ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1176
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1176
บรรดาผู้ถือหุ้นของแกรนด์ เอเซีย เบล เอนเตอร์ไพรส์ที่เข้าร่วมการประชุมวันนี้นั้นรวมถึงประธานคนก่อน สตีเฟน และแสตนลีย์ เบล รวมถึงผู้สืบทอดรุ่นต่อไป ฌอน เบล, แนนซี่ เบล และเซร่า เซเวียร์
ขณะที่ไททัส เอนเตอร์ไพรส์ ผู้ถือหุ้นที่มาเข้าร่วมคือ โยเซมิตี ไททัสประธานคนก่อน ฮิโรชิ ไททัส ประธานคนปัจจุบัน และตัวแทนผู้ถือหุ้น ยูมิ ไททัส
ส่วนผู้ที่เข้ามาเป็นตัวแทนร่วมประชุมของแกรนด์ เอเซีย อาเรส เอนเตอร์ไพรส์คือ จีน อาเรส ผู้ถือหุ้นหลักคุณท่านอาเรสรวมถึงแจ็คและพี่น้องที่มาร่วมประชุมด้วย
ยังมีตัวแทนผู้ถือหุ้นจากบริษัทที่ไม่มีชื่อเสียงอีกมากมาย
เรียกได้ว่าจำนวนของผู้มาร่วมประชุมปีนี้นั้นมีมากเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว
เมื่อบรรดาผู้ถือหุ้นทุกคนต่างก็นั่งประจำที่ ก็มีบางคนที่กล่าวทำลายบรรยากาศขึ้นมาว่า “นี่ก็ผ่านมาห้านาทีแล้ว ทำไมประธานเซเวียร์ถึงยังไม่มาอีก? เป็นไปได้ไหมว่าท่านประธานจะยังไม่หายจากอาการป่วย?”
เกรย์สันยืนอยู่ที่แท่นสำหรับกล่าวหน้าที่ประชุมด้วยสีหน้าจริงจังขณะที่สมาชิกทีมภูตผีซึ่งสวมสูทพร้อมอาวุธก็ต่างยืนเรียงเป็นแถวอยู่ทั้งสองข้างของเวที
แม้ว่าแกรนด์ เอเซียจะเตรียมจัดการประชุมผู้ถือหุ้นได้อย่างไร้ที่ติมาทุกปี แต่เกรย์สันเองก็ยังไม่รู้ว่าประธานเซเวียร์จะสามารถมาร่วมประชุมคราวนี้ได้หรือไม่
เพื่อที่จะถ่วงเวลาไปก่อน เกรย์สันก็จะคอยจัดการการประชุมผู้หุ้นนี้ด้วยท่าทางสงบนิ่งเหมือนเช่นทุกครั้ง
ในการขึ้นกล่าวของเขา เกรย์สันใช้น้ำเสียงในการพูดที่เป็นการเป็นงานและเข้าใจได้ง่าย เขากล่าวสรุปประวัติการพัฒนาของแกรนด์ เอเซีย ชื่นชมการทำงานของหลายแผนกในแกรนด์ เอเซีย และกล่าวถึงการเติบโตในอนาคตของบริษัท…
เขาอธิบายทุกหัวข้อได้อย่างยอดเยี่ยมโดยไม่มีที่ติ
เมื่อเกรย์สันกล่าวไปได้ครึ่งทาง ก็มีคนลุกขึ้นและพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “คุณเกรย์สัน คำกล่าวของคุณนั้นเขียนมาได้ดีมาก แล้ววิธีการนำเสนอก็โดดเด่น แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันยาวนานยืดเยื้อเกินไปหน่อย? คุณพูดมานานเกินชั่วโมงแล้ว จะเหลือเวลาให้ท่านประธานเซเวียร์พูดอีกสักแค่ไหนกันเชียว?”
เกรย์สันยังคงยิ้มอย่างสุภาพและสง่างาม แต่เขารู้แล้วว่าการถ่วงเวลานัั้นไม่ได้ผลอีกต่อไป
จากนั้นก็มีคำถามระดมรัวใส่เขาไม่ยั้ง
แนนซี่ถามเกรย์สันตรง ๆ ว่า “คุณเกรย์สัน มีข้อมูลภายในบางเรื่องที่ตอนนี้แพร่ไปทั่วว่าประธานเซเวียร์มีอาการป่วยทางจิต เขาบอกกันว่าตอนนี้ร่างกายเธอเป็นอัมพาตและประสาทสัมผัสรับรู้ของเธอก็ใช้การไม่ได้ ไม่ทราบว่าอาการป่วยของเธอดีขึ้นหรือยังคะ? วันนี้เธอจะมาเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นไหม?”
เกรย์สันตอบกลับอย่างฉุนเฉียว “คุณไม่ขาดความอดทนไปหน่อยเหรอครับคุณเบล? คุณรู้ได้อย่างไรว่าวันนี้ประธานเซเวียร์จะไม่มาเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้น?”
แนนซี่ตอบ “ทุกคนทราบดีว่าแกรนด์ เอเซียไม่สามารถดำเนินการได้สักวันหากว่าขาดประธานไป และถ้าหากประธานเจ็บป่วยและไม่พร้อมที่จะทำหน้าที่ในฐานะของประธาน เธอก็ควรที่จะก้าวลงจากตำแหน่ง”
แม้ว่าอาการป่วยล่าสุดของประธานเซเวียร์ก็เป็นอย่างที่หล่อนกล่าวมา แต่ทุกคำที่เกรย์สันพูดก็ยังคงเชื่อถือได้และถูกต้อง
“ใครกันที่หาว่าท่านประธานที่รักของเราเสียประสาทสัมผัสไป?”
ทันใดนั้นเสียงของเซย์นก็ดังก้องข้ามห้องมา
ทุกคนต่างก็หันไปมองตามเสียงนั้น
ตอนนั้นเองที่พวกเขาเห็นเซย์นเข็นแองเจลีนผ่านประตูของห้องประชุมเข้ามา
เซย์นฉวยจังหวะผลักแองเจลีนให้ขึ้นไปยืนบนแท่นกล่าว บรรดาผู้ถือหุ้นทั้งหลายที่เคยเห็นแองเจลีนแค่เวลาที่เธอดูแข็งกร้าวเปี่ยมความมั่นใจต่างก็ตะลึงที่เห็นแองเจลีนยามที่เธอไม่แต่งหน้าหนาเข้ม เธอใส่เสื้อผ้าที่ดูอ่อนเยาว์ พวกเขาตระหนักได้ทันทีว่าเธอนั้นสวยมากและดูเหมือนนางฟ้าเดินดินก็ไม่ปาน
พวกเขาไม่สามารถเชื่อมโยงสาวงามคนนี้กับคนที่เป็นอัมพาตทั้งร่างและสูญเสียประสาทสัมผัสได้
แนนซี่รู้สึกราวกับโดนตบหน้าอย่างแรง เธอทรุดตัวลงกลับไปนั่งด้วยใบหน้าแดงก่ำ
เกรย์สันรู้สึกยินดีอย่างมากขณะที่เขาเดินเข้าไปหาแองเจลีน จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างเคารพว่า “ถึงเวลาท่านพูดแล้วครับ ท่านประธานเซเวียร์”
แองเจลีนรับไมค์มาและกล่าวด้วยท่าทางสงบสุขุมอย่างที่เคย “ทุกสิ่งสามารถพัฒนาดีขึ้นได้แม้ว่าจะอยู่ในช่วงวิกฤติ และฉันก็เชื่อว่าแกรนด์ เอเซียของเราก็เช่นกัน ถ้าเราไม่ก้าวผ่านอุปสรรคทั้งหลาย เราจะเรียนรู้และเติบโตได้อย่างไรกันคะ?
หลังหยุดพูดชั่วขณะ เธอก็กล่าวต่อว่า “สำหรับผู้ถือหุ้นทุกท่านที่อยู่ในที่นี้ หากว่าคุณยังคงมีความเชื่อมั่นในแกรนด์ เอเซีย ได้โปรดอยู่ร่วมกันกับเราขณะที่เราเติบโตไปข้างหน้า แต่หากคุณไม่อยากร่วมกับข้อตกลงของเราต่อไป ทางเราแกรนด์ เอเซียก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะคืนหุ้นของคุณให้”
ทันทีที่แองเจลีนกล่าวออกมาเช่นนี้ เกรย์สันถึงกับอึ้งจงพูดไม่ออก
การตัดสินใจของประธานเซเวียร์ก็คือ การเตะพวกผู้ถือหุ้นที่เห็นขัดแย้งออกไปจากแกรนด์ เอเซีย ถ้าทำแบบนี้แกรนด์ เอเซียก็ต้องโดนผลสะท้อนกลับรุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้