ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1003
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1003
เซย์นมองสาวสองคนนี้ด้วยสายตารังเกียจ “อย่างน้อยก็ให้เกียรติเจย์บี้ของเธอมั่งได้ไหม? ที่เธอด่าอยู่นั่นเมียเขานะ เลิกมีอคติสักทีเถอะ”
แองเจลีนกับโจเซฟินพากันเงียบกริบ
อันที่จริงภรรยาของเจย์นั้นไม่เพียงแค่สวยน่ารักแต่ยังดูอ่อนโยนไร้พิษภัยอีกด้วย หล่อนเป็นผู้หญิงที่ผู้ชายคนไหนก็ต้องชอบ
พวกเธอแค่รู้สึกหวาดหวั่นเลยจ้องสนใจแต่จุดอ่อนของเจ้าหล่อนเสียใหญ่โต
พอเห็นว่าทั้งสองสาวเลิกทำตัวมีปัญหาแล้ว เซย์นก็เตือนพวกเธออย่างเคร่งขรึมว่า “ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปตรวจตาที่โรงพยาบาล แล้วเราก็จะตรวจหูเธอด้วย”
แองเจลีนพูด “แต่หูฉันไม่ได้เป็นอะไรนี่”
ตั้งแต่เมื่อหมอบอกเซย์นเรื่องสาเหตุและอาการของภาวะโซมาติก (โรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งซึ่งผู้ป่วยมีอาการทางกายจริง) เขาก็กังวลเกี่ยวกับสุขภาพของแองเจลีนมาตลอด
เพราะมีประสบการณ์เลวร้ายจากอาการภาวะโซมาติกของนายท่านเซเวียร์ เซย์นก็วิตกว่าอาการป่วยของน้องสาวอาจจะแพร่ไปส่วนอื่นของร่างกายได้
“ฉันเรียกเธอตั้งหลายหน แต่เธอก็ไม่ได้ยิน อย่างน้อยก็ไปตรวจดูหน่อยหน่อยฉันจะได้สบายใจ” เซย์นพูด
แองเจลีนถอนใจอย่างไม่เห็นด้วย
เซย์นหันไปมองโจเซฟิน “คืนนี้ฉันจะค้างที่นี่เป็นเพื่อนน้องสาว”
นิ้วมือของโจเซฟินที่ซุกอยู่ในแขนเสื้อกำแน่น เธอแกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจพร้อมบอก “ฉันก็จะค้างด้วย”
เซย์นรู้สึกแปลกใจ “เธอไม่จำเป็นต้องอยู่หรอก มีเรื่องอะไรที่ยุ่งอยู่ก็ไปทำเถอะ”
ก่อนที่โจเซฟินจะทันตอบอะไร เซย์นก็พูดต่อ “ถึงไอ้เรื่องที่เธอทำอยู่มันจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรนักหนาก็เถอะ เธอก็แค่แสดงละครน้ำเน่าที่ดูไปก็เปลืองสมอง”
พอโดนเซย์นพูดจาดูถูกงานที่เธอรัก โจเซฟินยกมือเท้าเอวพร้อมด่าเหมือนพวกแม่ค้าขายปลาในตลาด “นายหมายความว่ายังไงที่ว่าไม่มีประโยชน์น่ะ? นักแสดงอย่างเราก็ใช้ความสามารถหาเงินมานะ เราไม่ได้ไปปล้นจี้ใครมาสักหน่อย”
เซย์นเถียง “ก็ที่ผ่านมาบทของเธอมีแต่พวกมือที่สาม ไม่ก็เมียแสนเศร้าที่โดนสามีทิ้ง เมื่อไหร่จะได้เล่นบทที่มันปกติธรรมดากับเขาบ้างสักทีล่ะ”
โจเซฟินพูดอย่างภูมิใจ “มันก็ทำให้เห็นว่าฉันมีความสามารถทางการแสดง รับบทบาทได้หลากหลายไง”
ทันใดนั้นโจเซฟินก็จับใจความจากคำพูดของเขาได้พร้อมยิ้ม “นายดูละครฉันทุกเรื่องเลยเหรอ?”
พอรู้ตัวว่าหลุดปากไป เซย์นก็รีบอธิบาย “ฉันจะมีเวลาไปดูละครน้ำเน่าของเธอได้ยังไง? ก็ละครเธอมันฉายตอนสองทุ่ม ตอนย้ายช่องยังไงฉันก็ต้องเห็นหน้าเธอ”
โจเซฟินยืนโพสต์ท่ายั่วยวน “ตอนนี้ฉันเป็นดาราดังแล้ว ทุกช่องก็แย่งกันฉายละครฉัน ไหน ๆ นายก็เป็นพี่ชายของแองเจลีน ถ้าอยากได้ลายเซ็นฉันก็จะเซ็นให้นะ”
เซย์นแค่นเสียงมองเธออย่างรังเกียจ “ลายเซ็นเธอน่าเกลียดจะตายไป จะให้เอาไปแสดงในพิพิธภัณฑ์เหรอ? ฉันจะเอาไปเพื่ออะไรล่ะ?”
แองเจลีนเอ่ยขัดการต่อปากต่อคำของทั้งสอง “อ้อ พี่คงไม่รู้ว่าตอนนี้ลายเซ็นของโจเซฟินมีราคามากนะ รูปพร้อมลายเซ็นของเธอนี่ราคาเท่าเงินเดือนพี่หนึ่งเดือนเลย”
เซย์นเพิ่งยกถ้วยชาขึ้นจิบตอนได้ฟัง เขาพ่นน้ำชาออกมา “ไม่มีทางหรอก? แพงขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ทันใดนั้นสีหน้าดูถูกปนรังเกียจของเขาก็เปลี่ยนเป็นชื่นชม “โอ้ แม่ดาราหนัง ช่วยเซ็นรูปให้กระผมสักสองสามใบได้ไหมครับ?”
โจเซฟินหยิบรูปปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าก่อนส่งให้เซย์น เธอพูดพร้อมยิ้มกริ่ม “เลือกมาหนึ่งใบสิ แล้วฉันจะเซ็นให้”
เซย์นไม่เลือกเลยสักรูป เขาพลิกดูผ่าน ๆ แล้วส่งทั้งปึกคืนให้เธอก่อนกล่าวอย่างหน้าไม่อายว่า “ทำไมไม่ให้ฉันหมดนี่ล่ะ?”
“พี่จะเอารูปพร้อมลายเซ็นเธอมากมายไปทำอะไร?” แองเจลีนงง
เซย์นพูดอย่างหน้าไม่อาย “ก็เอาไปขายไง สิบสองรูปก็… เท่ากับเงินเดือนฉันทั้งปีแล้ว ทีนี้ปีหน้าฉันก็ไม่ต้องทำงานเลย”
โจเซฟินยัดรูปทั้งปึกเข้ากระเป๋าอย่างฉุนเฉียวก่อนจ้องเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ “ทำไมนายนิสัยเสียแบบนี้?”
เซย์นกล่าว “เอาน่า ทำไมไม่คิดว่าเป็นเหมือนคนรวยช่วยคนจนล่ะ?”