ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1130
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1130
”ถ้าเป็นแบบนั้นฉันแม่งก็จะเรียกนายว่า ‘ลูกพี่’ เอง” แดน คัลเลน นักเรียนที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งกล่าวคำสัญญาออกมาอย่างมั่นใจ
เมื่อนักเรียนคนอื่นเห็นว่าแดนประกาศเจตนารมณ์ออกมาอย่างชัดเจน คนอื่น ๆ ก็พากันขานรับ “ฉันด้วย”
เจนสันตอบ “โอเค”
ดวงตาแดนฉายแววขุ่นมัว เขาชี้ไปที่นักเรียนชายที่อ่อนแอที่สุดในชั้นเรียน “นาย ออกไปสู้”
เด็กชายคนนั้นตีลังกากลับหลังขึ้นไปยืนบนลานประลองที่ยกพื้นสูง
“นายปีนขึ้นมาไหวไหม เจนสัน? อยากให้ฉันอุ้มนายขึ้นมาไหม?” เด็กชายล้อเลียน
ประโยคนี้ทำให้นักเรียนคนอื่นหัวเราะกันอย่างฮาเฮ
เจนสันสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงวอร์มสีดำ ผิวของเขาขาว เส้นผมก็ปลิวไปตามลม เขามีสีหน้าท่าทางไม่แยแสสิ่งใดเหมือนพวกแมว แล้วเขาก็ดูเหมือนเป็นเจ้าชายผู้สูงส่งเดินหลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูน เขาเหมือนเจ้าชายที่ต้องมีคนคอยปกป้อง
ตอนนี้เจ้าชายร้องขอการต่อสู้ ทุกสิ่งดูขัดแย้งและผิดที่ผิดทาง ทำให้ภาพที่ปรากฏตรงหน้านั้นยิ่งน่าจับตามอง
เวลานี้ทุกสายตาต่างจับจ้องที่เจนสัน ทุกคนสนใจใคร่รู้ว่าเจ้าชายผู้สูงส่งนี้จะทำตัวเองขายหน้าแบบไหน
เจนสันเดินขึ้นหน้าไปสองสามก้าว แล้วกระโดดขึ้นไปประจำที่บนลานประลองรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ
เห็นได้ชัดว่าเขามีความสามารถในการกระโดดที่ไม่ธรรมดา เพราะว่าเขาสามารถกระโดดขึ้นไปได้โดยไม่ต้องอาศัยการวิ่งเพื่อเสริมแรงเลย
แม้แต่แดนเองก็ยังประหลาดใจ “แหม แหม นี่เขาก็ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหม?”
ชั่วขณะที่เขากำลังอึ้งกับทักษะการกระโดดที่ไม่ธรรมดาของเจนสัน จังหวะต่อมาเขาก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเด็กชายที่เขาส่งให้ขึ้นไปสู้ขณะที่เด็กคนนั้นกระเด็นตกลงมาจากลานประลอง แดนไม่แม้แต่เห็นเจนสันแตะตัวเด็กคนนั้นเลยสักนิด
“ทำไมพวกนายไม่ขึ้นมาสู้พร้อม ๆ กันเลยล่ะ?” เจนสันยืนอยู่บนเวทีสูง มองดูเหมือนจักรพรรดิเยาว์วัยที่เปี่ยมไปด้วยพลัง และก็ดูแข็งกร้าวราวกับว่าเขาชิงชังโลกใบนี้
“ว้าว หมอนี่รู้ตัวไหมนี่ว่าพูดอะไรออกมา? มันบอกให้พวกเราทุกคนขึ้นไปสู้พร้อมกันเหรอ? นี่อยากตายเหรอไง?”
แดนพูด “ฉันอยากให้พวกนายสามคนขึ้นไป แล้วทดสอบหมอนั่นดู”
นักเรียนสามคนที่ยืนอยู่ข้างแดนกระโดดขึ้นไปบนลานประลอง คนทั้งสามอยู่ที่สถาบันเยาวชนแห่งตำนานมาเป็นเวลานานแล้วและต่างก็มีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม ไม่เพียงแค่นั้น พวกเขาทั้งสามคนยังฝึกด้วยกันเป็นประจำทำให้พวกเขาเข้าขากันได้ดีตอนที่ต้องต่อสู้ร่วมกัน
ตอนแรกพวกเขาผลัดกันโจมตีเจนสันทีละคน แต่ไม่นานก็ได้รู้ว่าเจนสันเคลื่อนไหวได้รวดเร็วแค่ไหน ไม่ว่าพวกเขาจะใช้ท่าร่างที่สุดยอดเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถแตะต้องได้แม้แต่ชายเสื้อของเจนสัน
สุดท้ายพวกเขาก็ร่วมมือกัน ทั้งสามเข้ามารุมล้อมเจนสันไว้ทั้งสามด้าน แต่เจนสันก็ยังหาช่องว่างหลบออกไปได้ ตอนนี้สิ่งที่ยิ่งน่ากลัวก็คือตลอดเวลาการต่อสู้ เจนสันไขว้มือไว้ด้านหลังไม่มีความคิดที่จะสู้กลับ เขาใช้เพียงแค่ขาต่อสู้กับทั้งสาม สุดท้ายพวกเขาก็โดนจัดการอย่างราบคาบ ทั้งสามสร้างวงแหวนไฟก่อนที่จะกระโดดลงจากเวที
“น่ากลัวมากเลยหัวหน้า เจนสันนี่เป็นปีศาจชัด ๆ เขาเร็วเกินไป” ทั้งสามต่างก็ลงนั่งกองกับพื้น สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
แดนพูด “ฉันเห็นแล้ว ฉันไม่รู้หรอกว่าทักษะการต่อสู้ของเจ้าเด็กนี่มีแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ ความรวดเร็วของเขาก็น่าตะลึงจริง ๆ”
เจนสันพูดกับแดน “ขึ้นมาสิ”
แดนลอยตัวขึ้นไปบนลานประลอง
การกระโดดปาร์กัวร์เป็นความพิเศษของแดน คนที่ถนัดปาร์กัวร์มักจะเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างรวดเร็วปานสายฟ้า เมื่อเขามายืนประจันหน้ากับเจนสัน เจนสันก็เลิกเอามือไขว้หลัง เพราะเขารู้ดีว่าไม่ควรประมาทแดน
“มาเลย เจนสัน”
เจนสันเองก็ไม่ได้ออมมือเช่นกัน เขาพุ่งเข้าหาแดนและเริ่มต่อสู้แบบประชิดตัว
การต่อยของเจนสันรุนแรงและมีรังสีของการฆ่าฟัน เมื่อหมัดกระแทกร่างของแดน แดนก็พยายามหลบเลี่ยงด้วยการทำปาร์กัวร์ แต่เจนสันก็เคลื่อนไหวได้เร็วพอ ๆ กัน แล้วตามติดแดนเหมือนเงา
สุดท้ายแดนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจำต้องสู้แบบประชิดตัว
ตั้งแต่แรกทักษะการต่อสู้ของแดนก็อยู่ในระดับปานกลาง ดังนั้นเมื่อโดนเจนสันชก ไม่นานใบหน้าของแดนก็บวมปูดเขียวช้ำ
“ยอมแพ้ซะ” เจนสันพูด
“ไม่มีทาง” แดนตอบอย่างดื้อดึง
“ฉันอยากให้พวกนายทั้งหมดขึ้นมาพร้อมกัน” แดนสั่ง จากนั้นนักเรียนทั้ง 30 คนต่างก็พากันกระโดดขึ้นมาบนเวที
ปกติแล้วการประลองในชั้นเรียนศิลปะป้องกันตัวมักทำเป็นคู่ แต่แค่นั้นก็ทำให้เสียงดังสนั่นจนพื้นสะเทือนได้แล้ว