ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1272
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1272
โคลบอกว่า “ตอนที่มีคนกลุ่มก่อนหน้านี้มาพ่อก็พูดแบบนี้ พ่อเกือบปล่อยฝูงรถคอร์เวตต์เราออกไปแล้ว แต่ที่จริงเธอก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงที่อยากจะมาร่วมมือพัฒนาป้อมตระกูลยอร์กกับเราแค่นั้น”
สเปนเซอร์ตอบเสียงอ่อย “ผู้หญิงคนนั้นมีธุรกิจตั้งมากมายนับไม่ถ้วนและก็ถือว่าเป็นเศรษฐีแม้แต่กับพวกประเทศคู่แข่งของเรา แล้วจะนับว่าเธอเป็นคนธรรมดาได้ยังไง?”
โคลไม่สนใจจะเถียงกับเขาต่อแล้ว “นักท่องเที่ยวหกคนที่มานี่ มีคนหนึ่งตาบอด อีกคนป่วย สองคนก็กลัวมาก ส่วนผู้ชายอีกสองคนที่เหลือก็ดูมีประโยชน์กว่าหน่อยเพราะว่าช่วยลากเพื่อนร่วมทางไร้ประโยชน์มาได้ แล้วพ่อจะต้องกลัวอะไร?”
สเปนเซอร์หยุดคิดชั่วขณะก่อนจะพยักหน้า
หลังจากผ่านไปประมาณชั่วโมง สเปนเซอร์ก็ทนรอไม่ไหวแล้วและบอกคาร์สันว่า “ช่วยไปดูหน่อยซิว่าพวกเพี้ยนนั่นกินมื้อเที่ยงเสร็จหรือยัง? ถ้ากินเสร็จแล้วก็ให้พามาพบฉัน ฉันอยากจะถามอะไรสักหน่อย”
“ครับ”
คาร์สันกลับไปที่ห้องพักแขกในสวนอีกครั้ง
เจย์และคนอื่น ๆ เพิ่งกินอาหารเสร็จและกำลังจะเตรียมพักผ่อนในช่วงบ่ายขณะที่คาร์สันพรวดพราดเข้ามาไม่บอกกล่าว
“นายท่านอยากพบพวกนาย” คาร์สันยืนตรงประตูและพูดกับเจย์อย่างออกคำสั่ง
เจย์จ้องเขาอย่างเย็นชาและพูดช้า ๆ ว่า “บอกเขาว่ารอน ยอร์กขอว่าให้ฉันส่งข้อความให้คุณท่านใหญ่ยอร์ก ฉันจะบอกต่อเมื่อได้พบเขาเท่านั้น”
คาร์สันถึงกับอึ้งไป
“อะไรนะ? นายอยากเจอคุณท่านเหรอ? นี่นายคิดว่าคุณท่านของเราจะเจอใครก็ตามที่อยากพบตามใจเหรอไง? ฉันบอกนายตอนนี้เลยนะว่าคุณท่านของเราไม่รับแขก”
เจย์ตอบ “ถ้าเป็นแบบนั้นก็ต้องขอโทษด้วย ฉันก็คงบอกอะไรไม่ได้”
คาร์สันโกรธจนตัวสั่นระริก “นายมันไม่ธรรมดาเลยสินะ นาย… นาย… นายไม่กลัวว่าจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่เหรอไง?”
เจย์พูดเสียงขรึม “ถ้าฉันตาย ข้อความของรอน ยอร์กก็คงจะต้องลงหลุมไปกับฉันด้วย”
คาร์สันรีบกลับไปรายงานสถานการณ์
พอคาร์สันจากไป แองเจลีนก็กระซิบถามเจย์ว่า “เจย์บี้ คุณมีความรู้สึกอะไรกับคุณตาที่คุณไม่เคยเจอเหรอเปล่า? แบบนั้นคุณถึงได้อยากพบเขา?”
เป็นเรื่องปกติที่เจย์นั้นไม่ปกปิดความรู้สึกของเขาต่อหน้าแองเจลีน ดังนั้นเขาจึงตอบอย่างตรงไปตรงมา “ฉันก็แค่อยากจะทำความปรารถนาของแม่ให้เป็นจริง แต่ถึงฉันจะได้พบเขาเราก็คงจำกันไม่ได้หรอก ถึงยังไงพวกเขาก็เลือกเดินทางสายดำมืดนี่ ฉันก็คงไม่สามารถรับกับการตัดสินใจต่าง ๆ ของพวกเขาได้”
แองเจลีนจับได้ถึงความรู้สึกอ้างว้างในน้ำเสียงของเจย์ เขานั้นเป็นคนที่ใส่ใจครอบครัวมากดังนั้นเขาคงรู้สึกสิ้นหวังเมื่อต้องตัดสินใจเช่นนี้
แองเจลีนบอกว่า “ฉันคิดว่าพวกเขาคงทนคุณได้อีกไม่นาน ดังนั้นการถ่วงเวลาแบบนี้ไม่น่าจะใช่ทางที่ดี คนพวกนี้เป็นอาชญากรและถ้าเรายั่วโมโหพวกเขาไปมากกว่านี้พวกเขาอาจจะถลกหนังเราทั้งเป็นแล้วเอามาเซ่นก็ได้”
เจย์จับมือแองเจลีน “ไม่ต้องห่วงนะ ฉันมีวิธีรักษาชีวิตพวกเราแน่”
แองเจลีนรู้สึกเบาใจนิดหน่อย
ไม่นานนักสเปนเซอร์ก็นำกลุ่มยามบุกเข้ามาในสวนอย่างเกรี้ยวกราด
เจย์ยืนขึ้นและมองสเปนเซอร์ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เขาพูดแหย่ว่า “ทำไมคุณถึงพาคนมามากมายขนาดนี้ล่ะนายท่านยอร์ก? พวกเราก็เป็นแค่กลุ่มคนอ่อนแอเท่านั้นคุณให้ค่าเราสูงเกินไปหรือเปล่า”
สเปนเซอร์พูดอย่างฉุนเฉียวว่า “ฉันได้ยินว่านายอยากเจอพ่อของฉันเหรอ?”
เจย์ตอบ “ผมก็แค่พยายามทำสิ่งมีคนมอบหมายมา”