ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1260
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1260
ขณะที่เขาเดินเข้าไปใกล้ประตูเขาก็ได้ยินเสียงบอดี้การ์ดที่คุมอารมณ์ไม่ได้และกรีดร้องออกมา “ผมบอกแล้วไงว่านายท่านของผมโดนฆ่าตาย! ทำไมพวกคุณไม่เชื่อผม?”
“เพราะว่ามันไม่มีหลักฐานว่าห้องคุณโดนบุกรุกเข้ามา แล้วบนร่างกายของเจ้านายคุณก็ไม่มีร่องรอยอย่างอื่นด้วย การกล่าวอ้างของคุณนั้นมันไม่มีหลักฐานอะไรเลย แล้วจะให้พวกเราเชื่อคุณได้ยังไง?”
“ผมเห็นกับตาตัวเอง ผมถึงกับสู้กับหมอนั่นอยู่พักนึงด้วย” บอดี้การ์ดอธิบาย “เขาเป็นขโมย แล้วเขาก็เอาของมีค่าของเจ้านายผมไป”
“ของมีค่าอะไรล่ะที่เขาเอาไป?”
ดวงตาของบอดี้การ์ดฉายแววบางอย่างขึ้นมาชั่วขณะเมื่อเขารู้ตัวว่าได้พูดเรื่องที่ไม่ควรออกไป เขาก้มหน้าลงและเงียบไม่พูดอะไร
เจย์รู้ได้ทันที ขโมยคนนั้นไม่ได้มาเพื่อเอาชีวิตของนายท่านคนนี้ แต่ว่าเขามาเพื่อสมบัติ
เขายกมือขึ้นกุมหน้าอกซ้ายโดยสัญชาตญาณ ป้ายเครื่องหมายที่แม่ของเขาให้มาน่าจะอยู่ในกระเป๋าด้านในของเสื้อเชิ้ตเขา
ขณะที่เจย์ควานหา สีหน้าเขาก็ค่อย ๆ ซีดเผือด
ป้ายหายไปแล้ว
มีคลื่นอารมณ์ก่อตัวขึ้นในใจของเจย์ เขาค่อย ๆ ปะติดปะต่อเรื่องราว ป้ายโดนขโมยไปตอนไหน? ใครเป็นคนเอาไป?
หลังจากนั้นความคิดเขาก็หยุดที่จังหวะตอนที่พวกเขาลงจากเครื่องบิน ตอน ‘ชาย’ ปริศนาคนนั้นเข้ามาชนเขา
ดวงตาเจย์เย็นเยียบขณะที่เขากำหมัดแน่น เขาบอกกับตัวเองว่า “แกหวังไว้เลยนะว่าแกจะไม่มาเจอฉันอีกในอนาคตน่ะ”
ภายในห้องจู่ ๆ บอดี้การ์ดก็คลั่งขึ้นมาเมื่อหมอจะย้ายร่างของผู้ตายออกจากห้อง บอดี้การ์ดหยุดพวกเขาไว้และบอกว่า “พวกคุณจะพาเขาไปไหน? เขาไปไหนไม่ได้นะ ผมต้องพาเขากลับบ้านของเขา พ่อของเจ้านายผมกำลังรอเขาอยู่ที่บ้าน”
“แต่ว่าเขาป่วยด้วยโรคติดต่อ เราต้องเอาร่างเขาไปเพื่อที่จะได้ทำการชันสูตร เราต้องทำความสะอาดศพด้วย”
บอดี้การ์ดโมโหมากจนเส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปน “ไม่ได้ ผมไม่ยอมให้คุณพาเขาไป”
ทุกคนต่างก็พากันแยกย้ายเหมือนนกแตกรังเมื่อได้ยินว่าเป็นโรคติดต่อ
เหลือเพียงร่างสูงตระหง่านของเจย์ที่ยืนอยู่หน้าประตูเพียงลำพัง เมื่อเขาเห็นบอดี้การ์ดพยายามห้ามไม่ให้คนพวกนี้พาร่างของเจ้านายเขาไป ดวงตาของเจย์ก็ฉายแววเวทนา
ชายคนนี้จงรักภักดีมากจริง ๆ
บอดี้การ์ดเห็นว่าการข่มขู่ของเขานั้นไม่เป็นผล ดังนั้นเขาจึงทำเรื่องให้ใหญ่ เขาชกหมอจนล้มลงกับพื้นเหมือนเป็นคนบ้าและคว้าร่างของเจ้านายมาไว้บนหลัง ตอนที่เขากำลังจะเผ่นออกจากห้องเขาก็โดนบรรดาชายกำยำหลายคนจับเอาไว้
บอดี้การ์ดล้มลงกองกับพื้นและทุบพื้นอย่างเศร้าโศกขณะที่เขาร้องไห้ใจแทบขาด
“นายท่าน ผมขอโทษ เป็นความผิดของผมเอง ผมมันไร้ประโยชน์”
เจย์เดินเข้าไปหาอย่างไม่รู้ตัวและบอดี้การ์ดก็เงยหน้าขึ้นมองเขา เมื่อเขาเห็นเจย์และได้สบตากัน ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเชื่อใจเจย์ขึ้นมาอย่างยิ่งยวด
บอดี้การ์ดคว้าขากางเกงของเจย์ไว้และบอกว่า “คุณครับ เราเจอกันเมื่อคืนนี้ โชคชะตาทำให้เราต้องได้มาเจอกัน คุณช่วยไปที่ป้อมตระกูลยอร์กและบอกคุณท่านยอร์กทุกเรื่องที่คุณรู้ได้ไหม ผมเชื่อว่าท่านต้องตอบแทนคุณคุ้มค่าแน่”
เจย์มองศพที่อยู่ตรงเท้าอย่างไร้อารมณ์ มันไม่ได้ดูน่ากลัวเท่าไร อาจจะเพราะว่าชายคนนี้ตายไปเฉย ๆ แต่ว่าหน้าตาใสซื่อและผิวขาวกระจ่างของเขาดู… เป็นมิตร
“นายท่านของคุณชื่ออะไรล่ะ?” เจย์ถาม
บอดี้การ์ดชะงักและเอานิ้วเขียนชื่อลงบนพื้น [รอน]
จากมุมนี้มีเพียงเจย์เท่านั้นที่เห็นสิ่งที่เขาเขียน
นายท่านน้อยนี่ชื่อว่า รอน ยอร์กเหรอ?
เจย์พยักหน้าและบอกว่า “ก็ได้ ผมจะไปแทนคุณเอง”
เขาไม่ใช่คนที่ชอบสอดเรื่องคนอื่น แต่ว่าเขามาที่ประเทศพีชบลอสซั่มนี้ก็เพื่อหาองค์กรโลกาวินาศและร็อบบี้น้อย
นายท่านคนนี้นามสกุลยอร์ก ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกับเจ้าหน้าที่ในองค์กรโลกาวินาศ เจย์กำลังคิดถึงความเป็นไปได้ที่นายท่านรอน ยอร์กอาจจะเกี่ยวข้องกับองค์กร
เจย์รีบกลับไปที่ห้องด้วยสีหน้าจริงจังเคร่งขรึม
“แองเจิลที่รัก ฉันมีเรื่องต้องทำ ฉันต้องไปที่ป้อมตระกูลยอร์ก”