ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1166
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1166
ตอนนั้นเองจู่ ๆ ไทเกอร์ก็ร้องไห้ขึ้นมา “แม่จ๋า ผมอยากลงรถแล้ว ปล่อยผมลงนะ”
มาริลินมักจะไม่ค่อยมีความอดทนที่จะรับมือกับลูกของตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้ด้วยแล้ว เธอฟาดหัวเขาแล้วก็ด่า “แกจะร้องไห้ทำไมเนี่ย? แกห้ามร้องไห้นะ”
ไทเกอร์กลิ้งตัวออกจากอ้อมแขนเธอแล้วเข้าไปหาเจย์ “พ่อจ๋า”
มาริลินหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว เจย์นั้นไม่ใช่เบนผู้ที่อ่อนโยนใจดีที่พวกเขาเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังรู้ด้วยว่าไทเกอร์ไม่ใช่ลูกของตน จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องใจดีกับเด็กชาย
ซึ่งก็เป็นอย่างที่คาด เจย์ตอบเขาด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า “กลับไปหาแม่ซะไป”
ไทเกอร์หวาดกลัวเมื่อได้เย็นเสียงเย็นชาของเขา แล้วยิ่งร้องไห้หนักขึ้น
เสียงร้องไห้จ้าของไทเกอร์ดังก้องไปทั่วรถ แล้วก็ทำให้ทุกคนที่โดยสารมาหงุดหงิด
จู่ ๆ เด็กหนุ่มคนนั้นก็ดึงไทเกอร์ไปหา “มานี่เถอะ พี่ชายจะเล่นกับนายเอง”
จากนั้นเขาก็ดึงนาฬิกาพกออกมาจากหน้าอกแล้วก็แกว่งไปมาหน้าไทเกอร์ ไม่นานไทเกอร์ก็เคลิ้มหลับไปเพราะการสะกดจิตของเด็กหนุ่ม
กลวิธีของเด็กหนุ่มคนนั้นทำให้เซร่าถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก
เซร่าถามออกมาทันที “นายเป็นใครกันแน่?”
เด็กหนุ่มเอนตัวไปด้านหลังพิงศีรษะกับเบาะรถและหลับตาเพื่อพยายามสงบสติอารมณ์
เขาไม่มีความนับถือให้เซร่าเลยแม้เศษเสี้ยว
ยิ่งเขาเย็นชาไม่ใส่ใจเธอเท่าไร เซร่าก็ยิ่งหงุดหงิดมากเท่านั้น มันเหมือนกับว่าความเย็นชาของเด็กหนุ่มคนนี้ทำให้เธอคิดถึงใครบางคน… เจนสัน อาเรส
ถ้าเจนสันกลับมาตอนนี้ ต้องเป็นภัยต่อการประชุมผู้ถือหุ้นในวันมะรืนนี้อย่างแน่นอน
แต่เซร่าล้มเลิกความสงสัยนี้ไปอย่างรวดเร็ว
เจนสันอยู่ที่สถาบันเยาวชนแห่งตำนาน เธอเคยได้ยินมาว่าการขอจบการศึกษาของสถาบันนั้นพิเศษมากแค่ไหน พวกเขาต้องได้ที่หนึ่งในทุกรายวิชาแล้วถึงขั้นต้องเอาชนะครูผู้สอนให้ได้ด้วย
เซร่าคิดว่าโชคดีที่เจนสันนั้นเพิ่งจะอายุแค่แปดขวบตอนที่เข้าไปเรียน อีกอย่างแค่ให้เด็กพิเศษอย่างเขาสื่อสารกับครูและพวกเพื่อนนักเรียนได้รู้เรื่องดีก็คงยากแล้ว เด็กอย่างเขาจะเรียนจบภายในสามปีได้อย่างไรกัน?
พวกเขาต่างก็เชื่อว่าเจนสันจะต้องถูกกักอยู่ที่สถาบันเยาวชนแห่งตำนานไปเรื่อย ๆ กว่าเขาจะได้ออกมาก็คงเป็นตอนอายุถึงเกณฑ์นั่นแหละ
เซร่าหยุดคิดเรื่องพวกนั้นไป
รถบีเอ็มดับเบิลยูขับมาจนถึงป่าทึบ และถนนขึ้นเขาก็เริ่มสูงชัน มาริลินชี้ไปข้างหน้าแล้วบอกว่า “ตรงนั้นแหละ”
เจย์ตอบรับ “หยุดรถ”
จากนั้นรถบีเอ็มดับเบิลยูก็จอดที่ริมถนน
เจย์เปิดประตูรถและกระโดดออกไปอย่างไม่รีรอ
มาริลินและเซร่าต่างก็พากันออกมาจากรถ เด็กหนุ่มที่นั่งหลับตานิ่งมาตลอดทางก็ตามลงมาเป็นคนสุดท้าย
มาริลินอธิบายให้เจย์ฟังเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อน “วันนั้นฉันขับรถกระบะจากในเมืองกลับมาบ้าน ฉันเห็นรถพลิกคว่ำอยู่ตรงจุดนี้ แล้วก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ฉันรีบกระโดดลงไปแล้วก็เห็นคุณกับเทมเพสนอนอยู่ในรถ ตัวเทมเพสงองุ้มเพราะว่าเขากอดหัวคุณเอาไว้แน่น”
มาริลินทำท่าทำทางชี้ให้ดูสถานที่ และทุกครั้งที่เธอคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นเธอก็รู้สึกสะเทือนใจมาก
“เทมเพสนั้นเห็นได้เลยว่าเขาแทบไม่มีสติแล้ว แต่เขาก็ยังร้องเรียกให้ช่วย พอเขาเห็นฉันสิ่งแรกที่เขาพูดก็คือขอร้องให้ฉันช่วยนายท่านของเขาด้วย หลังจากพูดจบแล้วเทมเพสก็หมดสติไป”
มาริลินพูดด้วยท่าทางสะเทือนใจ “นายท่านอาเรสคะ เทมเพสเขาเป็นคนที่พิเศษมากจริง ๆ”
เจย์พยักหน้ารับขณะที่น้ำตาเริ่มเอ่อคลอ
เมื่อเขาหันหลังกลับมาก็เห็นว่าเด็กหนุ่มคนนั้นมีน้ำตาใสกระจ่างไหลเป็นสายบนแก้มของเขา