ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1247
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1247
เด็กหนุ่มเอนร่างสูงสมส่วนพิงโต๊ะคอมพิวเตอร์ ดวงตาเย้ายวนมีเสน่ห์ของเขามีประกายขณะที่เขาเย้าแหย่ “นายท่าน ก้นคุณจะใหญ่นะถ้านั่งอยู่หน้าคอมทั้งวันแบบนี้ คุณจะทำยังไงถ้าหุ่นพังจนหาภรรยาไม่ได้เนี่ย?”
ปีศาจมองเด็กหนุ่มและยิ้มอ่อนโยนก่อนบอกว่า “เบื้องบนให้ภารกิจระดับห้าเอสมา ทั้งหน่วยทหารทั้งหมด มีนายคนเดียวที่มีคุณสมบัติพอจะรับภารกิจนี้…”
ภารกิจระดับห้าเอสเหรอ?
เด็กหนุ่มปฏิเสธ “ผมจะรับภารกิจยากขนาดนั้นได้ยังไงกัน? ผมยังเป็นแค่เด็กน้อยเอง”
ปีศาจะเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ฉันจะให้นายเลือกว่าอยากให้แชมป์คนไหนกับนายก็ได้ ดีไหม?”
แชมป์ทั้งสิบสามคนอึ้งไป พวกเขานั้นไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเท่านั้นแต่มีทักษะการต่อสู้ที่สูงมากด้วย เด็กหนุ่มเองก็เข้ากับพวกเขาได้เป็นอย่างดี
เมื่อสายลับคนอื่นออกไปทำภารกิจ แชมป์ทั้งสิบสามคนไม่เคยต้องไปกับใครเลย
“ทำไมไม่ให้เขามากับผมหมดเลยล่ะ?” เด็กหนุ่มยิ้มอย่างโลภมาก
ปีศาจหัวเราะ “พวกเขาขี้หงุดหงิดแล้วก็อารมณ์ร้อน ฉันกลัวว่านายจะรับมือพวกเขาไม่ไหวน่ะสิ”
เด็กหนุ่มพูดด้วยท่าทางไม่มีพิธีรีตอง “นายท่าน พวกเขาคุยไม่เก่งสักคน ผมคงเป็นบ้าแน่หากว่าต้องไปกับใครสักคนในพวกเขาตามลำพัง ถ้าให้พวกเขาทั้งหมดไปกับผม ผมก็จะไปหาพี่สาวรองถ้าผมทำพี่สาวใหญ่โมโห แล้วถ้าพี่รองเมินผม ผมก็ไปหาพี่สาม…”
ปีศาจคิดเล็กน้อยและบอกว่า “ฉันจะให้เจ้าสิบสามน้อยไปกับนาย ช่วยนายแก้เบื่อ”
สิบสามน้อยเป็นเด็กคนเดียวในหน่วยข่าวกรองทหารที่เด็กกว่าร็อบบี้น้อย แต่ว่าสิบสามน้อยก็มีรางวัลโดดเด่นในมือถึงสามรางวัล เธอไม่เพืยงเป็นแชมป์ที่สวยที่สุด เป็นแฮกเกอร์ที่เก่งที่สุดในเก้าหน่วยข่าวกรองทหาร แต่เธอยังเป็นคนเย็นชาที่สุด เงียบขรึมที่สึด และสะดุดตาที่สุด
เด็กหนุ่มดูไม่พอใจ “ช่างมันเถอะ สิบสามน้อยนั่นน่าเบื่อที่สุดแล้วในบรรดาพวกเขา ผมพูดกับเธอไปสิบเรื่องแต่เธอก็อาจจะไม่ตอบมาเลยสักคำ”
ก่อนที่เขาจะบ่นจบ เขาก็รู้สึกว่ามีคนเอามือมาดึงแขนเสื้อ
เขาหันไปและเห็นสิบสามน้อยจ้องเขาด้วยดวงตางดงามซึ่งดูเต็มไปด้วยเงื่อนงำ
เด็กหนุ่มเปลี่ยนท่าทีและจู่ ๆ ก็ยื่นมือไปโอบบ่าสิบสามน้อยไว้ หัวเราะและบอกว่า “สิบสามน้อยเจ๋งมาก เธอทั้งรู้ความและน่ารัก งั้นก็เอาสิบสามน้อยนี่แหละ”
ปีศาจนั้นคุ้นเคยกับท่าทางประดิษฐ์และตีสองหน้าของเขามานานแล้ว “เป็นอันตกลงนะ?”
ดวงตางดงามมีเสน่ห์ของเด็กหนุ่มหม่นแสงลง เขาถามด้วยสีหน้าหม่นหมอง “ว่าแต่ภารกิจคราวนี้เกี่ยวกับอะไรครับนายท่าน?”
ปีศาจจ้องมองดวงตาสีดำขลับของเด็กหนุ่ม ปกติแล้วมันจะเจิดจ้าเล็กน้อยเพราะว่าเขามักจะยิ้มอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าความฉลาดเฉลียวเจ้าเล่ห์แบบจิ้งจอกก็จะเห็นสะท้อนผ่านแววตาของเขาได้
หากว่าต้องอธิบายเด็กคนนี้เป็นสัตว์สักหนึ่งชนิด หมาจิ้งจอกคงเหมาะที่สุด
เขาดูเหมือนอ่อนโยนไร้พิษสงแต่ว่าที่จริงแล้วมีอันตรายถึงตาย
ปีศาจยิ้มเล็กน้อยเมื่อบอกว่า “เราจะไปล่าสมบัติกัน”
“ล่าสมบัติเหรอ?” เด็กหนุ่มพูดขำ ๆ “หน่วยข่าวกรองทหารไม่เคยขาดแคลนสมบัตินี่ ทำไมเราต้องวุ่นวายใหญ่โตเรื่องนี้ด้วยล่ะ?”
ปีศาจจ้องตาเด็กหนุ่ม ดวงตาที่เจิดจ้ากว่าดาวที่ส่องแสงสว่างที่สุด มันดูเหมือนว่ามีดินแดนที่บริสุทธิ์อยู่ในนั้น
เขารู้ดีว่าทุกคนที่อยู่ในแวดวงนี้ต่างก็มีความชั่วร้ายอยู่ในตัว มือของพวกเขาต่างก็เปื้อนทั้งเลือดคนเลวและคนบริสุทธิ์ ไม่มีใครที่เดินออกจากที่นี่ไปอย่างใสซื่อและไร้รอยมลทิน
แม้ว่าจะมีคนที่ทำแบบนั้นได้ เด็กหนุ่มตรงหน้านี้ก็ไม่ใช่หนึ่งในนั้น
ดวงตาของปีศาจทะมึน “สมบัตินี้อยู่ในองค์กรโลกาวินาศ พวกเบื้องบนกลัวว่าพวกโลกาวินาศจะเอาไปใช้ในทางเลวร้าย พวกเขาก็เลยมอบภารกิจนี้ให้เรา”
รอยยิ้มพิมพ์ใจของเด็กหนุ่มแข็งค้าง ดวงตาแวววาวของเขาฉายแววสังหาร
พวกโลกาวินาศเหรอ?
ความเจ็บปวดที่เขาไม่สามารถลบเลือนไปได้
ตลอดสามปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณองค์กรโลกาวินาศที่ทำให้เขาทำงานอย่างหนักเพื่อเป็นสายลับมือดีที่สุดในหน่วยข่าวกรองทหาร
“เราจะไปกันเมื่อไร นายท่าน?” เด็กหนุ่มถามขณะกำหมัดแน่น
ปีศาจยังไม่ยอมเฉลย “สิ่งที่นายจะทำคราวนี้จะต่างไปจากสิ่งที่นายทำในหน่วยข่าวกรองทหารแล้ว องค์กรโลกาวินาศไม่เพียงแค่เป็นองค์กรสายลับอันดับท็อปของโลกแต่ว่ายังมีอาวุธชีวภาพที่ร้ายกาจทันสมัยที่สุดด้วย ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามีทักษะความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม อันตรายที่นายต้องเจอ…”
แววตาเด็กหนุ่มมีความมุ่งมั่น “ไม่ว่าผมจะอยู่หรือตายก็ไม่สำคัญอีกแล้ว”
ปีศาจบอก “ฉันรู้ว่านายเกลียดองค์กรโลกาวินาศเข้ากระดูก ใบหน้านายจะต้องก่อให้เกิดความปั่นป่วนในองค์กรได้อย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นก่อนที่นายจะไปฉันจะขอให้คนช่วยแปลงใบหน้านาย…”
“ตกลง”