ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 88 ร้านอวี๋หลง
“ร่วมมืออย่างไร” ไหวปี้ราวกับพญางูแสนสวยลุกขึ้นนั่งจากพื้นแล้วมองเจียงหลีด้วยรอยยิ้ม
“อาหลี” เจียงเฮ่าขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
เจียงหลีค่อยๆ ส่ายศีรษะจ้องไปที่ไหวปี้และกล่าวว่า “ง่ายมาก พวกเราจะช่วยเจ้าสืบเรื่องการหายตัวไปของศิษย์ร่วมสำนักเจ้า ส่วนเจ้ารับผิดชอบส่งมอบสารลับเกี่ยวกับหลีหุนจงให้แก่พวกเรา นอกจากนี้ พรุ่งนี้ติดตามเราไปที่แห่งหนึ่ง”
ไหวปี้ละสายตาและยิ้มว่า “ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าความร่วมมือครั้งนี้จะไม่เสียเปรียบ”
“หากเจ้ารู้สึกเสียเปรียบ ข้าก็จะโยนเจ้าไปไว้ตรงหน้าหลีหุนจงเพื่อเป็นเหยื่อล่อ และสืบในสิ่งที่อยากรู้” เจียงหลียิ้มหวานพูดเช่นเดียวกัน
ไหวปี้ยิ้มอย่างแข็งทื่อและพึมพำอย่างไม่พอใจ “เจ้าอายุยังน้อย แต่กลับอำมหิตยิ่งนัก”
“ชมเกินไปแล้ว” เจียงหลีสีหน้ายังคงไม่เปลี่ยน
“ได้ ดูเหมือนว่าข้าจะไม่มีทางเลือกอะไรแล้ว” ไหวปี้ถอนหายใจและพูดอย่างจนปัญญา
เจียงหลีสะบัดปลายนิ้ว พลังจิตเส้นหนึ่งได้พุ่งเข้าใส่ไหวปี้ ทำให้นางเป็นลมกะทันหันและล้มลงกับพื้น
“นอนหลับฝันดีก่อนเถิด”
เจียงหลีลุกขึ้นยืน กะพริบตาให้กับเจียงเฮ่าและมู่ชิงเหยียน ทั้งสามคนเดินออกจากบ้านด้วยกัน
“ดูเหมือนว่าร้านอวี๋หลงจะจัดหาผู้หญิงสำหรับปลุกเสกซากหุ่นโดยเฉพาะ” มู่ชิงเหยียนพูดอย่างมั่นใจ
เจียงเฮ่าสีหน้าแย่ลงและพูดเสียงเคร่งขรึม “กลุ่มอำนาจเช่นนี้ยังมีอยู่ได้อย่างไร”
เจียงหลีหัวเราะ ดูเหมือนสงบนิ่งเป็นพิเศษ “ในระหว่างการฝึกฝน ฝ่ายธรรมะและฝ่ายอธรรมแบ่งแยกยากอยู่แล้ว หากไม่กระทบต่อผลประโยชน์ของตนเอง ใครอยากจะวอนหาเรื่องเล่า อย่างไรก็ตาม สำนักหลีหุนจงสมควรถูกฆ่าทิ้งให้สิ้นซาก” หลังจากพูดจบ ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นเย็นเยือกทันที
“แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป จะร่วมมือกับปีศาจสาวจากวังเวิ่นฉิงจริงๆ หรือ” เจียงเฮ่าขมวดคิ้วพูด
เจียงหลีหายใจเข้าลึกๆ น้ำเสียงค่อนข้างเคร่งขรึม “หลายกลุ่มอำนาจร่วมมือกันล้อมปราบยังทำลายหลีหุนจงไม่สำเร็จ ประการแรก เพราะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ เป้าหมายของพวกเขาไม่ได้ต้องการทำลายสำนักหลีหุนจงจริงๆ เพียงแค่ต่อสู้ให้จบสิ้นไปเท่านั้น ประการที่สอง ความแข็งแกร่งของหลีหุนจงประมาทไม่ได้ พวกเราเพิ่งมาถึงที่นี่ อยากจะทำลายพลังของคนชั่วพวกนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ บัดนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องแน่ใจก่อนว่าเรื่องที่ร้านอวี๋หลงลักพาตัวคนจากดินแดนหนานฮวง สำนักหลีหุนจงรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่”
“แล้วหลังจากแน่ใจแล้วล่ะ” มู่ชิงเหยียนถามอีกครั้ง
“หลังจากแน่ใจแล้ว…” เจียงหลี่หรี่ตา “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ร้านอวี๋หลงจะมีอยู่ต่อไปไม่ได้ ไม่ว่าหลีหุนจงจะรู้เห็นหรือไม่ แต่หญิงสาวมากมายจากหนานฮวงถูกเข่นฆ่าอย่างทารุณ คงต้องเอาคืนกันบ้าง”
“อืม!”
มู่ชิงเหยียนและเจียงเฮ่าพยักหน้าพร้อมกัน
“ไหวปี้นางนี้บอกว่ามาสืบเรื่องศิษย์ร่วมสำนักหายตัวไป แล้วทำไมถึงมาซ่อนตัวอยู่ในหอคณิกาได้” เจียงเฮ่าถามอย่างงวยงง
เจียงหลีครุ่นคิดชั่วครู่ “ข้าเดาว่านางคิดว่าหอนางโลมเป็นสถานที่ที่สะดวกที่สุดในการสืบหาข้อมูล และนางกำลังค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับการหายตัวไปของศิษย์ร่วมสำนัก”
เจียงเฮ่าพยักหน้าและไม่ได้ถามต่อ
…
ไม่มีคำพูดใดในค่ำคืนนี้ วันรุ่งขึ้นขณะที่ฟ้าเริ่มสว่าง ทั้งสี่ออกเดินทาง
พวกเจียงหลีทั้งสามไม่คุ้นเคยกับเมืองซู่หยา แต่ไหวปี้กลับรู้มากกว่าพวกเขาเล็กน้อย
และใช้เวลาเพียงไม่นาน ไหวปี้ก็รู้ถึงที่ตั้งของร้านอวี๋หลง ทั้งสี่จึงแอบเข้ามาอย่างเงียบๆ และมาถึงบริเวณใกล้เคียงร้านอวี๋หลง
“ดูๆ แล้ว ก็เหมือนร้านค้าทั่วไป” เจียงเฮ่าเหลือบมองอาคารสามชั้นตรงหน้าและพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
“ว่ากันว่าเจ้าของร้านอวี๋หลงมีความสัมพันธ์อันดีกับพ่อบ้านของหลีหุนจง การค้าขายครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะสองคนนี้” ไหวปี้ยิ้มเจ้าเล่ห์
“ใครจะคิดล่ะว่าความโหดร้ายอำมหิตจะซ่อนอยู่ภายใต้ร้านค้าธรรมดาเช่นนี้” มู่ชิงเหยียนถอนหายใจ
“หากร้านค้าทั่วไปจริงๆ ทำไมไม่สร้างในเมืองที่คึกคักเล่า แต่กลับเลือกสถานที่ที่ห่างไกลลับตาคนแทน” เจียงหลียิ้มเยาะ
ทั้งสี่สบตากันและแอบเข้าไปในร้านอวี๋หลงอย่างเงียบๆ
มองสำรวจคร่าวๆ ไม่มีอะไรผิดปกติเลยแม้แต่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้น คนเฝ้ายามที่นี่ค่อนข้างจะเฉื่อยช้าอยู่มาก คนส่วนใหญ่ที่พวกเขาพบเจอคือคนในระดับ
หลิงเจี้ยง นานๆ ทีถึงจะพบเห็นคนเฝ้ายามเป็นหลิงไซว่
หลังจากเข้ามาแล้ว ทั้งสี่แยกย้ายกันค้นหา และหลังจากเจียงหลีเข้าไปยังสวนหลังบ้านในระหว่างที่ค้นหา มีห้องหนึ่งดึงดูดความสนใจจากนาง
อันที่จริงห้องนั้นไม่มีอะไรแปลก แต่ในใจเจียงหลีกลับรู้สึกถึงความผิดปกติทันทีที่มองเห็น
สัญชาตญาณกระตุ้นให้นางก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ และเข้าใกล้ห้องที่ปิดอยู่อย่างเงียบๆ
แน่นอนว่าทันที่นางเดินเข้าไปใกล้ นางได้ยินเสียงพูดในห้อง
เจียงหลีหรี่ตา ถอยกลับอย่างเงียบๆ เดินไปที่สถานที่ลับตาคนตรงหลังหินจำลองของลานกว้าง และซ่อนร่างของตนไว้ โดยปลดปล่อยพลังจิตไปสืบแทน
การปลดปล่อยพลังจิตในวงกว้าง ถ้าหากบริเวณโดยรอบมีเนี่ยนซืออยู่ใกล้ๆ จะสังเกตเห็นได้ง่าย แต่หากใช้พลังจิตในอาณาเขตเล็กๆ จะถูกจับได้ยาก
พลังจิตไร้รูปร่าง ค่อยๆ แทรกไปตามช่องว่างของอาคาร ไม่ช้าเจียงหลีก็ ‘มองเห็น’ ฉากในห้องนั้น
ในห้องมีคนจำนวนหกคน เป็นผู้หญิงสี่คน ผู้ชายสองคน
แต่ตัวละครหลักคือชายสองคนนั้น สำหรับผู้หญิงสี่คน…ดวงตาของเจียงหลีหรี่ลง หญิงสาวทั้งสี่ไร้การรับรู้ การเคลื่อนไหวค่อนข้างช้าและแข็งทื่อ ใบหน้าไร้ความรู้สึก แต่กลับงดงามยิ่งนัก
ศพ! เจียงหลีแอบพูดในใจ
การค้นพบนี้ทำให้นางมั่นใจมากขึ้นว่าสานส์ลับก่อนหน้านี้ไม่ผิดอย่างแน่นอน มีการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างร้านอวี๋หลงและสำนักหลีหุนจง
ศพสาวสี่ศพสวมผ้าโปร่งปราศจากการปกปิดใดๆ อวัยวะลับของสตรีเปิดเผยต่อหน้าชายทั้งสอง
ชายทั้งสองกำลังพูดคุยกัน แต่มือของพวกเขาไม่ได้ว่างเลย ฝ่ามือใหญ่ของพวกเขาลูบคลำขึ้นลงบนศพของหญิงสาว
“สหายอวี่ ครั้งนี้สินค้าดูแย่ไปหน่อยนะ! ” ชายร่างค่อนข้างกำยำดูไม่พอใจเล็กน้อย
ชายร่างผอมอีกคนที่ใบหน้าขาวซีด ยิ่งซีดขึ้นไปอีก รีบกล่าวโทษอย่างระมัดระวัง “สหายฟาง เจ้าไม่รู้อะไร ตอนนี้สถานการณ์ต่างจากเมื่อก่อนมาก คนของข้าลงมือได้ยากขึ้น”
“ฮึ เป็นแค่ดินแดนป่าเถื่อนและแห้งแล้ง จะมายากอะไร” ชายร่างกำยำปาจอกเหล้าลงอย่างแรง
ชายร่างผอมบางเนื้อตัวสั่นเทาและรีบพูดว่า “สหายฟาง ไม่ต้องกังวลไป ท่านฟังข้าก่อน เดิมทีเขตแดนของแต่ละแคว้นทางนั้น ผู้หญิงหายไปก็หายไป ไม่มีใครใส่ใจ แต่ตอนนี้ที่นั่นมีเพียงแคว้นเดียวที่ปกครองหนึ่งฮวง หากเคลื่อนไหวมากเกินไป กลัวว่าจะดึงดูดความสนใจจากพวกเขา”
“หนึ่งแคว้นปกครองหนึ่งฮวง! ” ชายร่างกำยำประหลาดใจเล็กน้อย
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ เจียงหลีแน่ใจแล้วว่าแหล่งจัดหาหญิงสาวของพวกเขาก็คือหนานฮวง!
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาลักลอบนำผู้หญิงมาจากหนานฮวงไม่ใช่แค่ครั้งหรือสองครั้ง เพียงแต่ว่าเมื่อก่อนแต่ละแคว้นปกครองของหนานฮวง ทำสงครามกันเป็นระยะๆ ประชากรที่สูญหายเหล่านี้ จึงไม่ได้ถูกนำมาพูดถึง
กลัวว่าผู้หญิงหลายคนจะถูกหลอกมาโดยคิดว่าจะได้มาทำงานที่ซีฮวงและพลิกชีวิตของตน
แต่กลับไม่รู้ว่าทันทีที่ก้าวเข้ามาในดินแดนซีฮวง พวกนางกลับถูกลดถอนให้เป็นเพียงสินค้าและกลายเป็นศพของสำนักหลีหุนจง
ร้านอวี๋หลง…หลีฮุนจง… ดวงตาของเจียงหลีเย็นเยือกทันที จากคำพูดของชายจากหลีหุนจงผู้นั้น ไม่ยากเลยที่จะสรุปได้ว่าสำนักหลีหุนจงรู้เรื่องทั้งหมด ถึงขั้นยอมให้ร้านอวี๋หลงลักพาคนมาจากหนานฮวง