ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1251
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1251
พ่อและลูกสาวคู่นั้นต่างก็ยังยืนโอ้เอ้อยู่ตรงทางเดินข้าง ๆ เจย์และเริ่มโต้เถียงกัน
“หนูไม่อยากได้ลูกอม” เด็กหญิงตัวน้อยพูดกับพ่อของเธอเสียงเหี้ยม
หากเจ้าหมอนี่อยากเล่นบทเป็นพ่อเธอนัก อย่างน้อยก็น่าจะหาดูหน่อยว่าเธอชอบอะไรหรือมีงานอดิเรกอะไรไหม?
‘ชาย’ คนนั้นดูมีความอดทนเป็นเยี่ยม เขาคงจะเป็นพ่อที่อ่อนโยนที่สุดในโลก “พ่อดีใจที่หนูไม่ชอบลูกอม เพราะลูกอมมันไม่ดีสำหรับหนู กินมากไปก็ทำให้ฟันผุแล้วก็ทำให้ดูไม่ดี ถ้าเกิดลูกไม่ได้แต่งงาน พ่อก็ต้องเลี้ยงลูกนานไปอีกหลายปีน่ะสิ” เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ เขาก็ไอออกมาหลายครั้งเพื่อให้เห็นว่าเขานั้นแก่แล้ว
การเดินทางนี้เป็นการเดินทางที่เหนื่อยมาก เพราะว่าไม่มีการพักเบรกระหว่างการเปลี่ยนเครื่องครั้งที่สอง แองเจลีนนั้นรู้สึกง่วงงุนและหลับตาลง ดูเหนื่อยล้าหมดแรง
หลังจากที่เจย์รัดเข็มขัดให้เธอ เธอก็เอนหัวพิงไหล่ของเขาไว้และงีบหลับไป
แต่ตรงที่นั่งฝั่งทางเดินตรงข้ามนั้น ทั้งพ่อและลูกสาวจู่ ๆ ก็เพิ่มเสียงดังขึ้น เด็กหญิงตัวน้อยบอกกับพ่อด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวว่า “ไม่มีใครขอให้พ่อมาดูแลหนู ทำไมพ่อไม่ดูแลตัวเองก่อนล่ะ?”
“ฟังที่ตัวเองพูดบ้างไหมเนี่ย? พ่อเป็นพ่อของลูกนะ ถ้าพ่อไม่ดูแลหนูมันก็ผิดกฎหมายน่ะสิ ลูกไม่สามารถริดรอนสิทธิ์การดูแลของพ่อได้หรอกนะ”
แองเจลีนสะดุ้งเพราะเสียงที่จู่ ๆ ดังขึ้น และปีศาจคลั่งรักภรรยาอย่างเจย์ก็ไม่สามารถทำเป็นเมินไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นข้างตัวได้
เขาเอียงหน้าไปด้านข้างเล็กน้อยก่อนจ้องพ่อและลูกสาวเขม็งก่อนพูดคำรามด้วยเสียงต่ำเย็นชาว่า “ถ้าจะทะเลาะกัน ก็ไสหัวไปทะเลาะกันที่อื่น”
แม้ว่าชายคนนี้กดข่มเสียงเอาไว้ แต่น้ำเสียงเขาก็เต็มไปด้วยพลังที่แข็งกล้า มันมีพลังที่กดดันราวกับมีอาวุธจ่ออยู่เผาขนและยิงรัวใส่ไม่หยุด
ทั้งพ่อและลูกสาวต่างก็ผงะไปพร้อมกัน ชายคนนี้เป็นอะไรของเขากัน? อารมณ์ไม่ดีเหรอไงกัน?
‘ชาย’ คนนั้นชำเลืองมองหน้าเจย์ด้วยตามีเสน่ห์และตะลึงไปกับอารมณ์เยือกเย็นสงบนิ่งของเจย์ และเนื่องจากเป็นคนที่มีความรู้สึกเฉียบคม เขาก็เปิดระบบสายลับที่พกมาทันที
เสียงดังจากระบบวิเคราะห์ดังก้องในหูเขา “โปรดระวังตัว ตรววจจับวัตถุที่เป็นศัตรูได้ในระยะหนึ่งเมตรใกล้ตัวคุณ”
การเงียบนิ่งไปนานของทั้งพ่อและลูกสาวทำให้เจย์นิ่วหน้า
‘ชาย’ คนนั้นรู้สึกได้ว่าเขาหมดความอดทนและลากเด็กหญิงตัวน้อยไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว
เมื่อนั่งลงที่แถวหลังแล้ว ทั้ง ‘พ่อและลูกสาว’ ต่างก็เปิดมือถือขึ้นมาและเริ่มแชตคุยกัน
[คู่นั้นดูน่าสงสัยมาก]
[เหตุผลล่ะ?] แม้ว่าเด็กหญิงจะยังเด็กอยู่แต่เธอก็นิ่งสงบและไม่สามารถที่จะรับรู้ได้ถึงความไม่เป็นผู้ใหญ่ของเธอเลยสักนิด
[สัญญาณเตือนมันบอกฉัน พวกเขามีสิ่งของของพวกโลกาวินาศอยู่ด้วย]
[ฉันจะหาทางเอามันมา เราจะได้เข้าและออกจากองค์กรโลกาวินาศได้โดยที่ไม่มีปัญหา]
[อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม ชายคนนั้นท่าทางรับมือไม่ง่าย] ‘ผู้ชาย’ หรี่ดวงตาทรงเสน่ห์ของเขาลง
เด็กหญิงตัวน้อยรู้สึกอับจนคำพูด
ไม่ว่าเธอจะคิดว่าสัญชาตญาณของเขามันเหลือเชื่อแค่ไหน แต่ผลสุดท้ายมักจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าความรู้สึกที่แม่นยำของเขานั้นทำให้คนอื่นต้องชื่นชมจนอ้าปากค้าง
[มันอันตรายมากที่เธอจะไปร้องโวยวายต่อหน้าพวกเขา ได้ยินไหม? เลิกสร้างปัญหาให้พ่อเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นได้แล้ว]
เด็กหญิงเบิกตาจ้อง ‘ชาย’ คนนั้นอย่างดุร้าย
[นี่นายหาเรื่องฉันอีกแล้วเหรอ?]
[ถ้าเธอคิดว่าการที่ฉันเป็นพ่อเธอมันไม่เหมาะสม งั้นเราก็เปลี่ยนเป็นคู่รักวัยละอ่อนก็ได้ แต่เธออยากกอดจูบกับฉันในที่สาธารณะเหรอ?]
เด็กหญิงจ้องเขาเขม็ง [ทำไม ถ้าเราแกล้งทำเป็นคู่รักแล้วจำเป็นต้องกอดจูบกันด้วยเหรอ?]
ตอนนั้นเซย์นและโจเซฟินที่นั่งอยู่ด้านหน้าพวกเขาก็แสดงตัวอย่างให้เห็นมาพอดีว่าการเป็นคู่รักนั้นเป็นยังไง พวกเขากอดและเริ่มจูบกันอย่างดูดดื่ม
ทุกคนต่างก็ต้องอ้าปากค้างอย่างตกใจเมื่อได้เห็นการแสดงออกทางความรักที่โจ่งแจ้งของพวกเขา
“เธอเห็นไหม? คู่รักจริง ๆ เขาทำแบบนั้นแหละ ลิ้นพันกันขนาดนั้นใครเห็นก็รู้”