ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 86 ปีศาจสาวปะทะปีศาจสาว
ตายแล้วรึ!
ดวงตาของเจียงหลีเป็นประกายและไม่เชื่อ
ชั่วครู่ ชายหญิงคู่นี้ยังทำอย่างนั้น…อึ่ม…
เมื่อนึกถึงร่างกายที่ไม่เคลื่อนไหวของหญิงสาวภายใต้การใช้พลังจิตแอบมอง ในใจของเจียงหลีตอนนี้จึงผุดความคิดหนึ่งขึ้น ไม่ใช่หรอกกระมัง! ชอบความรุนแรงขนาดนี้เลยหรือ
เจียงหลีเตะชายคนนั้นและปิดผนึกพลังวิญญาณในร่างกายของเขาทันที เขาเป็นแค่หลิงเจี้ยงขั้นเก้า นางจะฆ่าเขาก็ง่ายดายเหมือนฆ่ามด
แต่ตอนนี้ยังไม่ควรฆ่าเขา
หลังจากควบคุมชายหนุ่มได้แล้ว เจียงหลีเดินมาที่เตียงเช่นเดียวกับมู่ชิงเหยียนและตรวจสอบร่างของหญิงสาวบนเตียงและได้ข้อสรุปที่เหมือนกับมู่ชิงเหยียน
“ตายแล้ว และตายนานแล้วด้วย” เจียงหลีพูดเสียงเคร่งขรึม
พอพูดจบ หญิงสาวทั้งสองหันหน้าไปยังชายหนุ่มที่หดตัวกับพื้นด้วยแววตาหวาดกลัวพร้อมๆ กัน
“ไว้…ไว้ชีวิตข้าด้วย! นาง…นางฟ้าทั้งสองมาจากวังเวิ่นฉิงใช่หรือไม่ ข้าเป็นเพียงทหารรอบนอกของสำนักหลีหุนจงเท่านั้น นางฟ้าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองมีเมตตากรุณา ปล่อยข้าไปเถิด” ชายคนนั้นขี้ขลาดตาขาว
ชั่วครู่ยังสาปแช่งในห้องอยู่เลย ไฉนตอนนี้กลับกลัวตายจนเผยสถานะและตัวตนของตัวเองออกมา
อย่างไรก็ตาม เขากลับเข้าใจผิดว่าเจียงหลีและมู่ชิงเหยียนเป็นคนของวังเวิ่นฉิง
เจียงหลีและมู่ชิงเหยียนมองหน้ากันและปล่อยเลยตามเลย
มู่ชิงเหยียนก้าวไปข้างหน้าและถามด้วยเสียงเย็นชา “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นคนของวังเวิ่นฉิง” ประโยคนี้ถามได้ดีนัก ทั้งมิได้ยอมรับและมิได้ปฏิเสธ แต่กลับทำให้รู้สึกว่าพวกนางเป็นคนของวังเวิ่นฉิงจริงๆ
ชายผู้นั้นยิ้มเยาะและพูดอย่างประจบว่า “สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ติดกับกลุ่มอำนาจของวังเวิ่นฉิง จึงมีเหล่านางฟ้ามาที่นี่บ้างเป็นครั้งคราว และทั้งสองก็งดงามมาก โดยเฉพาะนางฟ้าคนนี้…”
ดวงตาของเขาหลุดลอยไปที่เจียงหลี และปรากฏความหลงใหลภายในแววตาขุ่นมัวคู่นั้น “ใบหน้ามีเสน่ห์น่าหลงใหลเช่นนี้ จะไม่ใช่นางฟ้าแห่งวังเวิ่นฉิงได้เช่นไร”
เจียงหลีหรี่ตา ทันใดนั้น ก็ยิ้มอย่างมีเสน่ห์และก้าวเดินไปทางชายหนุ่มหลายก้าว
นางมีเสน่ห์มาแต่กำเนิด ไม่ต้องทำอะไรมาก ผู้ชายก็หลงใหลจนหัวปักหัวปำ ชายผู้นั้นมองดูนางเดินเข้ามาประชิด นัยน์ตาที่หลงใหลกลับมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น และแสดงรอยยิ้มที่เคลิบเคลิ้มออกมาให้เห็น
“ถ้าอย่างนั้นข้าถามอะไร เจ้าก็ตอบอย่างนั้น” เจียงหลีโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย เงาร่างของนางปกคลุมชายหนุ่มไว้
“ได้ๆๆ…” ชายหนุ่มพยักหน้า จิตใจของเขาถูกเจียงหลีควบคุมไว้อยู่หมัดแล้ว
แน่นอนว่าทำไมเจียงหลีต้องทำให้เขาหลงใหลด้วย เขาคู่ควรรึ!
ทันใดนั้น แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งใส่ร่างกายของชายหนุ่ม ทำให้เขาตกลงไปในถ้ำน้ำแข็งทันที ราวกับตกจากก้อนเมฆลงสู่นรกก็ไม่ปาน ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก และร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัว “อย่า…อย่าฆ่าข้า…”
“ไปเอาผู้หญิงคนนั้นมาจากไหน” เจียงหลีถามอย่างเย็นชา
ภายในดวงตาที่สดใสของนาง เผยแสงอันเยือกเย็นอันดุร้ายและแฝงไปด้วยพลังอำนาจที่ไม่อาจต้านทานได้
“ซื้อ…ข้าซื้อมา…” ชายหนุ่มพูดเสียงสั่น
ซื้อหรือ
ดวงตาของเจียงหลีหรี่ลง พลังอำนาจแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย
ทำให้ชายหนุ่มตกใจกลัวแทบตายและรีบพูดว่า “ซื้อ…ซื้อมาจริงๆ ด้วยหินวิญญาณจำนวนไม่น้อย”
“พวกเราถามว่าไปเอามาจากไหน” มู่ชิงเหยียนก้าวไปข้างหน้าและถามเสียงดุดัน ขณะนี้ นางเย็นเยือกไปทั้งตัว และระดับความเกลียดชังก็มีมากขึ้นกว่าเจียงหลีเสียอีก เพราะนางนั่งเรือลำเดียวกับหญิงคนนี้ หากไม่ใช่ตนหลบหนีอย่างรวดเร็ว บางทีนางกับมารดาอาจต้องเผชิญชะตากรรมเช่นนี้ไปแล้ว
“ข้า…ข้า…ข้าไม่รู้! พวกนางนั่งเรือมา ซึ่งในเมืองมีร้านค้าแห่งหนึ่งชื่ออวี๋หลง ทำการค้ากับเจ้าสำนักและมักจะช่วยเจ้าสำนักขนย้ายผู้หญิงกลับมาให้บางส่วน ข้า…ข้าเป็นเพียงทหารตัวน้อยที่ท่านเจ้าสำนักส่งมาเฝ้าบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ ” ชายหนุ่มรีบอธิบาย
“อวี๋หลง” มู่ชิงเหยียนท่องชื่อเสียงเบา และพยายามนึกย้อนเหตุการณ์ที่พบเห็นบนเรือ ทันใดนั้น เกิดแสงอัศจรรย์ขึ้นในใจและพูดกับเจียงหลีว่า “ข้าจำได้ว่าบนเรือลำนั้นไม่ปรากฏสัญลักษณ์ใดๆ แต่ข้าจำได้ว่าคนที่นำอาหารมาส่ง บังเอิญทำป้ายแขวนเอวหล่นก่อนออกไป โดยบนนั้นสลักรูปปลาที่ไม่เหมือนปลา มังกรที่ไม่เหมือนมังกรเอาไว้”
ดวงตาของเจียงหลีขยับเล็กน้อย และมองไปที่ชายผู้มีใบหน้าขาวซีด
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายด้วยความตกใจ เบิกตากว้าง กลัวว่าหญิงงามตรงหน้าจะไม่พอใจแล้วฆ่าตนทิ้ง
“แล้วทำไมนางถึงตาย” เจียงหลีเอ่ยถาม
จู่ๆ ร่างของชายคนนั้นก็แข็งทื่อ ดวงตาจ้องมองไปที่เจียงหลีและมีเลือดดำออกมาจากมุมปาก
ให้ตายเหอะ!
เจียงหลีรีบบีบแก้มของเขาทันทีและบังคับให้เขาอ้าปาก กลับพบว่าสายเกินไปแล้ว “ตายแล้ว” นางชักสีหน้า และโยนร่างของชายหนุ่มไปอีกทาง
“เขากลัวความตายเช่นนี้ จะฆ่าตัวตายได้อย่างไร” มู่ชิงเหยียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เจียงหลีส่ายศีรษะ นางก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
“แล้วเราจะทำอย่างไรกันต่อดี ไปร้านค้าที่ชื่ออวี๋หลงหรือ” มู่ชิงเหยียนเอ่ยถาม
“ไปหาพี่ใหญ่ก่อน” เจียงหลีตัดสินใจหลังจากลังเลชั่วขณะ
เจียงหลีและมู่ชิงเหยียนมิได้เคลื่อนย้ายศพทั้งสองในห้องนั้น หลังจากที่พวกนางจากไป ก็กลับไปยังจุดนัดพบที่ตกลงไว้กับเจียงเฮ่าทันที
เพียงแต่ไม่คาดคิดว่าหลังจากกลับถึงห้อง นอกจากเจียงเฮ่าแล้ว จะยังมีหญิงงามอยู่ในห้องด้วย
ดวงตาของมู่ชิงเหยียนสับสนเล็กน้อยเมื่อมองเห็นหญิงแปลกหน้าในห้อง
เจียงหลีเลิกคิ้วมองเจียงเฮ่าและพูดติดตลกว่า “พี่ชายคงไม่ใช่ทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรีจนไถ่ตัวนางออกมาใช่ไหม”
ใบหน้าออกสีทองแดงของเจียงเฮ่าแดงก่ำและรีบอธิบาย “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร นางเป็นคนของวังเวิ่นฉิง ใช้วิชามารยาซ่อนตัวอยู่ในหอคณิกา ข้าปะทะกับนางและพานางกลับมาให้เจ้าซักถาม”
วังเวิ่นฉิงหรือ
วังเวิ่นฉิงอีกแล้ว!
เจียงหลีเก็บใบหน้าอันเย้าแหย่ไว้ และทำหน้าเคร่งขรึมเช่นเดียวกับมู่ชิงเหยียน
“พวกเจ้าเป็นอะไรไป” เจียงเฮ่าถามอย่างสงสัย
มู่ชิงเหยียนจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เจียงเฮ่าฟัง หลังจากที่เจียงเฮ่าฟังจบ เขาก็ขมวดคิ้ว
“พรุ่งนี้ข้าจะสืบความที่ร้านอวี๋หลงดู” เจียงเฮ่ากล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ตอนนี้เราต้องรู้ก่อนว่าคนของวังเวิ่นฉิงมายังอาณาเขตของสำนักหลีหุนจงทำไม” เจียงหลีจ้องมองไปที่ผู้หญิงหมดสติด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย
นางยืนอยู่ตรงหน้าผู้หญิงคนนั้นและผายมือ ทันใดนั้น ก็มีกริชตกลงมายังมือของนาง นางเลื่อนกริชไปมาบนเรือนร่างส่วนโค้งอันสวยงามของผู้หญิงคนนั้นและถามด้วยรอยยิ้มว่า “จะแกล้งหลับไปถึงเมื่อไหร่กัน”
ดวงตาของเจียงเฮ่าหดตัวอย่างรวดเร็ว และมองไปยังผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความตกใจ
“ไม่พูด ถ้าอย่างนั้นข้าคงต้อง…” กริชในมือของเจียงหลีเลื่อนมาที่แก้มของหญิงสาว
การสะกิดที่เย็นชาและความคมของกริช ทำให้หญิงสาวที่หมดสติต้องลืมตาขึ้นและมองหน้าเจียงหลีด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ “เป็นสาวเป็นแส้ทำไมถึงอำมหิตได้ถึงเพียงนี้”
เจียงหลียิ้มอย่างสดใส แต่ยังคงไม่ปล่อยกริชในมือ “ข้าถามอะไรเจ้าก็ตอบอย่างนั้น หากลังเล หากโกหก แล้วข้ามือสั่น ก็คงควบคุมกริชนี้ไม่ได้แล้ว มาให้ข้าดูสิ ใบหน้างดงามนี้ก็เพียงพอให้ข้าถามจนกระจ่างได้แล้วล่ะ”
เมื่อถูกข่มขู่เช่นนี้ หญิงสาวกัดริมฝีปากอย่างขมขื่นและเหลือบมองเจียงเฮ่าเสมือนกล่าวโทษเขาว่าเป็นคนทำให้นางตกที่นั่งลำบากเช่นนี้ “พวกเจ้าคนหนึ่งเป็นหลิงหวัง อีกสองคนเป็นหลิงจงร่วมมือกันรังแกข้า ข้าจะไม่เชื่อฟังได้อย่างไรเล่า”