ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1013
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1013
บนม้านั่งในสวนข้างถนน เจย์นั่งอย่างเปล่าเปลี่ยวจ้องมองรถและฝูงชนที่ผ่านไปมา เขารู้สึกเหมือนตัวเองแปลกแยกจากทั้งโลก
เขาไม่มีพลังเหลือจะสู้ต่อ
เขาไม่มีพลังเหลือจะอยู่ต่อ
เขาเริ่มมีความสงสัยขึ้นมา อะไรกันนะที่เป็นแรงผลักดันให้เขาอยู่ต่อหลังจากอุบัติเหตุรถยนต์คราวนั้น?
การใช้ชีวิตสำหรับเขาเป็นเรื่องสุดแสนน่าเบื่อหน่าย
เมื่อใกล้ถึงเวลาเก้าโมง เขาก็ค่อย ๆ เดินไปที่โฮไรซอน คัลเลอร์
“คุณเบ็น” เซ็ตตี้น้อยตะโดนออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจพร้อมโบกมือเมื่อเธอเห็นเจย์จากระเบียง
เจย์เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นแองเจลีนและเซ็ตตี้น้อยใส่เสื้อผ้าเข้าคู่กัน พวกเธอทั้งสองดูเหมือนนางฟ้านางสวรรค์
คู่แม่ลูกยิ้มเจิดจ้าเมื่อมองมาที่เขา
เมฆอึมครึมที่ปกคลุมอยู่เหนือศีรษะของเขาก็เหมือนสลายหายไป เขายิ้มตอบรับเธอทั้งสอง
ทั้งแองเจลีนและเซ็ตตี้น้อยต่างรีบลงบันไดมารับเขา ความเย็นชาที่เจย์ได้รับจากมาริลินก็ได้รับการเยียวยาจากความอบอุ่นของแองเจลีนและเซ็ตตี้
แองเจลีนเดินเข้ามาหาเขาพร้อมซุปผักอุ่น ๆ หนึ่งถ้วย เธอเดินช้ามากเพราะตามองไม่เห็น
“คุณเบ็นคะ ทานซุปที่เซ็ตตี้น้อยกับฉันทำสิคะ ลองชิมดูว่าคุณชอบไหม?”
เจย์เดินเข้ามาทักทายเธอพร้อมรับถ้วยซุปไป เมื่อได้รับซุปผักอุ่น ๆ ท้องก็ร้องโครกครากด้วยความหิว เขาก็ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงมีเมตตาให้
เขาชิมซุปอย่างมีมาด แล้วต้องสงสัยที่มันมีรสแปลกไปเล็กน้อย “คุณใส่เครื่องเทศไปเหรอครับ?”
แองเจลีนอธิบายพร้อมรอยยิ้ม “ค่ะ แต่เป็นเครื่องเทศที่ดีต่อกระเพาะนะคะ.
เจย์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ซุปนี้ทำเพื่อเขาเป็นพิเศษ
เซ็ตตี้น้อยดึงชายเสื้อของเจย์พร้อมขยายความที่แม่เธอพูด “ใส่ยี่หร่าด้วยค่ะ”
ดวงตาของเจย์มีแววสับสน “ยี่หร่าเหรอ?”
แองเจลีนหัวเราะ “เพราะฉันท้องอืดน่ะค่ะ”
เซ็ตตี้น้อยเบ้ปาก แม่โกหกพ่อนี่นา
การที่ใส่ยี่หร่าในซุปเพราะแม่อยากบอกใบ้ให้พ่อ เผื่อเขาได้กลิ่นที่คุ้นเคยอาจจะจำได้ แล้วพ่อก็จะได้กลับมาบ้าน
เจย์เพิ่งดื่มซุปผักเสร็จเมื่อเซ็ตตี้น้อยยื่นมือมารับชามไป “หนูจะล้างชามเอง คุณเบ็นคุยกับแม่ไปก่อนนะคะ”
เซ็ตตี้น้อยรีบวิ่งไปห้องครัวพร้อมปิดประตูครัวตามหลัง
เธออยากสร้างบรรยากาศอบอุ่นโรแมนติกให้คุณพ่อคุณแม่
เจย์ช่วยพาแองเจลีนไปนั่งที่โซฟาอย่างเป็นสุภาพบุรุษ ก่อนถามเธออย่างห่วงใย “วันนี้ดวงตาคุณเป็นยังไงบ้างครับ?”
แองเจลีนยิ้ม “ดีขึ้นมากค่ะ ไม่มองเห็นแต่ความมืดแล้ว”
เจย์มองไปที่ดวงตาคู่สวยของแองเจลีน เมื่อเขาเห็นเธอยิ้มอย่างผ่อนคลายก็อดไม่ได้ที่จะถาม “คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหม อะไรที่เป็นแรงผลักดันให้คุณยังรอเขาอยู่อย่างไม่ย่อท้อ?”
แองเจลีนเลิกคิ้วเล็กน้อย เสียงของเขาต่ำและทุ้ม เป็นสัญญาณว่าเขารู้สึกหดหู่และอารมณ์ไม่ดี
เขาอารมณ์เสียอยู่
เขานั้นแทบไม่แสดงอาการในด้านลบเลยตั้งแต่เด็ก
แองเจลีนหยุดคิดชั่วครู่ก่อนตอบ “ก็ พอฉันคิดถึงเวลาที่จะได้พบกับชายที่ฉันคิดว่าคู่ควรที่จะรอและรัก ฉันก็คิดว่าการรอคอยมันคุ้มค่าค่ะ”
เจย์กล่าว “แล้วถ้า ผมหมายถึงสมมุติว่าเขาไม่กลับมาล่ะ?”
แองเจลีนตอบ “เขาเคยบอกว่าฉันคือเหตุผลที่เขามีชีวิตอยู่ เขาเป็นเหมือนปลาที่จะว่ายมุ่งมาหาฉันไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน เพราะว่าฉันเหมือนอากาศที่จำเป็นและทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้”
เจย์ถาม “คุณยังเชื่อว่าความรักที่เขามียังไม่จางหายไปเหรอ?”
แองเจลีนพยักหน้า “ฉันเชื่อเขาค่ะ”
เป็นเพียงคำสี่คำง่าย ๆ ที่แสนทรงพลัง
เจย์เงียบสนิท
เขารู้สึกประทับใจความมุ่งมั่นและความเชื่อใจของเธอ