ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1277
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1277
โคลอึ้งงันไป
ไม่มีใครในทั้ง 108 ป้อมที่สามารถรับมือการโจมตีของพ่อเขาได้ ชายคนนี้แม้ว่าจะต้องพยายามสักหน่อยที่จะต้านแต่เขาก็จัดการได้
“นี่พ่อใช้แรงไปเท่าไรเนี่ย?” โคลถาม
เขาเดาว่าสเปนเซอร์คงประเมินเจย์ต่ำไปและออมมือให้
สเปนเซอร์นั้นตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
เมื่อโคลเงยหน้าขึ้นและมองเห็นสีหน้าย่ำแย่ของผู้เป็นพ่อ เขาก็รู้ทันทีว่าพ่อเขาไม่ได้ออมมือในการโจมตีครั้งนี้แม้แต่น้อย
โคลทำอะไรไม่ถูกแล้วตอนนี้
ตอนนี้มีชายที่ทักษะและพรสวรรค์มาปรากฏตัวที่ป้อมตระกูลยอร์กแล้ว พวกเขามีทางเลือกแค่ทางเดียวเท่านั้น ทุ่มเทจัดการเขาอย่างไม่ยั้ง
“คาร์สัน เรียกพวกคอร์เวตต์มา” โคลพูดเสียงแผ่ว “ฉันคิดว่าสวนนี้ดูประหลาดแล้วก็ไม่เหมาะ มันไม่เข้ากันกับบริเวณรอบ ๆ ด้วย ระเบิดมันทิ้งซะ”
เจย์จะไม่เข้าใจความหมายแฝงนัยของคำพูดโคลได้อย่างไร? เขาและตระกูลยอร์กก็เหมือนสีขาวและดำไม่มีทางที่จะผสมกันได้
คาร์สันได้สติและรีบวิ่งออกไป
เพียงชั่วพริบตา คอร์เวตต์ก็มาล้อมรอบสวนไว้พร้อมด้วยอาวุธล้ำสมัย
จากต้นจนถึงตอนนี้ สเปนเซอร์ยังไม่เห็นความตระหนกบนใบหน้าเจย์เลยสักนิด เขาชื่นชมความสงบและนิ่งของเจย์ เวลาที่เจย์ยืนอยู่โดยไม่พูดอะไร สเปนเซอร์ก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่ได้น่ารำคาญขนาดนั้นแต่กลับรู้สึกว่าเขาน่าสนใจ
ชายคนนี้ฉลาดเหลือเชื่อ เขาไม่สะทกสะท้านเวลามีเรื่องเกิดขึ้นและยังนิ่งมาก
เขานั้นเป็นเหมือนนายพล
สเปนเซอร์เป็นคนที่ชื่นชมคนมีความสามารถ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจจัดการเจย์เขาก็ถามเป็นครั้งสุดท้าย “เจ้าหนู ทำไมนายถึงมาที่ป้อมตระกูลยอร์กกัน?”
เจย์จ้องสเปนเซอร์อย่างเย็นชา แทนที่จะตอบคำถามแต่เขากลับถามเรื่องร็อบบี้น้อยแทน “ผมได้ยินมาว่ามีป้อม 108 ป้อมอยู่บนภูเขามุกที่กว้างใหญ่มีคนนับแสนอยู่ในแต่ละป้อม แล้วสำรวจสำมะโนประชากรกันยังไง? หากว่าเรามาอาศัยอยู่ในป้อมตระกูลยอร์กแล้วชื่อเราจะต้องลงทะเบียนกับป้อมไหม?”
สเปนเซอร์อึ้งไป “นายมานี่เพื่อสำรวจสำมะโนประชากรหรือไง?” ในน้ำเสียงของเขายังเจือแววสังหารอยู่
เจย์บอก “ผมก็แค่อยากรู้”
สเปนเซอร์ไม่คิดว่าต้องระวังอะไรเจย์เพราะในสายตาเขาเจย์ก็ไม่ต่างจากคนตาย ดังนั้นจึงบอกมาตามตรงว่า “สำมะโนประชากรของภูเขามุกนั้นทำอย่างพิถีพิถัน ทั้งนามสกุล ที่มา กรุ๊ปเลือด แม้แต่สัตว์เลี้ยงของครอบครัวก็ต้องลงทะเบียน เราจะสนใจพวกคนต่างชาติเป็นพิเศษ เราจะค้นข้อมูลไปถึงบรรพบุรุษเลยไม่ใช่แค่ตัวคนที่ลงทะเบียนเท่านั้น เราไม่ยอมให้มีคนน่าสงสัยก้าวเท้าเข้ามาในภูเขามุกแน่”
เขาชำเลืองมองเจย์ “ถ้านายอยากจะมาตั้งถิ่นฐานในภูเขามุก นายก็ต้องบอกเราทุกอย่างเกี่ยวกับบรรพบุรุษของนาย”
เจย์ไม่ใช่คนที่ปล่อยให้ใครมาจูงจมูกได้ เขาเป็นผู้นำมานานและคุ้นชินกับการต้องเป็นศูนย์กลางของชีวิตคนอื่น
เจย์พูดอย่างสบาย ๆ “ผมว่าคงไม่มีนักท่องเที่ยวที่ไหนอยากอยู่ในเผ่าป่าเถื่อนแบบนี้หรอก ถ้าเป็นแบบนั้น คุณขยายจำนวนประชากรด้วยการลักพาตัวคนมาจากข้างนอกเหรอ?”
ตอนที่พูด เจย์ก็จ้องหน้าสเปนเซอร์เขม็งเพื่อจับสังเกตเงื่อนงำในสีหน้าของสเปนเซอร์
สเปนเซอร์ฉุนเฉียว “ผู้ชายในทั้ง 108 ป้อมของเรายังแข็งแรงและมีความสามารถจะมีลูกได้หรอกน่า เราไม่จำเป็นต้องลักพาตัวใครมาทำลายความสมดุลทางชีววิทยาของเราหรอก”
เจย์อดหัวเราะไม่ได้กับความคิดแบบองุ่นเปรี้ยวของเขา
เจย์พูดด้วยน้ำเสียงน่ากลัว “ผมบอกได้ว่าคุณไม่ใช่คนที่ทำอะไรชอบธรรมตั้งแต่แรกเห็น คุณรู้ไหมว่าการมีสัมพันธ์กันในเครือญาติจะมีข้อเสียมากมาย? มีเพียงเด็กที่เกิดจากลักษณะทางชีวที่ต่างกันเท่านั้นถึงจะโดดเด่น ไม่งั้นทำไมพวกลูกผสมถึงได้เป็นที่นิยมนักล่ะ?”
สเปนเซอร์มองโคลอย่างหมดคำพูดและถึงขนาดพึมพำกับตัวเองว่า “ไม่แปลกใจเลย”
โคลจ้องพ่อเขาอย่างไม่อยากเชื่อและรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจอย่างแรงจากพ่อของเขา โคลพูดแก้กับพ่อของเขา