ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1079
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1079
แองเจลีนรู้สึกห่อเหี่ยวมาก
ส่วนเซ็ตตี้น้อยนั้นกลับคึกคักเป็นที่สุด
เซ็ตตี้น้อยตื่นเต้นดีใจ บอกเรื่องน่าปลื้มของเธอที่ว่า คุณพ่อนั้นกระโดดข้ามระเบียงมากอดเธอไว้
“คุณแม่คะ ทั้ง ๆ ที่คุณพ่อไม่รู้ว่าหนูเป็นลูกสาวคุณพ่อแต่หนูก็บอกได้ว่า คุณพ่อรักหนูมากเลย วันนี้ตอนหนูวิ่งไปหาคุณพ่อ คุณพ่อกลัวว่าหนูจะตกจากระเบียงจนกระโดดข้ามมาหาหนูเร็วเหมือนพายุเลย คุณพ่อกระโดดข้ามช่องว่างกว้าง ๆ นั่นไม่ลังเลสักนิด เกือบทำให้หนูตกใจตายเลยล่ะค่ะ”
เซ็ตตี้น้อยตบหน้าอกตัวเอง ความกลัวยังค้างอยู่ในใจ
แองเจลีนตะลึงไป
“คุณแม่คะ” เซ็ตตี้น้อยเรียกเธออีกสองสามครั้ง ก่อนจะเรียกสติของแองเจลีนกลับมาได้
ตอนนั้นเองดวงตาของเธอก็เริ่มแดง เธอพูดด้วยเสียงสะอื้น “คุณพ่อเขารักหนูนะเซ็ตตี้น้อย เขารักลูก ๆ ทุกคน”
แองเจลีนสูดจมูก จากนั้นก็ร้องไห้อย่างกลั้นไม่อยู่ “คุณแม่รู้สึกสงสารพ่อของลูก แม่ยังหาร็อบบี้ไม่เจอแถมยังไม่ได้ข่าวเรื่องเจนส์อีก ถ้าพ่อรู้ว่าแม่ทิ้งลูกอีกสองคนไว้ ไม่รู้ว่าเขาจะใจสลายแค่ไหน”
เซ็ตตี้น้อยกอดแม่ของเธออย่างอ่อนโยน “อย่างร้องเลยนะคะ คุณแม่พยายามทำเต็มที่แล้ว อย่าตำหนิตัวเองเลย”
น้ำตาแองเจลีนไหลพรากไม่หยุด… ทำอย่างไรก็หยุดไม่ได้
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีเพียงสองเรื่องที่ทำให้เธอร้องไห้ได้ เรื่องของเจย์ และลูก ๆ
แม้ว่าคนรอบตัวจะรู้ดีและไม่พูดถึงพวกเขาต่อหน้าเธอ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแองเจลีนจะไม่คิดถึงเรื่องนี้เวลาที่เธออยู่ลำพัง
เหมือนน้ำตาที่เธอมีทั้งชีวิตได้หลั่งให้กับร็อบบี้น้อยและเจนส์แล้ว
โชคยังดีที่เจย์กลับมา
เซ็ตตี้ปลอบแม่ของเธอพร้อมกล่าว “อย่าเศร้าไปเลยนะคะคุณแม่ ถ้าคุณพ่อกลับมาหาพวกเราได้ทั้งที่ผ่านเรื่องพวกนั้นมามากมาย บางที ร็อบบี้กับเจนส์ก็อาจจะกลับมาได้เหมือนกัน”
แองเจลีนกอดเซ็ตตี้ “แม่ก็หวังให้เป็นแบบนั้น”
สถาบันเยาวชนแห่งตำนาน
หลังจากฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงผันผ่านไปสามหน ดอกไม้ต่างผลิบานและร่วงหล่น…
เด็กชายที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพียงเด็กน้อย ตอนนี้ได้กลายเป็นชายหนุ่มที่สูง หล่อเหลาแต่ก็ดูเย็นชา
เจนสันนั่งเงียบ ๆ ใต้ต้นซากุระในสวนของสนามฝึกศิลปะการป้องกันตัว เขามองขึ้นไปที่ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสและขมวดคิ้วเล็กน้อย แววความโศกเศร้าปกคลุมดวงตา
มันเป็นเวลาสามปีแล้วที่เขาจากบ้านมา
ตอนแรกเขาคิดว่าหากเขาเรียนหนัก ก็จะสามารถใช้ความพรสวรรค์ที่มีจบการศึกษาได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็จะสามารถกลับไปอยู่ข้างกายแม่ ช่วยเธอแบ่งเบาความทุกข์ของการเสียพ่อไปได้
ใครจะไปคิดว่าเงื่อนไขการจบการศึกษาของที่นี่จะแปลกประหลาดขนาดนั้น? วิชาบังคับทั้งสิบวิชานั้น นักเรียนไม่เพียงแต่ต้องได้เป็นลำดับหนึ่ง แต่นักเรียนต้องเอาชนะครูให้ได้ด้วย
เจนสันทำตามเงื่อนไขการจบการศึกษาหลายข้อผ่านไปเรียบร้อยตั้งแต่สองปีก่อน เขายังลงเรียนวิชาอื่นด้วยขณะที่ต้องอยู่ที่นี่ โดยที่ได้คะแนนเต็มเกือบทุกวิชาในช่วงปีที่ผ่านมา และใกล้จะได้รับการอนุมัติให้จบการศึกษาแล้ว
วิชาเดียวที่เขาต้องผ่านไปให้ได้ก็คือวิชาที่เขาอ่อนที่สุด… ศิลปะการป้องกันตัว
อันที่จริงเจนสันไม่ได้อ่อนด้อยด้านนี้ แต่มันเป็นเพราะเขาโดนเด็กที่โดดเด่นคนหนึ่งในวิชาศิลปะป้องกันตัวข่มรัศมี เด็กคนนั้นแข็งแกร่งมากจนเหมือนตัวประหลาด
นักเรียนคนนั้นไม่ยอมถอนวิชานี้ และยังคงครองที่หนึ่งไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมสละที่ของเธอและทำให้นักเรียนคนอื่น ๆ ไม่สามารถจบการศึกษาได้
“เจนสัน”
ทันใดนั้นก็มีเสียงน่ารำคาญดังขึ้นข้างหลังเขา
“นายเป็นพวกขี้ขลาดเหรอ? ถ้านายไม่อยากสอบจบวิชาศิลปะป้องกันตัวก็ไม่ควรสมัครเข้ามาเรียนที่สถาบันเยาวชนแห่งตำนานแต่แรกสิ”
“หึ ๆ ดูผิวใส ๆ เนียนนุ่มของเขาสิ เขาดูเหมือนพวกที่ทนโดนซ้อมไม่ได้ ฉันสงสัยว่าเขาจะทนรับได้สักกี่หมัดกัน?”
เจนสันไม่แม้แต่จะเหลือบตาขึ้นมามอง เขาไม่สนใจจะต่อปากต่อคำกับพวกนี้
“พวกห่วย” เขาเปิดปากเล็กน้อยและค่อย ๆ พูดสบถออกมา
แต่มันก็มีพลังรุนแรงจนทำให้คนตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัวได้
“หึ ๆ ไอ้เจ้าคนไร้ประโยชน์นี่เพิ่งเรียกเราว่าพวกห่วยงั้นเหรอ?”
“เขาคงไม่รู้ว่าตัวเองอ่อนแอแค่ไหน ถ้าเราไม่สอนบทเรียนให้มันซะบ้าง ฉันทนความเย่อหยิ่งจองหองกับสายตาถือดีที่ไอ้หมอนั่นมองเราไม่ไหวแล้ว”