ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1131
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1131
เมื่อนักเรียนในชั้นศิลปะป้องกันตัวทั้งหมดพากันเข้ามารุมเขาในคราวเดียว บริเวณของห้องฝึกซ้อมรวมถึงผืนดินก็สะเทือนอย่างแรง ความปั่นป่วนนี้ดึงดูดนักเรียนจากชั้นอื่นจนพวกเขาพากันวิ่งมาดู
สุดท้ายแม้แต่ครูสอนวิชาศิลปะการต่อสู้ และวิทนีย์เองก็มาดูด้วย
“ว้าว ห้องเรียนศิลปะป้องกันตัวต่อสู้กันเป็นกลุ่มใหญ่เลย”
“ตั้งหลายคนรุมต่อสู้กับเจนสันคนเดียว นี่นักเรียนวิชาศิลปะป้องกันตัวลืมเป้าหมายของการเรียนศิลปะป้องกันตัวไปหมดแล้วเหรอ?”
“นี่มันเกินไปจริง ๆ”
นักเรียนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่างก็โมโหไม่พอใจกับความไม่เป็นธรรมที่เจนสันได้รับ
เจนสันยืนอยู่กลางลานประลองโดยมีนักเรียนจำนวน 29 คนรายล้อมไว้
เมื่อวิทนีย์เข้ามาแล้วเห็นรูปแบบของการต่อสู้ เธอก็ฉุนเฉียวจนถกแขนเสื้อแล้วด่าพวกนั้น “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? พวกนายรังแกเจนส์ตอนฉันไม่อยู่ใช่ไหม?”
จากนั้นเธอก็ตีลังกาหลายตลบขึ้นไปยืนอยู่ข้างเจนสัน แล้วพินิจดูใบหน้าของเขา “นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม เจนส์?”
หน้าหล่อเหลาของเจนสันมืดครึ้ม “ออกไป”
วิทนีย์พูด “ให้ฉันช่วยนายเถอะ”
“ไม่”
วิทนีย์พูด “นายจะสู้กับพวกนั้นทั้งหมดนี่ตามลำพัง นายไม่มีทางสู้ได้หรอก แล้วถ้าพวกเขาทำนายเสียโฉมฉันจะทำยังไง? ฮือ ๆ ๆ ฉันต้องใจสลายแน่”
เจนสันมองเธออย่างเกรี้ยวกราด
ให้ตายสิ เขาเป็นผู้ชายนะ ลูกผู้ชายเสียเลือดเสียเนื้อบ้างมันจะเป็นอะไรกันนักหนา? ทำไมผู้หญิงคนนี้ต้องคอยโอ๋เขาเหมือนเขาเป็นหนุ่มน้อยน่ารักด้วย?
แดนอธิบายให้วิทนีย์ฟัง “เจนสันเป็นคนท้าพวกเราเอง ใครที่ชนะได้ก็จะได้เป็น ‘ลูกพี่’ ไง“
วิทนีย์หัวเราะและพูดว่า “โธ่ เจนส์ ถ้านายอยากเป็นลูกพี่พวกนี้ นายบอกฉันก็ได้ ฉันจะอัดพวกนี้ให้ยับแล้วก็ดูให้แน่ใจว่าพวกเขาคลานมาจูบเท้านายแล้วเรียกนายว่าลูกพี่เลย”
สุดท้ายเจนสันก็บอกความจริง “อย่ามายุ่งเรื่องนี้ ฉันมาประลองก็เพราะว่าฉันกำลังจะเตรียมจบการศึกษา”
วิทนีย์ยิ้มค้าง…
“เธอตัดสินใจว่าจะไปแล้วเหรอ?”
เจนสันพยักหน้า
วิทนีย์น้ำตาไหล แม้ว่าเธอจะลังเลมากแค่ไหน แต่เธอก็ยอมเดินออกไปแต่โดยดี
แดนยกมือให้สัญญาณแล้วนักเรียนทุกคนก็พุ่งเข้ารุมเจนสัน ลานประลองสั่นสะเทือนรุนแรงทันใด
เจนสันได้เรียนท่าทางศิลปะการต่อสู้ทุกประเภทที่เพื่อนร่วมชั้นของเขาเรียน แต่เห็นได้ชัดว่าเขาเหนือกว่าเมื่อสู้กันตัวต่อตัว
แต่ว่าเมื่อทุกคนเข้ามารุมเขาพร้อมกันเช่นนี้ เขาก็พบว่าแทบเอาชนะไม่ได้
เมื่อเขาจำได้ว่าตอนนี้แม่ของเขากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่แค่ไหน ความปรารถนาที่จะเอาชนะก็ท่วมท้นใจเขา
การเอาชนะการประลองครั้งนี้เป็นทางเลือกเดียวของเขา
เขาย้อนนึกไปถึงเมื่อสามปีก่อนที่พ่อวางแผนทุกอย่างไว้ แล้วกำหนดแนวทางไว้ล่วงหน้าเพื่อให้พวกเขาปลอดภัย พ่อเป็นเหตุผลเดียวที่เจนสันสามารถใช้ชีวิตตลอดสามปีมานี้อย่างสงบ
ตอนนี้เขาโตขึ้นแล้ว เขาต้องเป็นเหมือนพ่อ เป็นต้นไม้ใหญ่เป็นร่มเงาที่จะปกป้องแม่จากพายุอุปสรรคทั้งหลายในชีวิต
เจนสันลืมไปแล้วว่าตอนนี้เขาอยู่แค่ในลานฝึกประลอง แววตาของเขาฉายแววของการเป็นศัตรู เมื่อมีกำปั้นของเพื่อนร่วมชั้นรัวต่อยเขาเหมือนห่าฝน มันก็เหมือนเลือดเข้าตาเหยี่ยวของเจนสัน
ตอนนี้เขามองเห็นพวกคู่ต่อสู้เป็นพวกกลุ่มชั่วร้ายจากเมื่อสามปีก่อนและเหวี่ยงหมัดออกไปอย่างรุนแรงโดยลืมความเจ็บปวดบนร่างของตนจนหมดสิ้น
วิทนีย์นั้นยืนดูอยู่ด้านข้าง ทุกครั้งที่เธอเห็นมีหมัดกระทบร่างของเจนสัน เธอก็รู้สึกปวดใจเหลือจะกล่าว เธอปิดตาแน่นเพราะไม่กล้ามอง น้ำตาไหลพรากใบหน้าของเธอ