ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1200
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1200
เซ็ตตี้น้อยอึ้งไป หลังจากเงียบไปนาน เธอก็ถอนหายใจพร้อมพูด “พี่ไม่คิดว่าพ่อเราโอ๋แม่มากไปหน่อยเหรอ?”
เจนสันตอบ “เธอยังไม่เห็นเรื่องที่ยิ่งกว่านี้”
เจนสันรู้จักนิสัยพ่อของเขาดี ดังนั้นหลังจากที่เขาก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน เขาก็เริ่มเดินย่องบนปลายเท้าอย่างเงียบ ๆ เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดเสียงดัง
ส่วนเซ็ตตี้น้อยนั้น เธอร้องตะโกนเสียงดังอย่างตื่นเต้น “คุณแม่ขา คุณพ่อขา เรากลับมาแล้วค่า!”
เจย์ยืนอยู่บนระเบียงชั้นสองในชุดนอนสีดำ ใบหน้าเย็นชาของเขาดำทะมึนยิ่งกว่าก้นหม้อ แม้แต่เสียงของเขาก็กดต่ำจนเหมือนดังมาจากธารน้ำแข็ง “ชู่วว แม่กำลังนอนหลับอยู่”
พอพูดจบเขาก็กลับเข้าห้องไป ทิ้งให้พวกเด็ก ๆ มองแต่แผ่นหลังของเขา
เซ็ตตี้น้อยรู้สึกไม่คุ้นชินและบ่นงึมงำ “คุณพ่อไม่ชอบเราอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย?”
เจนสันรินชาให้เซ็ตตี้ก่อนเอ่ยปลอบใจเธอ “เธอต้องทำตัวให้ชินนะ”
เซ็ตตี้น้อยตอบ “ก่อนหน้านี้เขาเคยดีกับเรามากเลย”
เจนสันบอกว่า “นั้นเพราะว่าเธอมองไม่ทะลุน่ะสิ ในสายตาพ่อ ภรรยาน่ะเป็นเหมือนสมบัติของเขา ขณะที่พวกลูก ๆ ก็เป็นเหมือนของแถมที่ติดมาด้วยกัน”
เซ็ตตี้น้อยถอนใจ “ฉันไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเศร้าดี”
เจนสันตอบ “พ่อกับแม่มีค่าสำคัญยิ่งกว่าทองคำอีก พวกเขาคือสมบัติล้ำค่าที่สุดที่เราจะได้รับ”
เซ็ตตี้น้อยรู้สึกงงเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าคำพูดของเจนสันซับซ้อนและเข้าใจยาก
เจนสันพูดเรื่องปรัชญาขึ้นมาโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว “พ่อแม่บางคนก็ให้ทรัพย์สินเงินทองกับลูก ๆ บางคนก็ให้ความรู้ แต่ว่าพ่อแม่ของเรามอบความเชื่อทางจิตวิญญาณที่สูงส่งให้เรา”
เซ็ตตี้น้อยเข้าใจขึ้นมาทันที “งั้นฉันก็ควรจะรู้สึกขอบคุณที่มีพ่อแม่เช่นนี้สินะ”
ที่ชั้นบน เจย์นอนอยู่ข้างแองเจลีนพร้อมลูบไล้ใบหน้าเธออย่างแผ่วเบา เขาโดนริมฝีปากแดงเย้ายวนของเธอดึงดูดจนโน้มตัวเข้าหาและจูบเธอ
แองเจลีนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา และเจย์ก็ผงะออกมา เขาถามเธออย่างไม่เป็นธรรมชาติ “พวกเด็ก ๆ ทำเธอตื่นเหรอ?”
แองเจลีนตอบ “เปล่าค่ะ ฉันฝันว่ามีกระต่ายสีดำตัวน้อยกำลังงับปากฉันไม่ยอมปล่อย ฉันเลยตกใจตื่น”
เจย์เอานิ้วมือเรียวยาวของเขาสัมผัสริมฝีปากปวดเจ่อเล็กน้อยของเธอ “กระต่ายสีดำตัวน้อยเหรอ?”
การมาเรียกผู้ชายอย่างเขาว่าเป็นกระต่ายดำตัวน้อยก็เหมือนหยามศักดิ์ศรีของเขา
เจย์พลิกตัวขึ้นอยู่เหนือร่างเธอ “เธอแน่ใจนะว่าเป็นแค่กระต่ายดำตัวน้อย ไม่ใช่หมาป่าหิวโหยน่ะ?”
แองเจลีนโอบแขนของเธอรอบคอเขา “คุณอยากเหรอ เจย์บี้?”
เจย์อึ้งไปเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาต้องการสิ
แต่เมื่อคิดถึงความไม่เหมาะสมที่แองเจลีนต้องมาทำเรื่องแบบนั้นทั้งที่สุขภาพเธอไม่อำนวย เขาก็ได้แต่อดทนอดกลั้นไว้และบอกว่า “แค่มองเธอฉันก็โหยกระหายแล้วแองเจลีน”
แองเจลีนตอบ “ถ้าคุณต้องอดทนขนาดนั้น คุณจะรังแกฉันก็ได้ ฉันพูดจริง ๆ นะ”
เจย์หยดุคิดชั่วขณะก่อนบอก “ฉันอยากโดนเธอรังแกมากกว่า เหมือนที่เธอเคยทำกับฉันก่อนหน้านี้ไง”
ก่อนหน้านี้แองเจลีนดูแข็งแกร่งและข่มขวัญมากเมื่อเธออาละวาดเตะต่อยไปทั่ว แม้ว่าเขาจะไม่ชอบผู้หญิงที่แข็งกร้าวแต่เขาก็รู้สึกสบายใจที่เห็นแองเจลีนที่สดใสร่าเริงแบบนั้น
ไม่เหมือนตอนนี้… แองเจลีนที่อ่อนแอบอบบางทำให้หัวใจเขาเจ็บปวดเหลือแสน
แองเจลีนเข้าใจความหมายของเขา เธอปลอบว่า “อีกไม่นานฉันก็จะหายแล้ว”
“โอเค” เขาตอบเสียงพร่า
แองเจลีนถาม “พวกเด็ก ๆ กลับมากันแล้วใช่ไหม?”
“ใช่” เจย์ขมวดคิ้วดูไม่พอใจที่การที่เด็ก ๆ กลับมาบ้านรบกวนการพักผ่อนของภรรยา
“ช่วยฉันลุกขึ้นหน่อย เจย์บี้ ฉันอยากเจอพวกเขา”
เมื่อเจย์อุ้มแองเจลีนขึ้นมา เธอก็พูดอย่างอาย ๆ ว่า “ให้ฉันนั่งรถเข็นดีกว่า มันคงไม่เหมาะเท่าไรถ้าพวกเด็ก ๆ เห็นเราแบบนี้”
เจย์ตอบ “ฉันอยากให้พวกเขารู้ว่าพ่อกับแม่ของพวกเขารักกันมาก ครอบครัวที่เรามีให้พวกเขา อาจจะมีอุปสรรคบ้างแต่ถ้าเรายังมีความรักให้กัน พวกเขาก็จะยังมีครอบครัวอยู่แน่นอน”
แองเจลีนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมตามเขา
เมื่อเจย์อุ้มแองเจลีนไว้ในอ้อมแขนและพาเธอลงมาด้านล่าง เซ็ตตี้น้อยก็มองพ่อกับแม่ของเธออย่างเลื่อนลอย
“คุณพ่อคะ ช่วยเห็นใจคนโสดอย่างพวกเราบ้างได้ไหมคะ เวลาที่จะแสดงความรักในที่สาธารณะแบบนี้เนี่ย” เซ็ตตี้น้อยร้องประท้วง
เจย์ตอบ “พวกลูกก็แค่ตัวแสบน้อย ๆ สองคนที่ยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าความรักคืออะไร”
ทั้งเซ็ตตี้น้อยและเจนสันต่างก็พากันเงียบ
แต่ในใจพวกเขาต่างก็ร่ำร้องอย่างรวดร้าว ‘แล้วตัวแสบน้อยไม่ต้องการความรักหรือไงกัน?’