ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1235
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1235
เมื่อเจย์ทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็บอกให้เซย์นเข้ามาหาและยื่นบัตรธนาคารให้เขา
“ในนี้มีอยู่ 200 ล้าน เอาไปที่ตระกูลอาเรสแล้วก็ขอแต่งงานสิ”
ในสายตาของเซย์น นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแบบเจย์ที่ต้องมุ่งเป้าชัยชนะตลอดเวลา ไม่มีทางทำเรื่องที่เขาต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งน้องสาวแบบนี้แน่
เซย์นถามอย่างระแวง “คุณวางแผนอะไรไว้เนี่ย?”
เจย์ตอบ “แค่อยากให้ภรรยาฉันยิ้ม”
เซย์นอึ้งงัน
เขารับบัตรธนาคารมาใส่ในกระเป๋าอย่างไม่มีพิธีรีตรองก่อนแหย่เจย์ “นายท่านอาเรส ผู้หญิงที่ ‘ยึดมั่นครอบครัว’ แบบน้องสาวผมที่แทบจะไม่มีเหลือแล้วนะ คุณต้องดูแลเธอให้ดี”
ใบหน้าทรงเสน่ห์ของเจย์เยียบเย็น “เธอยึดมั่นในครอบครัวจริง ๆ “
เขาหงุดหงิดใจเมื่อคิดว่าแองเจลีนนั้นช่วยเซย์นควบคุมเขาไว้
เพราะอาการป่วยของแองเจลีน เขาก็รู้ดีที่จะไม่โมโหเธอ เขาต้องพยายามกล้ำกลืนความคับแค้นเอาไว้เอง
“ฉันไม่มีเงื่อนไขอะไรพิเศษเรื่องของการแต่งงาน แต่อย่างน้อยนายก็ต้องจัด เพราะเป็นการให้เกียรติโจเซฟิน” เจย์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
เซย์นคนหลงน้องสาวก็ไม่ยอมแพ้ “แล้วเมื่อไรคุณถึงจะมีงานแต่งอย่างเป็นทางการกับน้องสาวผมล่ะ? ทำไมเราถึงไม่จัดงานด้วยกันเลยล่ะ?”
เจย์พูดอย่างหม่นหมอง “แองเจลีนไม่เห็นด้วย เธอบอกว่าฉันดูหล่อเหลาเกินไป แล้วก็จะทำให้นายดูเหมือนแมงกลิ้งอึ”
เซย์นตาถลนก่อนบอกว่า “นี่ผมขี้เหร่ขนาดนั้นเลยเหรอ? ผมเคยเป็นเด็กหนุ่มหล่อเหลาที่สุดในโรงเรียนนะ…”
เมื่อเซย์นมองท่าทางเป็นผู้ใหญ่ ดูน่าเชื่อถือ และใบหน้าทรงเสน่ห์ของเจย์ซึ่งนับวันยิ่งดูดีขึ้น เสียงแข็งกร้าวของเซย์นก็แผ่วลงและเงียบไปในที่สุด
ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เจย์ยิ่งดูหล่อเหลามากขึ้น นอกจากดวงตาลุ่มลึกทรงเสน่ห์ของเขา สันกรามและคางของเขาก็เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ใบหน้าเพียบพร้อมของเขาไม่มีร่องรอยของอายุแม้แต่น้อย
แม้แต่ดาราซูเปอร์สตาร์ก็ยังดูเหมือนขยะหากว่ามายืนอยู่ข้าง ๆ เจย์
เจย์บอกว่า “ถ้านายกล่อมให้แแองเจลีนยอมแต่งงานกับฉันได้… จากนี้ไปในอนาคตฉันก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของนายและโจเซฟินอีก”
เซย์นนั้นกระเหี้ยนกระหือรือที่จะกำจัดพี่เขยอย่างเจย์แล้วก็ยอมตกลงอย่างไม่ลังเล “ง่ายเหมือนปอกกล้วย”
เซย์นจะใช้พลังกายใจทุกความสามารถที่มีมาเกลี้ยกล่อมแองเจลีนให้จัดงานแต่ง
คุณนายเซเวียร์พูดอย่างจริงใจกับแองเจลีน “เจเจ เขาอยากจัดงานแต่งงานกับลูกมานานแล้วนะแองเจลีน ทำให้ความปรารถนาเขาเป็นจริงเถอะ”
โจเซฟินบอก “พี่แองเจลีนถ้าเราจัดงานแต่งพร้อมพัน พี่ก็จะได้ช่วยฉันจับตาดูเซย์นไว้ได้ตลอด เขาจะได้ไม่มีโอกาสหนีไปจากงานแต่งไง”
…
แองเจลีนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมตกลงอย่างลังเล เพราะขัดเสียงออดอ้อนเว้าวอนของทุกคนรอบข้างไม่ได้
เซย์นมองเจย์อย่างมีชัย แต่ต้องเห็นว่าเจย์มีสีหน้าหมองหม่น ใบหน้าเขาดำคล้ำแถมยังมีรังสีน่าสะพรึงอีกด้วย
เซย์นรู้ว่าเจย์นั้นมีอารมณ์แปรปรวนแต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเจย์ถึงได้ทำหน้าง้ำหน้างอตอนนี้
เจย์รู้สึกสงสารแองเจลีน ทั้งครอบครัวต่างก็ผลัดกันกดดันเธอและมีอิทธิพลต่อเธอเหมือนพวกเขากำลังกดดันนักโทษ ส่วนตัวเขาเองนั้นก็ช่วยเธอเรื่องนี้ไม่ได้เพราะว่าก็เป็นความปรารถนาของเขามานานแล้วที่จะแต่งงานกับแองเจลีน
เมื่อคิดว่านี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกระหว่างเซย์นและโจเซฟิน แองเจลีนจึงมีเงื่อนไขพิเศษ “งานแต่งของเราจะต้องเล็กกว่าของเซย์นและโจเซฟิน”
เจย์พูดด้วยน้ำเสียงเจือความเศร้า “แองเจลีนของฉันต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดสิ!”
แองเจลีนพูดพร้อมรอยยิ้ม “คุณมอบโลกทั้งใบให้ฉันแล้ว งานแต่งก็ไม่ได้ทำให้มีอะไรต่างไปหรอก”
การแต่งงานนั้นวางแผนไว้ว่าจะจัดในอีกสามเดือน
เซย์นและโจเซฟินจ้างบริษัทจัดงานแต่งที่มีชื่อเสียงในเมืองอิมพีเรียลเพื่อวางแผนงานแต่งงานของเธอ
ทั้งเจย์และแองเจลีนต่างก็นั่งฟังอยู่ด้านข้าง ตอนที่ผู้จัดงานแต่งถามเซย์นและโจเซฟินว่าต้องการอะไรสำหรับงานแต่งบ้าง เจย์ก็โพล่งออกมา “ทำให้งานแต่งพวกเขายิ่งใหญ่และอลังการที่สุดเท่าที่ทำได้”
งานแต่งงานของเขาและแองเจลีนจะจัดใหญ่ได้ก็ต่อเมื่องานของเซย์นและโจเซฟินยิ่งใหญ่อลังการเท่านั้น
เซย์นอ้าปากค้าง “นี่คุณจะจ่ายให้เหรอ?”