ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1269
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1269
ดวงตาที่ก่อนนี้แฝงความรักใคร่แฝงไว้ด้วยความระแวดระวังและความเป็นศัตรู “แกต้องแน่ใจนะโคล อย่าพาพวกศัตรูเข้าบ้านเรา”
ตอนนี้เจย์และคนที่เหลือต่างก็อยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
โคลจ้องหน้าแต่ละคนอย่างพินิจพิเคราะห์และไม่เห็นคนที่เขามองหา เขารู้สึกว่าความหวังที่มีพลันหายไปและแสงระยิบระยับในดวงตาเขาก็จางหายไป
“แองเจลีนอยู่ไหน?” ตอนนี้เขาห่อเหี่ยวมาก เสียงที่เคยกระตือรือร้นก็หดหู่ทันใด
แองเจลีนพูดเบา ๆ “ฉันแองเจิล ลินน์ค่ะ” เธอเปลี่ยนแปลงเสียงของเธอ
โคลยังคงจ้องแองเจลีนไม่วางตา…
แม้ว่าจะปลอมตัวแต่แองเจลีนก็ยังคงมีรูปหน้าที่งดงามไว้อยู่ แต่ว่าหน้าของเธอก็ไม่เหมือนเดิมเลยสักนิด
โคลจำแองเจลีนไม่ได้และรู้สึกว่าโดนหลอก เขาโมโหปรี๊ดทันที “เธอบอกว่าตัวเองชื่อแองเจลีนเหรอ?”
แองเจลีนแสร้งทำเป็นหวาดกลัว “ค่ะ ใช่ค่ะ”
“เธอกล้าโกหกฉันเหรอ?” โคลโมโหเดือด
แองเจลีนพูดทั้งน้ำตา “คุณคะ ฉันไม่ได้โกหกคุณนะคะ ฉันชื่อแองเจิล ลินน์ แ-อ-ง-เ-จ-ิ-ล-ลิ-น-น์”
พอได้ฟังคำอธิบายจากแองเจลีน ใบหน้าหล่อเหลาของโคลก็เปลี่ยนเป็นเขียวและพลันซีดเผือดทันที
สเปนเซอร์กลั้นหัวเราะต่อไปไม่ไหวเมื่อเขาได้เห็นสีหน้าของลูกชาย “ฮ่าฮ่าฮ่า กลายเป็นว่าเป็นความเข้าใจผิดเจ้าลูกชาย สาวคนนี้เธอชื่อแองเจิล ลินน์ ไม่ใช่แองเจลีนของแก แกจำคนผิดแล้ว”
โคลนั้นโมโหมาก และเขาก็ตะโกนใส่พวกชายบนกำแพง “พวกแกมองดูอะไรกัน? ลงมาซะแล้วก็เอาพวกนี้ไปโยนทิ้งที่หุบเขาแห่งความตาย”
“ครับ”
ดวงตาเจย์ดำมืดทันที เขาค่อย ๆ วางแองเจลีนที่อยู่บนหลังเขาลงกับพื้น จากนั้นดวงตาคมกล้าของเขาก็จ้องไปที่สเปนเซอร์
เขาคิดในใจว่าชายคนนี้และโคลดูเหมือนกันนิดหน่อย ใบหน้าของและท่าทางของพวกเขาดูอ่อนโยนและสูงส่งแต่ว่าก็เป็นเหมือนหมาป่าในคราบลูกแกะ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายคนนี้เป็นลุงของเขา
บรรดาคนของป้อมตระกูลยอร์กต่างก็รีบเข้ามาล้อมเจย์และคนอื่นไว้ แต่เจย์มองเพียงสเปนเซอร์อย่างสงบนิ่ง
“คุณคือคุณท่านยอร์กเหรอ?”
สเปนเซอร์แปลกใจเล็กน้อย ชายคนนี้จวนจะต้องตายอยู่แล้วแต่เขายังดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจซึ่งเป็นคุณสมบัติที่คนตระกูลยอร์กมี
“นายนี่ไม่กลัวตายจริง ๆ นะ นายกล้าดียังไงมาพูดกับฉันด้วยท่าทางแบบนั้น?” ใบหน้าอบอุ่นของสเปนเซอร์เปลี่ยนไป และสีหน้าเหี้ยมโหดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาแทน
โคลเสริม “ไม่ใช่ว่าหมอนี่ไม่กลัวตายหรอก แต่ดูเหมือนว่าเจ้านี่ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน”
เจย์หัวเราะเบา ๆ “ผมพาครอบครัวทั้งหมดมาและต้องทนลำบากมากมายกว่าจะมาถึงที่นี่ เราไม่ได้มาเพื่อจะเอาชีวิตมาทิ้งหรอก ผมมาเพื่อส่งข่าว”
“ส่งข่าวเหรอ?” โคลและสเปนเซอร์มองหน้ากัน
“พูดมา” เสียงสเปนเซอร์ดังขึ้น
เจย์ชำเลืองมองแองเจลีนและเห็นว่าใบหน้าเธอขาวซีดเพราะความหนาวเย็น มือของเธอก็เย็นจนแข็ง เขารู้สึกหมดหนทางจึงได้เอ่ยปากขอพวกยอร์กว่า “คุณท่านยอร์ก เราเดินมานานตามถนนบนเขาจนเหนื่อยมากแล้ว เราขอที่ให้ได้นั่งพักและอาหารหน่อยได้ไหม?”
สเปนเซอร์อึ้งไป
คนที่อยู่โดยรอบต่างก็พากันหัวเราะความไม่รู้สีรู้สาของเจย์
แองเจลีนเกลียดเวลาที่มีคนมาหัวเราะเยาะเจย์บี้ของเธอ เธอพยายามจะพูดออกมา “คุณท่านยอร์ก ฉันไม่รู้ว่าคุณได้สังเกตไหมแต่ว่าฉันตาบอด พี่สาวฉันก็ป่วยมาก หากไม่ใช่เพราะเรารักษาคำสัญญาว่าจะมาส่งต่อข้อความให้รอน เราก็คงไม่เสี่ยงชีวิตเดินทางมาที่นี่หรอก”
ตอนนั้นโคลก็เห็นว่าแองเจิล ลินน์คนนี้ตาบอดจริง ๆ ความรู้สึกสูญเสียและผิดหวังในใจเขายิ่งหนักหน่วงขึ้น เขายิ่งเชื่อว่าเธอคนนี้ไม่มีอะไรเทียบได้กับแองเจลีนที่รักของเขา
พอสเปนเซอร์ได้ยินว่ามีข้อความส่งมาจากรอน เขาก็พลันร้อนใจขึ้นมาหนักกว่าเดิม
“รอนนี่ส่งข้อความมาเหรอ?”