ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1181
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1181
เมื่อได้รับรู้ถึงความรักและความห่วงใยจากลูกและได้ยินเสียงกระซิบของเจนส์ แองเจลีนก็น้ำตาเอ่อคลอ
“เจนส์ลูกแม่”
“ผมจะพากลับบ้านนะครับ คุณแม่”
เจนสันจับมือผู้เป็นแม่ จากนั้นก็แบกเธอขึ้นหลังก่อนเดินออกไปด้านนอก
การประชุมผู้ถือหุ้นจบลงแล้ว
ขณะที่บรรดาผู้เข้าร่วมประชุมพากันทยอยออกจากห้อง เซร่าก็ทรุดฮวบลงนั่งกองกับพื้นราวกับใบไม้ที่ปลิดปลิวจากกิ่งในฤดูใบไม้ร่วง
เมื่อคิดถึงว่าสตีเฟนผู้หนุนหลังของเธอก็ถูกเจนสันโยนเข้าตะรางอย่างไร้ความปรานี เซร่ารู้สึกเหมือนว่าโลกทั้งใบของเธอถล่มลงมาแล้ว
สุดท้ายเซร่าก็คิดถึงแม่ของเธอ… คุณนายอาเรสโซซัดโซเซลุกขึ้นยืนอย่างสิ้นหวังและรีบกลับบ้านเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
ทั้งคุณนายอาเรสและแอนต่างก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาแต่เก่าก่อน ตอนนี้ทั้งสองต่างก็เข้ามาร่วมกับเบล เอนเตอร์ไพรส์แล้ว พวกเธอต่างคิดว่าเมื่อเบล เอนเตอร์ไพรส์ได้หวนคืนสู่ความรุ่งโรจน์หลังจากที่แองเจลีนจำต้องก้าวลงจากตำแหน่ง พวกเธอก็จะได้เพลิดเพลินไปกับความรุ่งเรืองของเบล เอนเตอร์ไพรส์ด้วยเช่นกัน
แต่ว่าเมื่อพวกเธอเห็นเซร่ากระหืดกระหอบกลับมาที่บ้านด้วยท่าทางเศร้าซึมและหมดหวัง ใจพวกเธอก็ตกวูบ
“แม่คะ พ่อโดนจับขังคุกแล้ว ช่วยไปขอร้องให้นายท่านอาเรสปล่อยพ่อทีนะคะแม่” เซร่าจับมือคุณนายอาเรสและขอร้องเธออย่างร้อนใจ
เมื่อได้ยินคำของเซร่า เรือนร่างสง่าและงดงามของคุณนายอาเรสก็ดูราวกับแก่ลงไปสิบปีในพริบตา
เธอตัวสั่นเทาและถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน? สตีเฟนบอกว่าเขามั่นใจมากว่าหนนี้จะต้องสำเร็จแน่ ๆ ไม่ใช่เหรอ?”
เซร่าตอบ “ตอนแรกเราก็มั่นใจมากค่ะ แองเจลีนนั้นเป็นอัมพาตไปแล้วจริง ๆ แล้วเราก็คุมเจย์เอาไว้อยู่หมัด แต่ใครจะไปคาดคิดว่า จู่ ๆ เจนสันจะโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้?”
เซร่ารู้สึกเสียใจกับความผิดพลาดของตนนัก “หนูประเมินพลาดไปจริง ๆ หนูคิดว่าเจนสันไม่น่าจะมีฤทธิ์อะไรมากเพราะเขาก็เป็นแค่เด็กแถมมีอาการออทิสติก แต่ใครจะไปคิดว่าพอเขาอ้าปากพูดแล้วจะคารมคมคายแบบนั้น? แถมที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ เจนสันมีทักษะการแฮ็กที่เหนือชั้นมาก”
คุณนายอาเรสพึมพำด้วยสีหน้าซีดเซียว “เธออยากให้ฉันไปขอร้องเจย์เหรอ? ฉันจะมีหน้ากลับไปขอให้เขาช่วยได้ยังไงกัน?”
เซร่าบอก “แม่เป็นแม่บุญธรรมของเขานะ ถึงนายท่านอาเรสจะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด แต่เขาก็เป็นคนใส่ใจมาก แม่คะ ถ้าแม่ขอร้องให้เขาอภัยให้พ่อ หนูว่าเขาต้องยอมแน่”
คุณนายอาเรสลังเล “ฉันคงถูกหยามให้ต้องขายหน้าอย่างมากแน่ ถ้ากลับไป”
เซร่ากล่าว “แม่รักพ่อไม่ใช่เหรอคะ? ทำไมแม่จะทนรับความทุกข์สักนิดหน่อยเพื่อพ่อไม่ได้ล่ะ? ลองคิดดูสิคะ ถ้าพ่อไม่ได้ออกมาจากคุก ก็จะเป็นจุดจบของเบล เอนเตอร์ไพรส์ ชีวิตของเราก็จะจบสิ้นแน่ ๆ”
แอนพอจะจับใจความว่าเกิดอะไรขึ้นได้จากการฟังเซร่าและคุณนายอาเรสสนทนากัน
โดยที่ไม่คิดอะไรหล่อนก็กล่าวคำพูดเหน็บแนมเสียดสีขึ้นมา “โธ่เอ๋ย เซร่า เธอนี่มันตัวซวยจริง ๆ ไม่ว่าเธอจะเข้าไปอยู่ตระกูลไหนก็พาเขาดวงซวยกันไปหมด ตระกูลอาเรสล่มสลายก็เพราะเธอ แองเจลีนของตระกูลเซเวียร์ป่วยก็เพราะเธอ แล้วตอนนี้ขนาดตระกูลเบลก็จะล้มละลายเพราะเธออีก นี่เธอเป็นตัวโชคร้ายหรือไงกัน?”
คุณนายอาเรสด่าแอนเพื่อปกป้องลูกสาว “เธอพูดอย่างนั้นกับลูกสาวของเราได้ยังไงกันแอน?”
แอนสะอื้น “แล้วฉันพูดผิดตรงไหนกัน? ทั้งหมดมันก็เป็นความผิดของเธอ เธอเป็นคนเอาเด็กตัวซวยนี่มาให้ฉัน เพราะแบบนี้ชีวิตฉันถึงได้มีแต่ความยากลำบาก แล้วตอนนี้ฉันจะไปที่ไหนได้ เพราะฉันตัดสัมพันธ์กับตระกูลเซเวียร์ไปแล้ว?”
เซร่าสะเทือนใจมากจากคำพูดของแอน เธอทรุดลงกองกับพื้น ร้องไห้และคร่ำครวญ “คุณพูดถูก หนูมันเป็นตัวซวย แล้วทำไมคุณถึงยังตามหนูมาอีกล่ะ? พวกคุณน่าจะไปกันให้หมด”
คุณนายอาเรสรู้สึกสงสารเซร่า หล่อนกอดเธอไว้พร้อมกล่าวว่า “ลูกไม่ใช่ตัวซวยนะเซร่า ลูกต้องตั้งสติก่อน แม่สัญญาว่าจะไปขอร้องเจย์ให้ปล่อยพ่อของลูกออกมา ตราบใดที่พ่อของลูกมีชีวิตรอดออกมาได้ ลูกก็จะยังเป็นลูกสาวของเบล เอนเตอร์ไพรส์ อย่าเพิ่งหมดหวังสิ”
เซร่าราวกับได้เห็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด เธอบอกว่า “งั้นไปตอนนี้เลยค่ะแม่”
คุณนายอาเรสพยักหน้า “อืม”