ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1221
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1221
หลังจากที่ล้มตรงขั้นบันไดเป็นครั้งที่เก้า แองเจลีนก็เหนื่อยมากจนหอบหายใจแรง
เจย์เดินเข้ามาหาและกอดเธอไว้แน่นโดยไม่พูดอะไรสักคำ
แองเจลีนรู้สึกได้ว่าร่างกายของเจย์สั่นเทา เธอลูบผมสีดำหนาของเขาอย่างอ่อนโยน แองเจลีนยิ้มและปลอบเขาว่า “ไม่ต้องสงสารฉันหรอกนะเจย์บี้ ทุกอย่างตอนแรกก็ยากทั้งนั้นแหละ คุณต้องเชื่อมั่นในตัวฉัน ตกลงไหม?”
เจย์พยักหน้าแต่ก็เอ่ยอะไรออกมาไม่ได้ เขาเสียใจมากจนไม่สามารถจะพูดอะไรออกมาได้สักคำ
แองเจลีนตกใจเล็กน้อย เธอถอนใจออกมาเบา ๆ “คุณอุ้มฉันไปที่โซฟาดีกว่าค่ะเจย์บี้”
เจย์อุ้มเธอขึ้นและค่อย ๆ วางเธอลงบนโซฟา เขากลั้นสะอื้นเมื่อถามเธอว่า “เธอเหนื่อยไหมแองเจลีน?”
แองเจลีนยิ้มและตอบ “ไม่เลยค่ะ”
เจย์วางคางเขาไว้บนศีรษะของเธอ มือใหญ่ของเขาลูบหลังเธออย่างนุ่มนวล ลมหายใจของเธอไม่สม่ำเสมอเหมือนกับว่าเธอรู้สึกหายใจลำบาก เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน
“ที่จริงฉันคิดว่าฉันโชคดีนะเจย์บี้ ลองคิดดูสิ โรคของฉันไม่ใช่อาการป่วยอะไรแล้วความรู้สึกเจ็บปวดทั้งหมดที่มีก็แค่เกิดขึ้นในหัวฉัน”
“มันจะอยู่แค่ในหัวเธอได้ยังไง? อาการเจ็บปวดทางกายที่เกิดจากระบบประสาทผิดปกติก็มีอยู่จริง เธอไม่ได้แค่มีอาการเจ็บปวดทางร่างกายแต่ใจก็ทุกข์ทรมานด้วย” เจย์กอดเธอแน่นขึ้น
“แองเจลีน ถ้าเธอทำแบบนี้ฉันจะรู้สึกแย่มากนะ ฉันสัญญาว่าเราจะค่อย ๆ ฝึกกันไป งั้นก็อย่ารีบร้อนโ ตกลงไหม?”
จิตใจนักสู้ของแองเจลีนต้องยอมลงให้การต่อรองของเจย์
แองเจลีนพยักหน้าอย่างมีความสุข “ได้ค่ะ”
สุดท้ายเจย์และแองเจลีนก็ตกลงกันได้ และแองเจลีนก็เริ่มต้นฝึกกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
เวลาเดียวกันที่ประเทศเอส
วอล์ท วิลเลียมจากหน่วยข่าวกรองมาเพื่อพบเจนสันที่โรงแรม
ในห้องนั่งเล่นนั้นทั้งสตอร์มและคนอื่น ๆ ต่างก็มีทีท่าเคร่งขรึมน่าประทับใจ บุคลิกของพวกเขาบอกได้ว่าไม่ธรรมดา
แม้ว่าเจนสันจะยังเด็กและอยู่ไกล ๆ แต่ท่าทางโดดเด่นของเขารวมถึงบุคลิกเย็นชาห่างเหินก็เด่นเกินจะมองข้ามไปได้
“ไม่ทราบว่าท่านไหนคือเจนสัน อาเรสครับ?”
“ผมเอง” เจนสันเงยหน้ามอง
วอล์ทมองเจนสันอย่างไม่อยากเชื่อรวมถึงตกใจที่เขาเด็กขนาดนี้ “คุณคือนักสืบที่ช่วยเราหาตัวนักโทษหลบหนีได้จริง ๆ เหรอ?”
เจนสันขมวดคิ้ว “ผมเป็นแฮกเกอร์ ไม่ใช่นักสืบ”
เขาหยุดชั่วขณะก่อนเพิ่มเติมว่า “และผมก็ไม่มีความคิดที่จะช่วยคุณไขคดี แต่ผมกำลังหาตัวน้องชายที่หายตัวไปหลายปีแล้ว”
เขากำลังบอกให้รู้เป็นนัยว่าไม่จำเป็นต้องเชิดชูเขาไว้บนแท่น
วอล์ทกลืนน้ำลาย ‘เด็กคนนี้รับมือยากจริง ๆ’
วอล์ทพูดต่อ “ไม่สำคัญว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร พูดสั้น ๆ ว่าผมมาเพื่อขอบคุณ ผู้โดยสารทั้งหกคนที่คุณให้ข้อมูลเรามาได้รับการยืนยันแล้วและห้าคนในนั้นก็เป็นนักโทษหลบหนีจริง ๆ”
น้ำเสียงของเจนสันเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันใด “ส่วนอีกคนนั้น คุณหาข้อมูลอะไรไม่เจอสินะ?”
วอล์ทพยักหน้ารับอย่างละอาย
เขาพูดต่อ “เจนสัน ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองชื่นชมคุณมากและอยากจะเชิญคุณมาร่วมกับเรา”
เจนสันตอบ “ผมไม่สนใจ”
วอล์ทกลับไม่สะดุ้งสะเทือนและพูดอย่างมุ่งมั่น “คุณเจนสัน ผมหวังว่าคุณจะพิจารณาข้อเสนอของเรา”
เซย์นหยุดวอล์ทไว้และบอกว่า “เจนสันของเราเป็นผู้สืบทอดบริษัทมูลค่านับหมื่นล้านดอลลาร์ เขาจะสนใจมาทำงานกับหน่วยข่าวกรองเล็ก ๆ ทำไม? พอเถอะอย่าเสียเวลาพูดเลย”
วอล์ทอึ้งไปและคิดได้ว่าพวกเขาคงไม่สามารถจะจ้างอัจฉริยะคนนี้ไหว
“ผมเสียมารยาทไปแล้ว งั้นผมขอตัวก่อนครับ”
เมื่อวอล์ทจากไปแล้ว อารมณ์ของเจนสันก็หนักอึ้ง
ขนาดหน่วยข่าวกรองก็ยังหาข้อมูลที่เขาต้องการไม่ได้ นี่ก็เหมือนกับเป็นการเพิ่มความลึกลับเกี่ยวกับชายปริศนาคนนั้น