ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1244
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1244
”ผลของการทดลองนั้นควรจะอยู่แค่ในแวดวงวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ใครจะคิดว่ามีพวกคนใหญ่คนโตไม่รู้จักพอที่เห็นอำนาจของการทดลองนี้แล้วก็จัดการทำลายหมู่บ้านทิ้งไปทั้งหมู่บ้าน”
“ผู้ทรงอิทธิพลจากหลายแวดวงต่างก็อยากเข้ามามีส่วนร่วม บางคนก็อยากใช้อาวุธชีวภาพนี้ทำให้ตัวเองทรงอำนาจมากขึ้น ขณะที่บางคนก็แค่ไม่อยากให้มันไปอยู่ในมือผิดคนเท่านั้น ดังนั้นมันจึงกลายเป็นสงครามแย่งชิงสมบัติ
“นักธุรกิจนับไม่ถ้วน เจ้าหน้าที่พิเศษ และพวกแก๊งต่าง ๆ พากันเข้าร่วมศึกนี้โดยทุ่มเทพลังความสามารถทั้งหมด เป็นการต่อสู้นองเลือดที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก แล้วพวกปลาเล็กก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มพันธมิตร
“ท้ายที่สุดองค์กรโลกาวินาศก็มีชัยเหนือทุกฝ่ายและได้ชื่อว่าเป็นองค์กรลึกลับที่น่าเกรงขามที่สุดเท่าที่มีมา หัวหน้าองค์กรก็ได้ขึ้นมามีชื่อเสียงหลังจากช่วงสงครามโลก
“เมื่อชนะสงครามโลก ทุกคนต่างก็พากันนึกขึ้นมาได้ว่า เป้าหมายของสงครามนี้ก็คือการแย่งชิงสมบัติ แต่ว่าสมบัติอยู่ที่ไหนกันล่ะ?
“มิสเตอร์โบเยนั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
“ผู้นำองค์กรโลกาวินาศก็เริ่มออกหาของล้ำค่านั้น”
“สำหรับสมาชิกองค์กรทั่ว ๆ ไปอย่างเรา มันเป็นเหมือนการเดินทางโดดเดี่ยวออกหาสมบัติอย่างไร้เป้าหมาย ดังนั้นคุณท่านเซเวียร์กับฉันเลยตัดสินใจว่าจะออกจากองค์กรมาด้วยกัน
“เราเริ่มเบื่อกับการสู้รบอย่างไม่จบสิ้นและต้องการอยู่อย่างสงบ ดังนั้นเราจึงกลับมาที่เมืองอิมพีเรียลเพื่อใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติสามัญ
“ผู้นำองค์กรสงสัยว่าเราหนีมากับสมบัติเลยส่งคนมาตามล่าเรา พวกเราซ่อนในเมืองอิมพีเรียลซึ่งสมัยนั้นยังเป็นแค่เมืองห่างไกล แล้วก็หนีรอดมาได้
“ฉันแฝงตัวหลบซ่อนอยู่ในเมืองอิมพีเรียล ก่อตั้งธุรกิจและสร้างครอบครัว วันหนึ่งพ่อของหลานก็พาแม่ของหลานไปที่ตระกูลอาเรสอย่างยินดี เขาบอกฉันว่าพวกเขารักกันอย่างมาก แต่พอฉันมองหน้าโคลอี้ ฉันก็จำได้ทันทีว่าเธอเป็นใคร ฉันกลัวมากและคอยระวังเธอทันที
“แต่ฉันก็ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเธอจะฆ่าย่าของหลาน จนถึงวันนี้ ฉันก็ยังคิดไม่ออกว่าทำไมเธอถึงอยากทำร้ายย่า หล่อนก็เป็นแค่หญิงอ่อนแอไร้ทางสู้
คุณท่านอาเรสถอนใจเมื่อเขาพูดเรื่องนี้ “หลายปีที่ผ่านมาฉันเฝ้าคิดถึงเรื่องนี้ไม่หยุด ทำไมแม่ของหลานและย่าจะอยู่สงบ ๆ ไม่ได้กันนะ? ฉันรักย่าของหลานและแม่ของหลานก็ฆ่าคนรักของฉัน ฉันยอมรับว่าฉันเกลียดเธอ แต่ฉันก็ไม่ได้ฆ่าเธอเพราะว่าพ่อของหลาน
“ฉันขังเธอไว้และหวังว่าเธอจะสารภาพและบอกให้พ่อของหลานรู้เจตนาที่แท้จริงของเธอในการที่เข้ามาอยู่ในตระกูลอาเรส แต่หลายปีผ่านไปแม่ของหลานก็ยังไม่แสดงเจตนาร้ายออกมา กลายเป็นว่าฉันต้องกลับมาสงสัยตัวเองแทน บางทีความรักที่เธอมีให้พ่อของหลานอาจจะเป็นจริง?”
คุณท่านอาเรสเงียบไป
ริ้วรอยบนหน้าของเขายิ่งกดลึกไปกว่าเดิม
เหงื่อเปียกหลังเจย์ สิ่งที่ทำให้ปู่ของเขาสงสัยมากก็คือความจริงที่ว่า เขาไม่สามารถบอกได้ว่าแม่และย่าของเขานั้นบริสุทธิ์ไหม
คุณท่านอาเรสลุกขึ้นจากเก้าอี้รถเข็นด้วยกายสั่นเทาและเดินงุ่มง่ามไปที่ชั้นหนังสือด้านหลัง
เขากดปุ่มที่ผนังและชั้นหนังสือก็ขยับ เปิดให้เห็นผนังที่มีตู้ลิ้นชักฝังอยู่
คุณท่านอาเรสใส่รหัสผ่าน ดึงลิ้นชักและหยิบกล่องออกมา
คุณท่านอาเรสเดินโซเซมาหาเจย์พร้อมกล่องในอ้อมแขนก่อนส่งมันให้เจย์ด้วยมือสั่นเทา “หลังจากที่ฉันคุมขังแม่ของหลาน เธอก็รู้ว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นแสงเดือนแสงตะวันอีกแล้ว ดังนั้นเธอจึงมอบสิ่งนี้ให้ฉันแล้วขอให้มอบให้หลาน เธออยากให้บอกกับหลานด้วยว่า ถ้าหลานยังเห็นว่าเธอเป็นแม่ เธอหวังว่าสักวันหลานจะกลับไปที่ตระกูลยอร์ก”
เจย์รับกล่องมาด้วยใจหนักอื้ง เมื่อเขาเห็นผนึกของกล่องเขาก็อึ้งไปเล็กน้อย ผนึกนั้นปิดแน่นด้วยเลขสามแถวและรหัสอีกสามแถว แต่ละแถวมีเลขแปดตัว ซึ่งสามารถเปิดได้ต่อเมื่อลำดับของเลขทั้ง 24 ตัวนั้นถูกใส่เข้าไปอย่างถูกต้อง
เจย์หยุดคิดชั่วครู่และใส่เลขวันเกิดของตนลงไป
จากนั้นกล่องก็เปิดออกอย่างน่าแปลกใจ
เจย์อึ้งไปครู่ใหญ่ ความรักที่แม่มีให้เขานั้นสะท้อนอยู่ในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้
ข้างในกล่องมีป้ายสัญลักษณ์สำหรับผ่านเข้าองค์กรโลกาวินาศ หน้ากากที่ดูสมจริงมากหลายอัน และอาวุธล้ำสมัยหลายชนิด
คุณท่านอาเรสตะลึงไปเมื่อได้เห็นป้ายนั้น