชิงหว่าน “ที่เรียกว่าสนามล่าสัตว์ เพราะเป็นสถานที่ที่ผู้ชำนาญจำนวนมากซุ่มโจมตีผู้มาเยือนใหม่ของถ้ำสวรรค์”
อ๊ากกก!
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องที่ไหนสักแห่งของก้นหุบเขาดังขึ้น
ดวงตาของจอมยุทธ์สว่างขึ้นและพูดกับทั้งสองคนว่า “เร็ว! ตามข้ามา มีละครน้ำดีให้ดู!”
หญิงสาวทั้งสองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้แต่ตามเขาไปยังพงหญ้า หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาทั้งสามก็เดินมาถึงสถานที่ที่มีกำบังและมองเหตุการณ์ตรงหน้าผ่านรอยต่อของลวดหนามและก้อนหิน
อ๊ากกก!
มองเห็นชายคนหนึ่งคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวดอยู่ตรงหน้า โดยเลือดไหลนองเต็มตัวและนิ้วมือทั้งสิบแนบติดกับพื้น ขณะที่ด้านหลังของเขา เนตรญาณทั้งสี่ถูกเปิดออกและวิญญาณยุทธ์หนึ่งในนั้นถูกดึงออกมาอย่างช้าๆ
ข้างกายเขามีชายสี่คนยืนยิ้มอย่างชั่วร้าย ซึ่งหนึ่งในนั้นกำลังคว้าวิญญาณยุทธ์ที่ถูกดึงออกมาอย่างแรง
“พวกเขากำลังทำอะไรหรือ” เจียงหลีถามด้วยเสียงตกใจ
นางไม่เคยรู้มาก่อนว่าวิญญาณยุทธ์ถูกดึงออกมาได้
จอมยุทธ์เปลี่ยนจากความใจเย็นก่อนหน้านี้และพูดด้วยเสียงเย็นชา “น่าจะอยากได้วิญญาณยุทธ์ของคนผู้นั้น ไหนๆ ก็จะฆ่าเขาแล้ว สู้เอาวิญญาณยุทธ์ระดับสูงออกมาด้วยและหลังจากออกจากที่นี่ ก็สามารถเอาไปขายทอดยังตลาดมืดได้”
ได้ฟังเพียงเท่านี้ เจียงหลีทั้งตะลึงและทั้งตกใจ
นางคิดมาโดยตลอดว่าหลังจากประสานวิญญาณยุทธ์สำเร็จแล้วก็จะหลอมรวมกับเจ้าของและแยกออกจากกันไม่ได้ นึกไม่ถึงว่าจะทำเช่นนี้ได้ด้วย