ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1286
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1286
โคลรู้สึกใจคอปั่นป่วนขึ้นมาเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดของสเปนเซอร์ “พ่อ แองเจลีนเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ พ่อก็เห็นว่าตอนนี้สายตาเธอมองไม่เห็นด้วยซ้ำ”
ตอนที่เขาพูดเรื่อง ‘สายตามองไม่เห็น’ โคลก็อารมณ์ท่วมท้นจนสะอึก “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมฆ่าสามีของเธอ แล้วเธอก็ร้องไห้จนตาบอด ผมติดค้างเธอมากเหลือเกิน”
สเปนเซอร์พูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แกมันใจอ่อนไป แกเองก็เห็นว่าบอดี้การ์ดของเธอไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดูจากทักษะของผู้ชายที่ชื่อเบ็นนั่น เขาสามารถก่อยิ่งกว่าหายนะให้กับป้อมตระกูลยอร์กแน่”
โคลอธิบาย “เธอตาบอด เธอก็ต้องมีคนแบบนั้นไว้คอยปกป้องสิ”
สเปนเซอร์บอกว่า “ฉันคิดว่าความรักทำให้แกตาบอดแล้ว ลองคิดดูสิ ผู้ชายชื่อเบ็นนั่นด้วยความสามารถของเขาสามารถไปได้ไกลมากแน่ แต่ทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้างกายผู้หญิงเหมือนพวกขี้ขลาดไร้ประโยชน์ด้วย?”
โคลบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด เบ็นอาจจะเป็นบอดี้การ์ดที่หลานชายคนโตของตระกูลอาเรส เจย์ อาเรส มอบไว้ให้แองเจลีน เจย์นั้นเป็นคนก่อตั้งหน่วยภูติผี หลังจากที่เขาตายพวกสมาชิกหน่วยภูตผีก็สาบานว่าจะภักดีและทุ่มเทให้แองเจลีน”
สเปนเซอร์นั้นโมโหมากจนเขาคว้ากาน้ำชาปาใส่โคล “แก ไอ้เวร ทำไมแกไม่รีบบอกก่อนหน้านี้?”
โคลตอบ “ก็พ่อไม่ได้ถาม”
สเปนเซอร์ว่า “นี่มันเรื่องใหญ่มาก แกไม่เข้าใจความเสี่ยงเรื่องนี้เลยเหรอ? โคล ป้อมตระกูลยอร์กทั้ง 108 ป้อมแล้วก็ชีวิตความเป็นความตายของคนนับแสนนั้นอยู่ในมือของแกนะ เพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง แกทำให้ป้อมตระกูลยอร์กต้องมาเสี่ยงอันตราย แก… นี่ฉันควรจะลงโทษแกยังไงดี?”
โคลรู้ว่าตัวเองผิด ดังนั้นเขาจึงยืนเงียบ ๆ ไม่ได้โวยวายท้วงติงอะไร
สเปนเซอร์คิดว่าโคลสำนึกเสียใจ เขาเลยทำใจด่าทอโคลต่อไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงโบกมือไล่อย่างหมดปัญญา “ช่างมันเถอะ ฉันจะจัดการเก็บกวาดให้แกเอง”
ดวงตาไร้ชีวิตชีวาของโคลเบิกกว้างทันที “พ่อ!”
เขารีบวิ่งไล่ตามสเปนเซอร์และดึงข้อมือของเขาไว้เพราะกลัวว่าสเปนเซอร์จะเดินจากไปก่อน “พ่อจะทำอะไรเธอ?”
สเปนเซอร์ตอบ “เหยื่อมันหลุดรอดจากตาข่ายไปได้แล้ว แกก็ใจดีมากพอแล้วที่ปล่อยให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อมาได้หลายปี”
โคลทรุดลง คุกเข่าและคว้าขาของสเปนเซอร์ไว้ ใบหน้าหล่อเหลาของเขามีสีหน้าจริงจังมุ่งมั่นอย่างที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน “ผมไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดอะไรได้ถ้าพ่ออยากให้เธอตาย แต่หากว่าเธอตายความรักของผมก็จะตายไปกับเธอด้วย ผมจะออกจากบ้านแล้วไปอยู่อย่างปลีกวิเวก ผมหวังว่าพ่อจะสนับสนุนผมหากว่าเป็นแบบนั้น”
สเปนเซอร์พูดอย่างมีโทสะ “นี่แกขู่ฉันเหรอ โคล?”
โคลไม่พูดอะไร แต่สายตามุ่งมั่นจริงจังของเขาบ่งบอกว่าเขาไม่ได้แค่ท้าทาย
สเปนเซอร์โมโหมาก…
ท้องฟ้ามีฟ้าแลบและเสียงคำราม แต่สุดท้ายพายุที่ตั้งเค้าก็ไม่ได้มาถึง
ท้องฟ้ากระจ่างใส
สเปนเซอร์ชี้โคลและกล่าวว่า “แกคิดว่าฉันต้องพึ่งพาแกในการสืบทอดเชื้อสายเพราะว่าแกเป็นลูกชายคนเดียวของฉันเหรอ? ช่างหัวแก ฉันเองก็ยังหนุ่มและสามารถมีลูกชายได้อีกหลายคน หากว่าแกอยากจะไปทำตัวสันโดษเป็นฤๅษีหลังเกิดเรื่อง ฉันก็จะเอาปืนจี้ส่งแกไป”
สเปนเซอร์เดินจากไปพร้อมด่าไปด้วย
โคลหายใจหนักหน่วงออกมาก่อนที่จะลงนอนกองกับพื้น
“ผมจะปกป้องคุณ แองเจลีน” โคลพึมพำ
“ผมจะไม่ทำให้คุณเศร้าหรือทำให้คุณต้องใจสลายอีก”
ที่สวนสายลมสดชื่น
เจย์ยืนอยู่เงียบ ๆ ในสวน เมื่อมองผ่านกรอบประตูไม้ไผ่สี่เหลี่ยมออกไป เขาก็เห็นพวกพี่น้องคอร์เวตต์ยืนยามคุมอยู่รอบสวนสายลมสดชื่น