ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1263
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1263
เซย์นนั้นกลัวมากจนเขากอดโจเซฟินไว้แน่นพร้อมร้องโหยหวน “พระเจ้า เราต้องเละตุ้มเป๊ะแน่ถ้าเราร่วงลงไปจากตรงนี้และก็กลายเป็นผีเร่ร่อน”
เจย์มองเซย์นอย่างรังเกียจ “พวกเขาไม่ปล่อยให้เราตายก่อนที่เราจะส่งข่าวให้นายท่านยอร์กหรอก”
แองเจลีนคิดว่าเธอจะได้เจอร็อบบี้น้อยเร็ว ๆ นี้แล้วและก็ยินดีมาก ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวัง
“ที่รัก อย่าลืมถามเรื่องร็อบบี้น้อยด้วยนะ” แองเจลีนเตือนเขาอย่างนุ่มนวล
“ฉันรู้” เจย์ก็ใจกระวนกระวายเมื่อได้เห็นสายตามีความหวังของแองเจลีน
แองเจลีนวางความหวังเรื่องของร็อบบี้น้อยทั้งหมดไว้ที่องค์กรโลกาวินาศ
เขากังวลว่าผลที่ได้อาจจะทำให้แองเจลีนต้องผิดหวัง
ตอนที่พวกเขาอยู่ประเทศเอส ข้อมูลที่ได้มาจากเรย์ คอมราดก็ไม่อาจตรวจสอบได้อย่างละเอียด
ตอนนี้ในหัวของเขามีอยู่สองคำถาม
ข้อแรก ปีศาจเป็นคนพาตัวร็อบบี้น้อยไปจริงไหม?
ข้อสอง แล้วปีศาจเป็นคนขององค์กรโลกาวินาศหรือไม่?
พวกเขาไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้เลย แต่ความต้องการที่จะหาร็อบบี้น้อยก็เร่งด่วนมาก แม้ว่าจะดูเกินเอื้อม แต่พวกเขาก็วาดหวังไว้สูงว่าจะคว้าไว้ได้
นี่เป็นสิ่งที่พ่อแม่คนไหนในโลกก็ต้องทำแบบนี้
เป็นอย่างที่เจย์คาดการณ์ไว้ รถเคเบิ้ลเหวี่ยงไปมาอยู่ช่วงสั้น ๆ ก่อนที่จะขึ้นไปถึงยอดเขาอย่างราบรื่น
พนักงานที่คอยดูแลรถก็นั่งอย่างเกียจคร้านอยู่ในตู้คุมเครื่องและหรี่ตามองเจย์พร้อมกับคนอื่น ๆ
เกรย์สันเดินเข้าไปหาและถามว่า “ขอโทษนะครับ เราจะไปที่ป้อมตระกูลยอร์กได้ยังไง?”
“ป้อมตระกูลยอร์กนั้นอยู่ตรงครึ่งทางขึ้นไปบนภูเขาไม่ใช่บนยอด” พนักงานตอบอย่างไร้อารมณ์
เกรย์สันรู้สึกเหมือนโดนหลอก “ถ้างั้นทำไมคุณถึงพาเรามาที่ยอดเขาล่ะ?”
“รถเคเบิ้ลมันหยุดที่กลางภูเขาไม่ได้”
“งั้นขอแผนที่จุดชมวิวสำหรับนักท่องเที่ยวให้เราหน่อย”
“ไม่”
เกรย์สันโมโหมาก
คนที่อ่อนโยนและมีมารยาทอย่างเกรย์สันได้เจอคู่ปรับที่ไร้เหตุผลเข้าแล้ว เขารู้สึกหมดหนทางแล้วไม่รู้จะพูดอะไร
เจย์ผลักเซย์นออกไปรับหน้า “คนบ้า ๆ อย่างงี้เหมาะให้นายเป็นคนรับมือมากกว่า”
เห็นได้ชัดว่าเป็นคนเหน็บ แต่เซย์นกลับดูภูมิใจ ในที่สุดความซื่อบื้อ ไร้พรสวรรค์ของเขาก็เป็นประโยชน์
เซย์นเห็นได้ว่าคนที่นี่ไม่ดูอยากต้อนรับนักท่องเที่ยวเลยสักนิด
จากนัั้นเขาก็หยิบมือถือออกมาถ่ายรูปนิดหน่อยอย่างสบาย ๆ และพูดว่า “วิวบนนี้สวยมากจริง ๆ เกล็ดหิมะก็ใหญ่กว่าไข่นกพิราบอีก แถมหิมะก็หนากว่าตัวคนอีก ผมน่าจะถ่ายรูปอีกหน่อยแล้วก็ส่งไปให้เพื่อน พวกเขาชอบเห็นวิวหิมะ เอ๊ะเดี๋ยวก่อนนะ ผมน่าจะโพสต์ลงโซเชียลแทน แบบนั้นคนทั้งโลกก็จะได้มาที่นี่เพื่อจะชื่นชมวิวที่งดงาม…”
พนักงานฉวยมือถือเขาไปและบอกว่า “ถ้าคุณอยากไปที่ป้อมตระกูลยอร์ก งั้นก็ไปตรงนั้นแล้วก็ต้องค้นตัวก่อน”
คำขอนั้นหยาบคายมาก ดังนั้นเซย์นจึงท้วงทันที “ผมไม่อยากค้นตัวนี่”
“ถ้างั้นพวกคุณก็ไปแล้วก็หาป้อมตระกูลยอร์กเอาเองในภูเขานี่ ผมบอกเลยว่าคุณจะไม่เจอป้ายบอกทางอะไรหรอก คุณทั้งกลุ่มคงได้ไปจ่อประตูนรกแน่นอน”
เจย์คิดอยู่ชั่วขณะ หากว่าป้อมตระกูลยอร์กเป็นที่ตั้งขององค์กรโลกาวินาศจริง ๆ พวกอำนาจของอาวุธที่โคลคิดค้นขึ้นมา เขาไม่สามารถที่จะประเมินความล้ำหน้าของป้อมตระกูลยอร์กต่ำไปได้
หากว่าคนของป้อมตระกูลยอร์กต้องการที่จะระมัดระวังตัวมากขึ้น พวกเขาก็จำต้องทำตามเงื่อนไขเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านี้แค่ภูเขาหิมะนี่ก็สามารถทำให้พวกเขาติดอยู่ที่นี่ได้หลายวันแล้ว
เจย์จึงเดินเข้าไปที่ห้องของผู้ตรวจ