ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1281
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1281
มันมีป้ายไม้แขวนไว้ที่หน้าหมู่บ้านไม้ไผ่ซึ่งมีชื่อของสวนแห่งนี้เขียนไว้ว่า สายลมสดชื่น
เจย์ชำเลืองมองแองเจลีนที่ยืนอยู่ข้างเขา เหมือนว่าสำหรับโคลแล้วแองเจลีนคือสายลมที่สดชื่นสำหรับเขา โคลเฝ้ารอให้เธอมาและตอนนี้สุดท้ายเธอก็มา
ถึงอย่างไรสายลมสดชื่นมันเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ หากว่าโคลอยากจะชนะใจแองเจลีน เขาก็ได้แต่ฝันไปเท่านั้น
จู่ ๆ เจย์ก็จับมือแองเจลีนแน่น นิสัยกดข่มและเป็นเจ้าของของเขาเริ่มที่จะแสดงออกมาอีกครั้ง ทำให้เขารู้สึกอยากจะกลืนกินเธอไว้ในร่างของเขา
โคลพาพวกเขามาตรงใจกลางสวนไผ่ เจย์และคนอื่น ๆ ต่างก็เลือกห้องนอนที่ชอบและเข้าไปพัก
โคลพูดกับแองเจลีน “บอกผมนะหากว่าคุณต้องการอะไรแองเจลีน ผมจะบอกให้คนรับใช้เอามาให้คุณ”
แองเจลีนตอบอย่างสุภาพ “ขอโทษที่ต้องรบกวนนะ”
สีหน้าโคลมืดครึ้ม เขาสามารถรู้สึกได้ว่าการที่เขาและแองเจลีนได้กลับมาพบกันครั้งนี้นั้นมีระยะห่างต่อกันมากขึ้น
บางทีอุบัติเหตุนั้นได้พรากความใสซื่อและความมีชีวิตชีวาของเธอไป
“แองเจลีน คุณอยากไปกินมื้อเย็นกับผม-” ก่อนที่โคลจะทันพูดจบ เจย์ก็ตัดบทเขาด้วยท่าทางกดข่ม
“คุณช่วยนำอาหารเย็นของนายหญิงมาให้ที่สวนสายลมสดชื่นได้ไหมนายน้อยยอร์ก? นายหญิงของเราเคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก เราเลยไม่อยากรบกวนคุณ…”
โคลจ้องเจย์อย่างจะกินเลือดกินเนื้อ เจ้าบอดี้การ์ดนี้ชอบเข้ามาขวางอยู่ตลอด เขารู้สึกว่าเจ้าหมอนี่ขวางหูขวางตาเหลือเกิน
เจย์เริ่มที่จะไล่โคลไป “ตอนนี้ก็เริ่มดึกแล้ว นายหญิงต้องพักผ่อน หากว่าคุณมีอะไรที่อยากจะบอกก็เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากันเถอะนายน้อยยอร์ก”
โคลกระทืบเท้าจากไป
เจย์ดึงแองเจลีนเข้ามากอดและก็หึงจนทนแทบไม่ไหว “ตอนนี้เธอเปิดเผยตัวตนไปแล้ว เจ้าเลวนั่นก็มองเธอเปลี่ยนไป สามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอก็ขมขื่นแล้วนะ ไหนบอกซิว่าเธอจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”
แองเจลีนหัวเราะออกมาอย่างไม่เห็นด้วย “คนตาบอดอย่างฉันไม่เห็นสายตาของเขาด้วยซ้ำ แล้วคุณจะต้องมากังวลอะไรอีกคะ?”
เจย์พูดอีก “เขาเตรียมสวนสายลมสดชื่นนี่ไว้ให้เธอ มีทั้งลำธารไหลเป็นสายและก็ทางเดินกว้างขวาง เธอเห็นแล้วต้องชอบแน่”
แองเจลีนบอกว่า “ไม่ว่าสวนสายลมสดชื่นจะสวยแค่ไหน แต่ก็คงสวยเท่าดอกไม้ในสวนไร้กังวลของเราไม่ได้หรอก”
เจย์รู้สึกโล่งใจและปัดจมูกเธอ “เธอนี่นะ รู้ดีว่าจะประจบคนอื่นยังไงใช่ไหม? แต่ฉันก็ชอบมากเลย”
แองเจลีนท้วงอย่างกระเง้ากระงอด “แหม ฉันไม่ได้ยอคุณสักหน่อย เป็นความจริงนะที่ฉันชอบดอกไม้ที่สวนไร้กังวล แม้ตอนนี้พวกมันยังเป็นแค่ดอกตูมเล็ก ๆ แต่สักวันก็ต้องเป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีดอกไม้เบ่งบาน ดอกไม้ทุกดอกเป็นตัวแทนความหวังดีที่คุณมีให้ฉัน”
เจย์กอดแองเจลีนแน่น “อืม”
เจย์ตั้งตารอให้ถึงวันที่ดอกไม้เบ่งบาน
เมื่อเจย์คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้เขาก็ปลอบแองเจลีนโดยบอกว่า “วันนี้สเปนเซอร์อาจจะไม่ได้พูดความจริงกับฉัน อย่าเพิ่งหมดหวังนะแองเจลีน ฉันรู้ว่าที่ป้อม 48 นี่มีห้องสมุดและก็มีสมุดลงทะเบียน พอฉันได้ดูสมุดลงทะเบียนนั่นก็จะรู้ว่าร็อบบี้น้อยอยู่ที่นี่หรือเปล่า”
แองเจลีนพยักหน้า “อืม”
“อีกอย่างถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เบาะแสเรื่องร็อบบี้น้อยแต่เราก็ยังหาข้อมูลเกี่ยวกับปีศาจได้ และเราก็ต้องตามรอยร็อบบี้น้อยได้แน่ถ้าเราตามเบาะแสไป”
“อืม” แองเจลีนรู้ว่าเจย์บี้พูดเพราะแค่เพียงจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเท่านั้น
แองเจลีนทานมื้อเย็นไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก่อนที่จะไปนอนพัก
เพราะกลัวว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน เขาเลยยืนเฝ้ายามที่หน้าประตูแทน
ค่ำคืนในหุบเขานั้นหนาวมากเป็นพิเศษ เมื่อถึงช่วงเดือนมืดบริเวณรอบข้างก็มืดสนิท มีเพียงแสงสีเงินเรืองรองสะท้อนจากหิมะสีขาวบนยอดเขาเท่านั้นที่มองเห็นได้
คืนนี้ถูกลิขิตให้เป็นคืนที่พิเศษ
ที่ตีนเขามีเด็กหนุ่มแต่งชุดสีดำพรางกายพร้อมถุงมือตีนตุ๊กแกกำลังหยิบตะขอออกมาเหวี่ยงเข้าไปเกี่ยวกับหน้าผา จากนั้นเขาก็เริ่มปีนป่ายหน้าผาขึ้นไปราวปีศาจ
เขาพึมพำ “ทำไมฉันไปขโมยสมบัติที่โลกาวินาศแล้วจะต้องมีเจ้าสิบสามตัวน้อยมาด้วยเนี่ย? บางทีผู้หญิงก็เป็นตัววุ่นวาย”