ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 45 ความโกรธที่มาจากเจ้าเปี๊ยก
ณ พระราชวังเทียนอู่กง
ชื่อที่ไม่คุ้นเคย ทำให้เจียงหลีมึนงง นางจึงเอ่ยถาม “วังเทียนอู่กงหรือ มันคือที่ใดกัน”
ปฏิกิริยาตามธรรมชาติของนางกลับทำให้กงเสวี่ยฮวารู้สึกประหลาดใจ เขากล่าวอย่างไม่เชื่อว่า “เจ้า…เจ้าไม่รู้จักวังเทียนอู่กงอย่างนั้นรึ”
เจียงหลีกะพริบตาและมองไปที่กงเสวี่ยฮวาด้วยความไม่เข้าใจ
ทำไมการที่นางไม่รู้จักวังเทียนอู่กงช่างเป็นเรื่องที่ร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ
“ข้าควรรู้จักด้วยหรือ” เจียงหลีโต้กลับอย่างมั่นใจ “ในดินแดนซีฮวง มีกลุ่มอำนาจตั้งมากมาย ข้าต้องรู้จักทุกกลุ่มเลยหรือไง”
กงเสวี่ยฮวาถอนหายใจเพราะนางและดื่มน้ำแก้วใหญ่ แล้วกล่าวว่า “ใช่ ในซีฮวงมีกลุ่มอำนาจตั้งมากมาย เจ้าจะไม่รู้จักทั้งหมดมันก็เป็นเรื่องปกติ แต่เจ้าจะไม่รู้จักกลุ่มอำนาจระดับสูงทั้งเจ็ดไม่ได้!
กลุ่มอำนาจระดับสูงทั้งเจ็ด!
ดวงตาของเจียงหลีหรี่ลงและรู้สึกตกตะลึง
หรือว่า…
ไม่รอให้นางได้เดา กงเสวี่ยฮวาก็อธิบายให้นางฟังว่า “วังเทียนอู่กงเป็นหนึ่งในเจ็ดกลุ่มอำนาจระดับสูงแห่งซีฮวง เจ้าไม่รู้จักหรือ”
มุมปากของเจียงหลีกระตุกอย่างรุนแรง นางมองกงเสวี่ยฮวาจากบนลงล่าง “เมื่อกล่าวถึงวังเทียนอู่กง เจ้าก็มีปฏิกิริยาเช่นนี้ ทำเหมือนวังเทียนอู่กงเป็นบ้านเจ้าอย่างนั้นแหละ ”
ใครจะไปรู้ว่าทันทีที่นางพูดจบ กงเสวี่ยฮวาก็เงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “ถูกต้อง! วังเทียนอู่กงเป็นบ้านข้าเอง ข้าเป็นถึงนายน้อยแห่งวังเทียนอู่กงเลยนะ! ”
เอ่อ!
เจียงหลีมองเขาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ที่แท้ นายน้อยจากกลุ่มอำนาจระดับสูงเป็นเช่นนี้เองหรือ
“นี่ สายตาเจ้าหมายความว่าอย่างไร” กงเสวี่ยฮวาไม่เห็นความตกใจและความอิจฉาในสายตาของเจียงหลีและแสร้งถามอย่างไม่พอใจ
“เจ้าอยากให้ข้ามองเจ้าด้วยสายตาเช่นไรดีล่ะ” เจียงหลีกล่าวอย่างขบขัน
อย่างไรก็ตาม ตัวตนของกงเสวี่ยฮวา…ช่างเป็นเกียรติอย่างสูงยิ่งนัก เมื่อเทียบกับนางที่เป็นจักรพรรดินีจยาเซียนแห่งหนานฮวงแล้ว เกรงว่าคงต้องยอม
ความจริงแล้ว เจียงหลีก็ทราบดีว่าฐานะของเจียงหลีสําหรับผู้คนในซีฮวงแล้วนั้น ไม่สามารถเทียบอะไรได้เลย
อย่างสำนักพรตเสวียนหมิง ประมุขสำนักพรตคนหนึ่งก็เป็นถึงระดับหลิงหวัง หากอยู่ในหนานฮวงก็เหมือนกับคุมท้องฟ้าด้วยมือเดียวอย่างนั้นแหละ
“เอ่อ…” กงเสวี่ยฮวาถูกเจียงหลีป่วนพรางเกาหัว “เจ้ามองข้าด้วยสายตาปกติเถอะ”
“ในเมื่อเจ้าเป็นถึงนายน้อยแห่งวังเทียนอู่กงแล้ว เหตุใดเจ้าถึงได้ไปอยู่ที่ถ้ำสวรรค์ล่ะ ” เจียงหลีถามอย่างสงสัย นางจำได้ว่าด่านถ้ำสวรรค์เป็นเพียงกลุ่มอำนาจระดับต่ำเท่านั้น และยังเป็นกลุ่มอำนาจระดับต่ำในทางตอนใต้ด้วย
“เมื่อเดินทางถึงที่นั่น ข้าก็รู้สึกสงสัยก็เลยเข้าไปไงเล่า” กงเสวี่ยฮวากล่าวอย่างสบายๆ
เมื่อได้ยินคําอธิบายของเขา เจียงหลีถึงกับพูดไม่ออก นางดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่านายน้อยแห่งกลุ่มอำนาจระดับสูงนั้นคิดอย่างไรอยู่
รู้สึกสนใจเลยเข้าไปหรือ ไม่กลัวจะถูกฆ่าเลยรึไงกัน อย่างไรก็ตาม ดูจากอีกมุมหนึ่ง ก็พิสูจน์แล้วว่ากงเสวี่ยฮวานั้นไม่ได้ธรรมดา และมีความมั่นใจในความสามารถของตัวเองอย่างแน่นอน
“เจียงหลี เมื่อครู่ข้าพูดจริงๆ นะ ข้าว่าเจ้าไม่จําเป็นต้องไปที่กลุ่มอำนาจฮวงเสินนั่นหรอก เจ้ากลับไปที่วังเทียนอู่กงกับข้าไม่ดีกว่าหรือ ข้ารับรอง เมื่อเจ้าเข้าไป ข้าจะทำให้เจ้าเป็นศิษย์สายรองทันที ส่วนจะสามารถเป็นศิษย์หลักได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเองแล้วล่ะ” กงเสวี่ยฮวากล่าวเชิญอีกครั้ง
หากไม่มีสถาบันไป๋หยวน หากไม่มีท่านอาจารย์หนานและคนอื่นๆ เจียงหลีคงจะรับปากคําเชิญจากกงเสวี่ยฮวาแล้ว แต่ตอนนี้…
“ทําไมเจ้าถึงอยากให้ข้าไปที่วังเทียนอู่กงมากนัก ” เจียงหลีถามอย่างสงสัย
ความกระตือรือร้นของกงเสวี่ยฮวา ทําให้เจียงหลีรู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย พวกเขาสนิทกันมากหรือ
แต่กงเสวี่ยฮวากลับโบกมือและกล่าวอย่างมั่นใจว่า “เพราะเจ้าน่าสนใจ”
เอ่อ…
มุมปากของเจียงหลีกระตุก นางบ่นในใจว่า นี่คือเหตุผลบ้าอะไรกันเนี่ย
กงเสวี่ยฮวาถอนหายใจ “เจ้าก็รู้ว่าในฐานะนายน้อย ตำแหน่งที่สูงจนหนาวเหน็บเช่นนั้น หาเพื่อนได้ยากแค่ไหน คนในวังเทียนอู่กงล้วนประจบประแจงข้า ช่างน่าเบื่อเสียจริง แต่เจ้าต่างจากพวกเขา ตอนแรกข้าแค่รู้สึกว่าในเมื่อได้รู้จักกัน หากเจ้าต้องการหาสถานที่ซ่อนกาย ข้าช่วยคนก็ต้องช่วยจนสุด เลยว่าจะพาเจ้ากลับไปยังวังเทียนอู่กงดีกว่า ใครจะไปรู้ว่าเจ้าจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวังเทียนอู่กงคืออะไร และหลังจากรู้ว่าข้าเป็นนายน้อย เจ้าก็ไม่ได้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อข้า ซึ่งนั่นหาได้ยากยิ่งนัก”
เหอะๆ
เจียงหลียิ้มอย่างเย็นชา “ข้าขอบพระคุณนายน้อยเป็นอย่างสูงที่ยกย่องข้า ท่านบอกข้ามาเถิดว่าฮวงเสินอยู่ที่ไหน”
“ทําไมเจ้าถึงคิดถึงแต่ฮวงเสินนัก ” กงเสวี่ยฮวากล่าวอย่างไม่พอใจ
เจียงหลีเลิกคิ้วและไม่อธิบาย
กงเสวี่ยฮวาจนปัญญา จึงได้แต่กล่าว “ฮวงเสินนั้นอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของซีฮวง ห่างจากที่นี่หนึ่งแสนแปดพันลี้ ”
ทางทิศตะวันออก!
เจียงหลีถอนหายใจอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าการเดินทางไปยังฮวงเสินจะไกลมากจริงๆ
แต่โชคดีที่ในที่สุดนางก็รู้แล้วว่าฮวงเสินอยู่ตำแหน่งใดในซีฮวงแล้วล่ะ
“จริงสิ เมื่อครู่เจ้าพูดถึงกลุ่มอำนาจระดับสูงทั้งเจ็ดมีที่ใดบ้าง” เจียงหลีถามขึ้นอย่างกะทันหัน
กงเสวี่ยฮวาตกตะลึงและถามด้วยความประหลาดใจ “เจ้าโผล่มาจากไหน เหตุใดถึงไม่รู้อะไรเลย”
“คนบ้านนอกขี้ขลาดตาขาวเยี่ยงข้า ไม่รู้จักกลุ่มอำนาจใหญ่โตอย่างพวกท่านหรอก โปรดอย่าได้ถือสา” เจียงหลีอธิบายอย่างสบายๆ
กงเสวี่ยฮวากลอกตามองนางแวบหนึ่ง แล้วจึงกล่าวว่า “กลุ่มอำนาจระดับสูงทั้งเจ็ด แบ่งเป็น วังเทียนอู่กงของข้า วังต้าเหยี่ยน ตําหนักหลีหั่ว ป้อมปราการเฟยอวิ๋น สำนักจื่อเซียว สำนักจินกวงเหมินและหอฉยงเซียน” กล่าวจบ เขาก็ไม่ลืมที่จะเพิ่มเติมว่า “ระดับไม่แบ่งว่าใครมาก่อนใครมาหลังนะ ”
เจียงหลีจำชื่อของกลุ่มอำนาจเหล่านี้ไว้ในใจอย่างเงียบๆ
จากหนานอู่เฮิ่น นางก็รู้อยู่แล้วว่ากลุ่มอำนาจที่ฮวงเสินกําลังจะท้าประลองในงานปฐกถาเจ้าครองนครนั้นเป็นหนึ่งในเจ็ดกลุ่มอำนาจระดับสูงเหล่านี้
“เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าลองคิดดู ว่าเจ้าจะกลับไปที่วังเทียนอู่กงกับข้าหรือไม่” กงเสวี่ยฮวากล่าวอย่างไม่ยอมแพ้
ขณะที่ทั้งสองกําลังพูดคุยกันอยู่ก็รู้สึกถึงสายลมเย็นยะเยือกพัดผ่านมาอย่างกะทันหัน
กงเสวี่ยฮวาหดคอลงและพึมพํา “ทําไมข้าถึงรู้สึกเย็นอย่างกะทันหันเช่นนี้”
เจียงหลีนั่งอยู่ตรงข้ามเขาพอดี เมื่อได้ยินคําพูดของเขา นางก็เงยหน้าขึ้นและมองไปบนเตียง “หลิวหลี เจ้าตื่นแล้วหรือ”
เจียงหลีรู้สึกดีใจ ลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไป
กงเสวี่ยฮวากะพริบตามองไปรอบๆ และเห็นสัตว์เลี้ยงของเจียงหลีตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ มันกําลังนอนอยู่บนเตียง ดวงตาเรียวงามของหลิวหลีจ้องมาที่เขาอย่างตรงไปตรงมา
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เขารู้สึกว่าแววตาของเจ้าตัวเล็กนั้นน่ากลัวราวกับอยากจะฆ่าเขาก็มิปาน
ทันใดนั้น กงเสวี่ยฮวาก็รู้สึกว่าตนเองไม่สามารถอยู่ในห้องนี้อีกต่อไป เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องไป
สายตาที่มืดมนนั้นเคลื่อนไหวตามการเคลื่อนไหวของเขา ทําให้หัวใจเขาตื่นตระหนกและเร่งฝีเท้าของเขาให้เร็วขึ้น
แต่ก่อนที่เขาจะจากไป เขาก็ไม่ลืมที่จะกล่าวกับเจียงหลีว่า “เจ้าได้ยินเรื่องซากกำแพงอวิ๋นเมิ่งหรือไม่ ว่ากันว่าเกี่ยวข้องกับกลองศิลาจารึก เจ้าสนใจที่จะไปดูด้วยกันหรือไม่ ”
กลองศิลาจารึก!
ดวงตาของเจียงหลีเป็นประกาย นางหันกลับไปมองเขา แต่เห็นเพียงเงาร่างของกงเสวี่ยฮวาที่กำลังหลบหนีเท่านั้น
“…”
เจ้าบ้า!
เจียงหลีบ่นอยู่ในใจ สายตาหันกลับไปมองเจ้าเดรัจฉานน้อยที่เงยหน้ามองนางอีกครั้ง
ดวงตาที่แวววาวและกลมโตนั้น ช่างน่ารักเหลือเกิน!
ด้านนอกประตู กงเสวี่ยฮวากำลังตบหน้าอกแบนๆ ของตนเองด้วยความหวาดกลัว หลังจากที่ความรู้สึกถูกจ้องมองหายไป เขาก็พึมพํากับตัวเอง “สายตาของสัตว์เลี้ยงตัวนั้นน่ากลัวนัก!”