ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 53 ทะลุผ่าน! ทะลุผ่านอีก!
พลังแห่งน้ำพุ ระเบิดออกมาอย่างกะทันกันและห่อหุ้มเจียงหลีไว้ด้านใน นางไม่ทันได้ตั้งตัว น้ำพุที่เงียบสงบแต่เดิมพุ่งขึ้นไปกลายเป็นกระแสน้ำทันที และเจียงหลีก็ถูกควบคุมไว้บริเวณจุดสูงสุด คราบความกระเซอะกระเซิงบนตัวนางได้หายไปอย่างหมดจด
นางในตอนนี้ดูเหมือนนักพรตเฒ่าที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ ไม่ได้รับผลกระทบจากโลกภายนอก
ในน้ำพุ ดูเหมือนว่ามีพลังวิญญาณที่เข้มข้นซ่อนอยู่ ซึ่งกำลังถูกนางดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง
กรอบๆๆ!
มีเสียงกรอบๆ ดังออกมาและแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นข้างหลังของเจียงหลี วิญญาณยุทธ์ของนางปรากฏอยู่ข้างหลังของนาง วิญญาณยุทธ์ทั้งสี่ล้อมรอบนางราวกับกำลังปกป้องเทพอย่างไรอย่างนั้น
หลิงจงระดับห้า ผ่าน!
หลิงจงระดับหก ผ่าน!
หลิงจงระดับเจ็ด ผ่าน!
ระดับขั้นฝึกฝนของเจียงหลีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับว่าขอบเขตของการเพิ่มระดับของนางได้พังทลายไปแล้วตอนที่นางเดินออกจากถนนโบราณ
ตราบใดที่มีพลังวิญญาณสนับสนุนเพียงพอ นางก็สามารถเพิ่มระดับให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในที่สุด ในขณะที่เจียงหลีกำลังจะทะลุผ่านถึงหลิงจงระดับแปดนั้น นางก็หยุดลง นางมิได้ดูดกลืนพลังวิญญาณที่น้ำพุต่อเพื่อทะลุผ่านอาณาเขตแต่ใช้พลังวิญญาณจากน้ำพุมาฝึกฝนซ้ำๆ ระดับที่เพิ่มขึ้นเมื่อครู่
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ บริเวณน้ำพุก็เงียบสงบลง สายน้ำค่อยๆ ตกลงมาและเจียงหลีก็ถูกนำตัวออกจากน้ำพุ ไปนั่งอยู่บนพื้นหญ้าข้างน้ำพุ
เจียงหลีค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาของนางสดใส
นางถอนหายใจอย่างแผ่วเบาและกล่าวด้วยความกลัวว่า “หูวว! อันตรายจริง!” นางเบนสายตามองไปยังน้ำพุและเม้มปากไม่พูดอะไร
น้ำพุนี้ มีพลังของการเพิ่มระดับอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้การทดสอบเช่นนี้ จะมีสักกี่คนที่สามารถยับยั้งตัวเอง ไม่ให้เพิ่มระดับอย่างไม่รู้จบเช่นนี้กัน
หากมีคนไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้ เพิ่มระดับไปเรื่อยๆ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น
เจียงหลีคาดเดาอยู่ในใจ เกรงว่าสุดท้ายร่างกายอาจจะเต็มไปด้วยพลังวิญญาณและตัวแตกตายที่น้ำพุนี่น่ะสิ
ในช่วงที่นางทะลุผ่านอาณาเขต นางก็มีช่วงที่ไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้ครู่หนึ่งเช่นกัน แต่ดีที่นางดึงสติกลับมาทัน ถึงได้ยับยั้งความอยากเพิ่มระดับนี้ได้
“ไม่ว่ายังไง ตอนนี้เป็นหลิงจงระดับแปดแล้ว เมื่อเดินไปมาอยู่ภายนอกก็มีทักษะป้องกันตัวอยู่บ้าง” เจียงหลีหันกลับมาพึมพำกับตัวเอง
ทันใดนั้น สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป ดวงตาฉายแววประหลาดใจ
นางหลับตาลง เข้าสู่ภายในของเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ
ทันทีที่นางก้าวเข้ามา นางก็เกือบจะทรงตัวไม่อยู่ สนามทดสอบเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อแห่งนี้ กำลังขับเคลื่อนอยู่และเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าอัศจรรย์
เจียงหลีทรงตัวให้มั่นคงและยืนอยู่ข้างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ นางเห็นการเปลี่ยนแปลงของเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อกับตา จากนั้นก็ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “หลังจากบรรลุเนี่ยนซือแล้ว ทุกครั้งเมื่อเข้าสู่ดินแดนขนาดใหญ่ เสี่ยวหมีเจี้ยจื่อก็จะเพิ่มระดับขึ้น ดังนั้นแล้ว ตอนนี้ข้ากลายเป็นเนี่ยนจงแล้วอย่างนั่นหรือ”
ความประหลาดใจนี้ช่างมาอย่างกะทันหัน!
เป็นความน่ายินดีที่ได้โดยไม่ทันตั้งตัวจริงๆ
เจียงหลีให้ความสำคัญกับการฝึกฝนเป็นหลิงซือมาโดยตลอด ตอนแรกที่ฝึกเป็นเนี่ยนซือก็เพราะอยากจะควบคุมเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อนี้ให้ได้ นึกไม่ถึงเลยว่านางจะกลายมาเป็นเนี่ยนจงได้โดยไม่ได้ตั้งใจ! และตำแหน่งสูงเทียบเท่ากับลู่เจี้ยในตอนนั้นด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่าการได้มาเป็นระดับเนี่ยนจงนี้ นางได้มาง่ายเกินไป
อย่างไรก็ตาม นางเคยซึมซับพลังจิตของเนี่ยนจงที่ฝึกได้ครึ่งทางคนหนึ่งได้ทิ้งเอาไว้ ทำให้ระยะห่างระหว่างหลิงซือและเนี่ยนซือห่างกันไม่มากนัก
“แต่ทว่า ข้ากลายเป็นเนี่ยนจงได้อย่างไรกัน” เจียงหลีเกิดความสงสัยขึ้นในใจ
การที่นางได้กลายเป็นเนี่ยนจง แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่นางได้เข้าสู่ซากกำแพงแตกหักนี้เป็นแน่
ถ้าเช่นนั้น เกิดอะไรขึ้นกับนางในซากกำแพงนั่นล่ะ
เมื่อคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในซากกำแพงอวิ๋นเมิ่งนั่น เจียงหลีก็หรี่ตาลง ราวกับว่านึกจุดสำคัญขึ้นมาได้อย่างไรอย่างนั้น หลิงซือฝึกฝนพลังวิญญาณ เนี่ยนซือฝึกฝนพลังจิต...
“เป็นเพราะพลังควบคุมจิต!” เจียงหลีกล่าวอย่างมั่นใจ
สายตาของนางเปลี่ยนไปมาและคิดวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง “พลังจิตในอีกความหมายหนึ่งนั่นก็คือการควบคุมจิต หรืออาจกล่าวได้ว่า พลังควบคุมจิตเป็นพลังจิตที่บริสุทธิ์มากกว่าหรือ”
เจียงหลีเลียริมฝีปากที่เริ่มแห้ง ในใจมีความตื่นเต้นเล็กน้อย
นางรู้สึกว่าตัวเองได้ค้นพบสิ่งที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการฝึกในระดับ
เนี่ยนซือของนางในอนาคต นางฝึกฝนเป็นเนี่ยนซือนั้นล้วนถูกสอนโดยลู่เจี้ย และลู่เจี้ยเองก็ใช้ประสบการณ์ที่ตัวเองได้พบเจอมาเช่นกัน
เนี่ยนซือในหัวของเจียงหลีนั้นเป็นเพียงความว่างเปล่าไม่รู้อะไรมาโดยตลอด
“เนี่ยนซือ อะไรคือเนี่ยนซือกัน พลัง…พลังจิต...” เจียงหลีเดินไปเดินมาและวิเคราะห์อย่างไม่หยุด
ทันใดนั้นเอง นางหยุดฝีเท้าลง ดวงตาของนางฉายแสงประกายออกมา “พลังจิต ก็คือพลังแห่งการควบคุม และนี่เป็นเพียงคำอธิบายเบื้องต้นเท่านั้น พลังจิตยังสามารถมีผลต่อพฤติกรรมของคนได้ นี่มันคล้ายกับพลังควบคุมเสียจริง แต่ทว่า พลังควบคุมจิตนั้นมีระดับที่สูงกว่า มันถือว่าเป็นจิตวิญญาณอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถทำลายหรือขัดขืนได้ เพียงแค่ลื่นไหลไปกับมัน ก็จะสามารถควบคุมหนึ่งในพลังนั้นได้ ดังนั้น การฝึกเป็นเนี่ยนซือจนถึงระดับสูงๆ แท้จริงแล้วก็คือการฝึกพลังควบคุมจิตหรือ หากควบคุมพลังได้แล้ว ก็เท่ากับว่าได้มีทักษะของการโจมตีมากขึ้นแล้วงั้นสิ!”
ดูเหมือนเจียงหลีจะเข้าใจแล้ว แต่ก็เหมือนว่ายังขาดไปอีกนิด
ส่วนที่นางยังไม่เข้าใจนั้น ไม่มีผู้ใดสามารถอธิบายแก่นางได้ ทำได้เพียงให้นางไปค้นหาด้วยตัวเองจากการฝึกฝนในอนาคต นอกเสียจาก นางจะพบเจอกับเนี่ยนซือที่ระดับสูงกว่ามาอธิบายและให้คำตอบแก่นาง
ตูมๆๆ!
การเคลื่อนไหวของเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อนั้นรุนแรงมาก แต่ความเร็วของการเปลี่ยนแปลงก็รวดเร็วมากเช่นกัน
ในช่วงที่เจียงหลีกำลังคิดไตร่ตรองอยู่นั้น ระดับของมันก็เพิ่มขึ้นแล้ว เสี่ยวหมีเจี้ยจื่อที่เพิ่มระดับแล้วนั้นใหญ่ขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนแรก
สนามฝึกเดิมถูกแบ่งเป็นชั้นบนและล่าง
ชั้นล่างเป็นเหมือนเดิม เพียงแค่กว้างขึ้นอย่างมาก แต่ชั้นบนเจียงหลีมองไม่ค่อยออกนัก เพราะมันถูกล้อมรอบด้วยชั้นของหมอกและไม่รู้ว่าด้านในนั้นคืออะไร
นอกจากนี้ ในเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อยังมีตาน้ำเพิ่มมาอีกด้วย ข้างๆ ตาน้ำมีต้นไม้ปรากฏขึ้นหนึ่งต้น และมีผลสีทองสวยงามอยู่บนต้น ดูน่าสนใจเสียจริง
“น้ำพุแห่งนี้ต้องเป็นของดีแน่ๆ” เจียงหลีเดินเข้าไป สายตาตกอยู่บนตาน้ำ
แต่ข้อความที่เขียนลงบนป้ายเล็กๆ ถัดจากตาน้ำนั้น กลับทำให้นางตกใจอย่างรุนแรง
‘มีพิษ’
“…” เจียงหลีรู้สึกกล้ามเนื้อบนใบหน้าของนางกระตุกอย่างแรง
เสี่ยวหมีเจี้ยจื่ออย่าทำเช่นนี้กับนางได้หรือไม่ จะมีบ่อน้ำยาพิษไว้ที่นี่ทำไมกัน อยากจะฆ่าตัวเองรึไง!
เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว เจียงหลีก็ถอยห่างออกจากบ่อน้ำยาพิษนี้ไปหลายก้าว แล้วมองไปที่สองสีทองเพียงหนึ่งเดียวบนต้นไม้โบราณที่เขียวขจีนั้น
“ไม่ใช่ว่านี่ก็มีพิษหรอกนะ” เจียงหลีหัวเราะ
จากนั้น ก็มีตัวอักษรลอยอยู่บนท้องฟ้าสีเทาของเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ
[ผลแห่งปัญญา ที่รดด้วยน้ำจากบ่อน้ำยาพิษนี้ สิบปีถึงจะเกิดลูกหนึ่งผล หากไม่กินมัน หนึ่งร้อยปีจะได้สิบผล หากกินมัน สิบปีผ่านไปถึงจะออกอีกหนึ่งผล เมื่อกินเข้าไป จะสามารถชำระจิตให้บริสุทธิ์ ชำระล้างมารในจิตใจได้]
ตึงๆๆ!
เจียงหลีถอยหลังกลับอย่างต่อเนื่อง และมองไปที่ผลสีทองนั้นด้วยความตกใจ
นางอดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า “เสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่ใช่หรือไม่! เจ้าเพิ่มระดับคราวนี้ อย่างอื่นไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย แต่เรื่องแกล้งคนอื่นล่ะพัฒนาขึ้นเยอะเลยนะ น้ำในบ่อข้าดื่มไม่ได้ ผลแห่งปัญญา…” นางหายใจเข้าลึกๆ พยายามข่มความโกรธเอาไว้ “ผลแห่งปัญญาจะกินก็ย่อมกินได้ แต่ทว่า กินเข้าไปแล้ว ต้องรออีกสิบปีถึงจะออกผลหนึ่งผล เอาแต่จ้องมันไม่กินมัน แถมข้ายังต้องมารับผิดชอบรดน้ำให้มันอีกใช่หรือไม่”
จิตมารอย่างนั้นรึ ตอนนี้นางยังไม่ถึงขั้นมีจิตใจชั่วร้ายเยี่ยงนั้น ถึงจะกินผลแห่งปัญญาเข้าไปก็ไร้ประโยชน์ กินหรือไม่กินก็ไม่เป็นไร แต่ที่สำคัญคือนางยังต้องดูแลต้นไม้ต้นนี้ด้วยหรือ… มันช่างน่านัก