ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1177
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1177
มีเสียงเย้ยหยันอย่างเย็นชาดังมาจากหมู่ผู้เข้าร่วมประชุม “เฮอะ ไหนจะเรื่องที่ระบบภายในโดนแฮ็กแล้วยังเรื่องที่ประธานเซเวียร์ป่วยอีก ตอนนี้แกรนด์ เอเซียเจอศึกหนักทุกด้าน ประธานเซเวียร์ คุณจะคืนหุ้นให้เราแค่นั้นเหรอ? ทำไมคุณไม่คืนบริษัทที่คุณยึดไปเมื่อสามปีก่อนด้วยล่ะ?”
แม้ว่าแองเจลีนจะมองไม่เห็น เธอก็สามารถบอกได้จากเสียงว่านั่นคือ แสตนลีย์
เบล เอนเตอร์ไพรส์นั้นร่วมมือกับไททัส เอนเตอร์ไพรส์นำหลายบริษัทให้ก่อหวอดขึ้นเพื่อจะบีบบังคับแองเจลีนให้ก้าวลงจากตำแหน่งในงานประชุมผู้ร่วมหุ้นในครั้งนี้
มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับแองเจลีนที่จะยึดครองบริษัทที่อยู่สายธุรกิจเดียวกัน และในที่สุดก็ได้ตระหนักว่า ตนมีสถานะเป็นยักษ์ใหญ่เพียงเจ้าเดียวในแวดวงนี้ แกรนด์ เอเซียอาจจะประสบปัญหาอยู่ในตอนนี้แต่เธอก็ตั้งใจที่จะใช้เงินฟาดเพื่อไล่พวกผู้ถือหุ้นที่สร้างปัญหาพวกนี้ออกไป เธอไม่มีความคิดที่จะแยกบริษัทในเครือของแกรนด์ เอเซียเลยสักนิด
แองเจลีนกล่าวอย่างมีโทสะ “แกรนด์ เอเซียได้จ่ายเงินไปจำนวนมากในตอนที่เราซื้อบริษัทเหล่านี้มาเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้บริษัทก็เป็นของแกรนด์ เอเซียแล้ว คุณเองเป็นแค่ผู้ถือหุ้นของแกรนด์ เอเซียนะคะ แสตนลีย์ เบล หยุดคิดฝันเฟื่องถึงของที่ไม่ใช่ของคุณได้แล้ว”
เสียงหัวเราะอย่างขมขื่นของแสตนลีย์ดังมาเข้าหู “ฮ่าฮ่า บริษัทที่โดนแกรนด์ เอเซียยึดมานั้นเป็นผลจากการทำงานหนักของปู่ย่าตายายของคนที่มารวมกันอยู่ที่นี่นะ ประธานเซเวียร์ ถ้าหากว่าแกรนด์ เอเซียเจริญเติบโตขึ้นทุกวันภายใต้การบริหารงานที่ดีของคุณ เราก็คงไม่มานั่งร่ำร้องขอเอาบริษัทเราคืนมาหรอก ตอนนี้แกรนด์ เอเซียเสียความรุ่งโรจน์ในอดีตไปแล้ว ความสามารถของบุคลากรก็เสื่อมถอยไปแล้วเช่นกัน”
แองเจลีนเดือดดาล “ความสามารถเสื่อมถอยเหรอ? แสตนลีย์ เบล ระวังคำพูดของคุณด้วยนะ การดูถูกพนักงานของแกรนด์ เอเซียก็เท่ากับคุณดูถูกทักษะและความสามารถของเรา”
แสตนลีย์พูดพร้อมรอยยิ้ม “ผมพูดผิดตรงไหน? นี่ระบบภายในของแกรนด์ เอเซียก็โดนแฮ็กมาตั้งหลายวันแล้ว ทำไมแกรนด์ เอเซียถึงยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้อีก? ไม่มีใครในแกรนด์ เอเซียสามารถหาที่อยู่ IP ของแฮ็กเกอร์ได้ บรรดาผู้มีความสามารถที่คุณเลี้ยงเอาไว้มันก็แค่พวกขยะไร้ประโยชน์เท่านั้นแหละ”
แองเจลีนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
เธอนั้นให้ความสำคัญกับบรรดาผู้มีความสามารถมาก และกระตือรือร้นที่จะค้นหาส่งเสริมพวกเขา เธอไม่เคยลังเลที่จะทุ่มเงินเพื่อหาผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคจากทั่วทุกมุมโลก เธอให้ค่าบรรดาผู้มีความสามารถเหล่านี้มาก แต่แสดนลีย์กลับมาดูถูกความทุ่มเทของเธอแบบนี้ แล้วเธอจะไม่โมโหได้อย่างไรกัน?
แองเจลีนโมโหมากจนมือเธอเริ่มสั่นอย่างคุมไม่ได้
เมื่อเห็นว่าแองเจลีนอยู่ในสภาพอ่อนไหวแค่ไหน แสดนลีย์ก็ส่งสายตาชั่วร้ายให้สตีเฟน เมื่อทั้งสองประสานสายตากัน ทั้งคู่ก็เข้าใจกันแล้วยิ่งมุ่งมั่นในแผนการที่จะกดดันแองเจลีนให้ก้าวลงจากตำแหน่ง
“ถ้าคุณคิดว่าที่ผมพูดไปมีอะไรผิดนะ ประธานเซเวียร์ ทำไมคุณไม่แสดงให้เราเห็นความสามารถแฮกเกอร์ของแกรนด์ เอเซียล่ะ ถ้าพวกเขาสามารถปลดล็อกระบบภายในของแกรนด์ เอเซียได้ภายในวันนี้ ตัวผม แสตนลีย์ เบล ก็จะขอถอนคำพูดทุกอย่างที่ผมพูดไป”
แองเจลีนหลับตาและปรับจังหวะหายใจของเธอ
ยิ่งเธอพยายามคุมให้ร่างกายที่ผิดปกติของเธอกลับมาอยู่ในสภาพปกติมากเท่าไร เธอก็ยิ่งรู้สึกว่ายิ่งสูญเสียการควบคุมร่างกายของตนไปมากเท่านั้น
“เปิดระบบภายในของเราขึ้นมาหน่อย เกรย์สัน” ด้วยความคิดที่สับสนยุ่งเหยิงของเธอ แองเจลีนก็มอบคำสั่งที่ผิดพลาด
เกรย์สันอึ้งงันไป ถ้าหากว่ามีใครสักคนในแกรนด์ เอเซียสามารถปลดล็อกระบบภายในได้ พวกนั้นก็คงไม่นิ่งเฉยไม่ยอมทำอะไรตั้งแต่แรกแบบนี้
แต่ว่าในเมื่อประธานเซเวียร์ได้สั่งมาแล้ว เกรย์สันก็ทำได้เพียงกัดฟันก้มหน้าเล่นตามน้ำไป
เกรย์สันนั้นเป็นแฮกเกอร์ที่มีความสามารถเป็นอันดับสองในแกรนด์ เอเซีย รองมาจากแองเจลีน แต่โชคร้ายที่ตอนนี้แองเจลีนไม่สบายและเธอแยกแยะได้แค่ระหว่างความสว่างกับความมืดเท่านั้น โดยไม่สามารถมองเห็นรูปร่างของสิ่งใดได้ซึ่งไม่ต่างจากการตาบอด ดังนั้นเกรย์สันจึงไม่กล้าที่จะโยนความหวังไว้ที่แองเจลีน
เกรย์สันจึงลงมือด้วยตัวเอง แต่ทันทีที่เขาเปิดระบบภายในของแกรนด์ เอเซียขึ้นมาก็ชัดเจนว่ามันเกินความสามารถของเขา เกรย์สันจึงได้แต่แสร้งทำเป็นแก้ไขระบบภายในแต่เวลาผ่านไปนานก็ยังไม่มีความคืบหน้าใด
ตอนนั้นเอง ยูมิก็ลุกขึ้นแล้วพูดว่า “คุณเกรย์สัน เวลาเรามีค่านะคะ คุณใช้เวลามาครึ่งชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นว่าจะทำอะไรได้เลย ตกลงคุณทำได้หรือไม่ได้กันแน่? ถ้าคุณทำไม่ได้ก็เลิกทำเถอะค่ะ เราเสียเวลาได้แล้ว”
เวลานั้นผู้ร่วมประชุมหลายคนก็ดูไม่พอใจ สตีเฟนซึ่งเป็นผู้ที่น่าเชื่อถือและได้รับความนับถือก็ยืนขึ้นกล่าวว่า “มันก็มีเหตุผลฟังขึ้นที่ว่าเราไม่ควรฉวยโอกาสในขณะที่แกรนด์ เอเซียกำลังเผชิญวิกฤติ แต่สมัยนั้นตอนที่ประธานเซเวียร์เข้ายึดบริษัทของพวกเรา เธอก็ไม่ได้สนใจว่าบริษัทพวกนี้มีความสำคัญต่อตระกูลใหญ่ต่าง ๆ มากแค่ไหน พอมาตอนนี้ประธานเซเวียร์ป่วยและปัญหาต่าง ๆ ของแกรนด์ เอเซียก็ปูดขึ้นมา ดังนั้นตัวผม สตีเฟน เบลจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้าวออกมาและขอพูดบางอย่าง บริษัทของเรานั้นเป็นผลิตผลของการทำงานหนักของบรรพบุรุษของเรา ผมจึงอยากขอคืนเงินทุนที่ได้มาเพื่อเอาบริษัทกลับไป”