ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 99 ความฝันคลายคิดถึง
หาคู่ครองรึ!
เจ้าเปี๊ยกดวงตาเคร่งขรึม สีหน้าตึงเครียด เจ้าคือภรรยาของข้า! เขาตะโกนในใจ
“จิจิ๊ดดด!”
เจ้าเปี๊ยกส่งเสียงคำราม กระโดดและพุ่งเข้าใส่เจียงหลีทันที
เจียงหลีถูกกระโจนใส่จนล้มลงบนเตียงโดยไม่ทันระวัง ดวงตาที่สดใสเต็มไปด้วยความประหลาดใจ นางเบิกตากว้างและจ้องมองไปยังเจ้าเปี๊ยกที่กระโดดเข้าใส่นาง
กรงเล็บเนื้อสีชมพูและนุ่มนวลกดไหล่ของนางไว้แน่น ใบหน้าที่น่ารักเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด
“เจ้า…เจ้าเป็นอะไรไป” เจียงหลีถามอย่างสงสัย
ฟ่อออ
เจ้าเปี๊ยกแยกเคี้ยว เผยให้เห็นเหงือกสีแดง และเปล่งคำเตือนอย่างชัดเจน
ดวงตาที่สดใสของเจียงหลี เผยภาพสะท้อนของเจ้าเปี๊ยกตอนนี้ ซึ่งความโกรธที่แผ่ออกมาจากดวงตาสีเขียวครามอ่อน ทำให้นางรู้สึกคุ้นเคยอย่างมาก
ใบหน้าของนางค่อยๆ เหม่อลอย
ในส่วนลึกของคู่ดวงตานั้น รูปร่างของเจ้าเปี๊ยกค่อยๆ เลือนราง จนในที่สุดก็สลายไป และแทนที่ด้วยร่างที่นางคุ้นเคย ชายหนุ่มผู้สง่างาม รูปร่างสูงใหญ่และมีรูปลักษณ์ไร้ที่ติกำลังทับร่างของนาง และจ้องมองนางด้วยความโกรธ โดยดวงตาประกายสีเขียวครามแวววาว
ร่างกายของชายผู้นั้นสว่างไสว ทำให้นางแยกไม่ออกว่าเป็นความฝันหรือภาพในจินตนาการ
เจียงหลียกมือขึ้นโดยไม่รู้ตัว และค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าที่กำลังคร่ำครวญถึง
“ลู่เจี้ย…”
ความฝันในยามเที่ยงคืน ไม่รู้ว่านางเรียกชื่อนี้มาแล้วกี่ครั้ง พึมพำออกมาจากปากของนางไม่รู้กี่ครา
แน่นอนว่าทุกอย่างพังทลายลงเมื่อนางเรียกชื่อและเอาปลายนิ้วแตะแก้มของเขา
ภาพลวงตาในสายตาของนางประดุจเครื่องลายครามที่เปราะบาง แตกสลายกลายเป็นแสงดาวแห่งความว่างเปล่า หายไปจากดวงตาของนาง ทำให้ดวงตาของนางกลับมาชัดเจนขึ้น และมองเห็นภาพสะท้อนนั่นเป็นเจ้าเปี๊ยกคงเดิม
ณ เวลานี้ นางไม่เคยสังเกตว่าหลังจากที่นางเรียกชื่อนั้น สีหน้าของเจ้าเปี๊ยกก็เป็นประกาบด้วยความตกใจ
เขาคิดว่าตนถูกจับได้!
เขาคิดว่านางมองการปลอมตัวของตนออก!
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามองไปที่แสงในดวงตาของนางและค่อยๆ หรี่ลง เขาแน่ใจว่าตัวตนที่แท้จริงของเขายังไม่ถูกค้นพบ
โชคดีหรือผิดหวังกันแน่
ชั่วเวลานี้ เจ้าเปี๊ยกก็ไม่แยกไม่ออกเช่นกัน
เจียวหลียกร่างที่มีขนปุยยาวของมันขึ้นอีกครั้ง
“ดึกแล้ว ไปนอนเถอะ” เจียงหลีหันข้างวางเจ้าเปี๊ยกไว้ในอ้อมแขนเหมือนเช่นเคย หลับตาลงช้าๆ และพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “นอนเถอะ นอนหลับแล้วจะได้พบกับเขาในฝัน”
“…” คำขอที่ต่ำต้อยนี้ออกมาจากปากของนาง ประดุจน้ำมันที่เทลงสู่หัวใจเพลิงของเจ้าเปี๊ยก
ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม เมื่อนางอยู่ต่อหน้าเขา ล้วนทำให้ภาคภูมิใจทั้งนั้น คางของนางเชิดขึ้นเสมอ และดวงตาเต็มไปด้วยความมั่นใจและมองโลกในแง่ดีเสมอ
เพียงสองครั้งเท่านั้นที่นางเผยความรู้สึกต่ำต้อยต่อหน้าเขา
ครั้งแรกคือตอนกลับสู่ร่างที่แท้จริงและไปหานางรอบที่สอง เพื่อกำจัดความยึดติดนี้ แต่กลับถูกนางสวมกอดจากด้านหลัง
นางพูดว่า ‘ไม่อยากให้เขาจากไปนาน และกลับมาหาข้าบ่อยๆ’
น้ำเสียงของนางตอนนั้นช่างน่าสงสารและเต็มไปด้วยความอ้อนวอน
อีกครั้งคือตอนนี้ นางนำความคิดถึงทั้งหมดฝากไว้กับภาพลวงตาในความฝัน บางทีอาจเป็นเพราะความฝันเหล่านี้ที่คลายความคิดถึงอันบ้าคลั่งของนางได้บ้าง
ความฝันหรือ ในใจของตี้จวินปรากฏคลื่นนับพัน
เขาจะทำให้ผู้หญิงของเขาผิดหวังได้อย่างไร
…
เจียงหลีลืมตา ภาพตรงหน้าทำให้มุมปากของนางโค้งขึ้นเล็กน้อย ความพอใจบนใบหน้าถ่ายทอดออกมาทางดวงตาให้เห็นเด่นชัดขึ้น นางยกแขนทั้งสองและโอบคอของชายผู้นั้นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งตอนนี้ถึงจะสังเกตเห็นว่าตนสวมใส่เพียงชุดโปร่งบางเท่านั้น
ในความฝัน นางไม่รู้ว่ามีความสุขกับเขามาแล้วกี่ครั้ง แม้ว่ามันจะไม่ใช่ความจริง แต่นางก็ไม่ได้เป็นเหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไปที่แกล้งทำเป็นเขินอาย
พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน ทำไมต้องเล่นตัวด้วย
“ลู่เจี้ย” น้ำเสียงของนางมีความอ่อนโยนที่ไม่เคยเผยให้เห็นมาก่อนซ่อนอยู่
เซ่าตี้นอนตะแคงอยู่ข้างกายนาง ใช้ศอกพยุงร่างไว้ และหันหน้าเข้าหานาง “ข้าอยู่นี่” ในความฝัน เขาอ่อนโยนเป็นพิเศษ
น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความปวดใจและความรู้สึกผิด
“หลีเอ๋อร์ ลำบากเจ้าแล้ว” เขาพูดอย่างจริงจัง นิ้วมือที่เรียวยาวเสยผมยาวของเจียงหลีและนวดคลึงเบาๆ
ทั้งสองสบตากันอย่างสนิทสนมท่ามกลางความฝันบนเตียงกลม ผมยาวกระจัดกระจายอยู่บนผ้าปูเตียงราวกับกางพัดออก และพันกันไปมา
“ข้าลำบากอย่างนั้นหรือ” เจียงหลีมองไปที่เขาอย่างงุนงง
เซ่าตี้ยิ้มเบาๆ โดยบนใบหน้าไม่ได้แสดงอาการอะไรมากนัก แต่สายตาที่เร่าร้อนจับจ้องไปที่เจียงหลี มองไล่ตามชุดโปร่งบาง และค่อยๆ ลูบเส้นเว้าโค้งบนเรือนร่างอันหยิ่งผยองของนาง
“หลีเอ๋อร์ของข้า นับวันยิ่งสวย” เสียงแหบแห้งปนอยู่ในเสียงของเขา
เมื่อเจียงหลีมองเห็นดวงตาที่มืดมิดลงของเขา ก็เข้าใจถึงอารมณ์นั้น และอดไม่ได้ที่จะพูดติดตลกว่า “องค์จักรพรรดิเซ่าตี้ผู้สูงส่ง ปกครองประชาราษฎร์ทั้งปวง กลับกลายเป็นคนเจ้าชู้และร้ายกาจตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทุกครั้งที่ดึงข้าเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งความฝัน ล้วนคิดรังแกข้ามาโดยตลอด”
“ข้าเป็นเช่นนี้กับเจ้าคนเดียว” แต่กลับนึกไม่ถึงว่าครั้งนี้นอกจากจะถูกนางยั่วยวนสำเร็จ ยังยอมรับความปรารถนาของเขาที่มีต่อนางอย่างจริงจัง
ท่าทางขี้เล่นของเจียงหลีหยุดนิ่ง และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับคำสารภาพของใครบางคน
ขณะนี้ เซ่าตี้พลิกตัวและกดนางไว้ มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปในเส้นผมของนาง และมืออีกข้างเริ่มลูบไล้นางเบาๆ ผ่านชุดโปร่งบาง
บริเวณที่ถูกมือขนาดใหญ่ลูบไล้ เจียงหลีรู้สึกว่าผิวของตนราวกับถูกไฟแผดเผาและรุ่มร้อน
นางอุทานเสียง อื้อ ทำให้น้ำหนักในมือของชายผู้นั้นแรงขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจและลมหายใจของเขาก็หนักขึ้นด้วย ซึ่งตอนนี้รูปร่างที่มีเสน่ห์และยั่วยวนในดวงตาคู่นั้นกำลังเย้าแหย่เขาอยู่
เขาคิดว่าการฝึกฝนมานาน จะทำให้เขาเย็นชาและไร้ความปรารถนา แต่นึกไม่ถึงว่าการฝึกฝนทั้งชีวิตเมื่ออยู่ต่อหน้าภรรยาของเขากลับไร้ประโยชน์
ในอดีต เขาสามารถใช้เรื่องอายุเป็นข้ออ้าง ควบคุมความปรารถนาของตน
แต่ตอนนี้ เจียงหลีนับวันยิ่งงดงามและมีเสน่ห์ เขาจะอดใจไหวได้อย่างไร แม้แต่ในความฝัน เขาก็แทบทนรอที่จะอยู่กับนางทั้งวันทั้งคืนไม่ไหวแล้ว
“เจ้าเย้าแหย่ข้าเช่นนี้ ไม่กลัวว่าวันหน้าข้าจะเอาคืนหรือ” ใบหน้าของเจียงหลีเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ หายใจเสียงดัง และมองหน้าเขาด้วยดวงตาประดุจกระหายน้ำ
นางเกิดเป็นมนุษย์มาสองภพแล้ว ล้วนตายรังให้กับผู้ชายคนนี้คนเดียว!
เซ่าตี้กลับยิ้ม “ขอน้อมรับด้วยความยินดี”
…
ความฝันก็คือความฝันเท่านั้น
จะเสมือนจริงแค่ไหน แนบชิดแค่ไหน เมื่อลืมตาขึ้น ทุกอย่างก็เลือนหายไป
อย่างไรก็ตาม วันนี้ที่เจียงหลีตื่นนอน กลับมีเหงื่อที่ไหลเหนียวออกมาด้วย นางทำความสะอาดและเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยรอยยิ้มที่ทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะกลับมารู้สึกสดชื่น
มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เจียงหลีนำเจ้าเปี๊ยกที่นอนหลับใหลกลับเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวและเปิดประตู
“พี่ใหญ่หรือ” คนที่อยู่ข้างนอกคือเจียงเฮ่า
เจียงเฮ่าพยักหน้าและเดินเข้าไปในห้องของนาง
“จะได้เวลาออกเดินทางแล้ว พี่ใหญ่มาหาข้าด้วยเรื่องอันใดหรือ” เจียงหลีถามอย่างสงสัย
เจียงเฮ่าหันหน้ากลับมามองนาง สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมเล็กน้อย “อาหลี หลายปีมานี้ที่ข้ามาอยู่ซีฮวง ข้าไม่เคยหยุดตามหาท่านแม่เลย”
ท่านแม่!
ดวงตาของเจียงหลีหดลงเล็กน้อย
เผชิญเรื่องราวต่างๆ มากเกินไปจนนางเกือบลืมบุคคลนี้ไปจากความทรงจำของนางแล้ว