ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1170
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1170
แม้ว่าจะเป็นเพียงการคาดเดาแต่ว่าเงื่อนงำพวกนี้ก็พอดีเหมาะเจาะกับเรื่องราวที่ขาดหายไปซึ่งเขาตามหาคำตอบอยู่ แต่เจย์ก็ยังลังเลที่จะยอมรับข้อสรุปพวกนี้มากกว่าใคร
มือของเด็กหนุ่มที่ซุกอยู่ในกระเป๋ากำเป็นหมัดแน่น
ซิดนีย์นั้นเหมือนเป็นดารานำ ขณะที่คุณนายลอยล์และเซร่าต่างก็ช่วยสนับสนุนคำพูดเธอ เพื่อให้แผนใส่ร้ายแองเจลีนดำเนินต่อไปจนจบ
คุณนายลอยล์เริ่มบีบน้ำตาด้วยสีหน้าท่าทางเสแสร้งขณะที่พูดว่า “แองเจลีน เซเวียร์คนนั้นเป็นตัวร้ายแท้ ๆ เลย เธอทั้งเอาแต่ใจแล้วก็ชอบกดข่มคนอื่น ถ้าหากว่าเธอชอบคุณจริง ๆ โรสของเราไม่มีทางคิดฝันว่าจะไปเป็นคู่แข่งผู้หญิงคนนั้นได้หรอก แล้วเธอก็ต้องปล่อยมือจากคุณแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงไม่ต้องมาตายแถมหาร่างไม่เจอแบบนี้แน่”
เซร่าตีหน้าเห็นอกเห็นใจมีเมตตาและปลอบคุณนายลอยล์ “อย่าเพิ่งหมดหวังสิคะ คุณลอยล์ก็แค่หายตัวไปเท่านั้น ตราบใดที่เรายังหาร่างเธอไม่เจอก็จะรีบสรุปว่าเธอตายแล้วไม่ได้หรอก”
ซิดนีย์มีท่าทีขัดเคือง “แต่มันตั้งสี่ปีเต็มแล้ว น้องสาวฉันหายไปสี่ปีแล้วนะ ถ้าเธอไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรเลวร้ายทำไมเธอถึงไม่กลับมาบ้านล่ะ?”
เจย์รู้สึกเหมือนหูจะระเบิดและสีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เขารู้สึกผิดต่อภรรยาที่หายตัวไป
เซร่าเติมเชื้อไฟไปว่า “ฉันรู้จักแองเจลีนดีที่สุดเพราะว่าฉันอยู่บ้านเดียวกับเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก เธอเป็นคนที่ต้องได้ของทุกชิ้นที่เธอต้องการ และจะทำลายสิ่งที่เธอไม่ชอบจนราบคาบไม่เหลือหลอ ฉันคิดว่าต้องเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของเธอแน่ที่ทำให้เธอทำร้ายโรสและลูกชายของโรส ต่อมาเมื่อโคล ยอร์กโผล่มา ชายคนนั้นร่ำรวยมากกว่าคุณ ดังนั้นเธอจึงเริ่มเบื่อคุณแล้วก็เขี่ยคุณทิ้ง”
คุณนายลอยล์กล่าวเสริม “ภรรยาและลูกชายของคุณอีก รวมเป็นสามชีวิตที่หายไป คุณควรต้องให้แองเจลีนชดใช้สิ่งที่ทำลงไป”
หัวเจย์เริ่มเจ็บปวดมากขึ้น เขาพยายามทำแล้วก็คิดถึงผลของเรื่องต่าง ๆ พวกนี้
คำพูดจากผู้หญิงไม่กี่คนไม่อาจเชื่อถือได้
ครั้งแรกที่เขาได้เห็นแองเจลีน ความงามชวนตะลึงนั้นก็ทำให้ผู้ชายอย่างเขาแทบสูญเสียการควบคุมตัวเอง
เขานั้นรู้ดีว่าแองเจลีนมีน้ำหนักแค่ไหนในใจของเขา
มันอาจจะทำให้เขาขึ้นเป็นที่หนึ่งในโลก ความต้องการรุนแรงที่อยากมอบทุกสิ่งที่มีให้เธอนี้
เซร่าและซิดนีย์มองกันอย่างเจ้าเล่ห์ เมื่อตาพวกเธอสบกัน แววยินดีในชัยชนะก็ปรากฏ
แต่ว่าตอนนั้นเองเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวก็ดังขึ้น “หน้าไม่อาย”
เซร่าและซิดนีย์ต่างก็มองที่เด็กหนุ่ม ทั้งสองงงจนทำอะไรไม่ถูก
ซิดนีย์ตอบสนองได้เร็วกว่าและยิ้ม “ใช่แล้ว คนอย่างแองเจลีนนั้นหน้าไม่อายจริง ๆ”
“ผมหมายถึงพวกคุณต่างหาก” เด็กหนุ่มตอบอย่างหมดความอดทน
ซิดนีย์โมโหและพูดสวนไปว่า “ไอ้เด็กคนนี้ ทำไมนายถึงได้หยาบคายแบบนี้? ผู้ใหญ่กำลังคุยกัน ไม่ใช่ที่ให้เด็กอย่างนายมาสอดปาก”
เด็กชายดึงมือออกมาจากกระเป๋า ตอนนั้นเองที่เซร่าและคนอื่น ๆ ถึงได้เห็นว่าเขากำหมัดแน่นจนนิ้วเป็นข้อขาว
เขาดูโมโหมากจนแทบพูดไม่ออก
“พวกคุณทั้งหมดโกหก” เสียงของเด็กหนุ่มมีแต่ความเย็นชา
เจย์เหมือนได้คำพูดเหล่านี้ช่วยไว้ อาการปวดหัวของเขาบรรเทาไปเล็กน้อย