ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 1290
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1290
หากมีใครต้องการหาหนังสือสักเล่มแบบเฉพาะเจาะจงในนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร โชคดีที่เจย์มีแผนที่ในหัวคอยนำทาง เขารู้ว่าสมุดบันทึกรายชื่อประชากรอยู่ในชั้นหนังสือส่วนของป้อม 48
ตอนนั้นมีคนเหมือนตุ๊กแกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ชั้นหนังสือตู้ที่ 48 ขาของเขาเลือดไหลไม่หยุด เขาหยิบชุดปฐมพยาบาลที่พกติดตัวออกมาจากนั้นก็ทายาและพันผ้าพันแผลเพื่อหยุดเลือด
เจย์เดินผ่านยามห้องสมุดและแอบเข้ามาด้านใน
เมื่อเข้ามาถึงตู้หนังสือส่วนของป้อม 48 เจย์ก็เริ่มมองหาสมุดบันทึกรายชื่อประชากรบนชั้นหนังสือ ทันใดนั้นก็มีร่องรอยสีแดงเลือดบนหน้าหนังสือที่สะดุดตาเจย์ เขาแตะรอยสีแดงบนหน้าหนังสือนั้นด้วยนิ้วมือและรู้สึกได้ถึงความชื้น เจย์ตื่นตัวระวังภัยทันใด
นักฆ่าที่บาดเจ็บต้องซ่อนอยู่ข้างบนแน่
เขาคาดเดาเช่นนั้น
ทันใดนั้นเจย์ก็มีความคิดดี ๆ แวบเข้ามาในหัว เขารวบรวมกำลังและฟาดมือใส่ชั้นหนังสือทันทีทันใด รังสีสังหารอย่างรุนแรงก็พุ่งตรงเข้ามาใส่เขา
เจย์หมุนตัวด้วยความเร็วแสงและหลบพ้นคมมีดของนักฆ่าไปได้
เจย์มองนักฆ่าที่ใส่ชุดพรางตัวสีดำพร้อมดึงหมวดฮู้ดขึ้นคลุมศีรษะ ทั้งปาก จมูก และตาต่างก็ปกปิดไว้มิดชิด ความคิดที่ว่าเจ้าหมอนี่แอบอยู่บนเตียงของแองเจลีนเมื่อคืนนี้ทำให้โทสะพุ่งขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจของเจย์ ดวงตาเขาแผ่รังสีเย็นเยียบ
“ให้ฉันเห็นหน้านายหน่อย” เขากำหมัดแน่น เปลี่ยนตำแหน่งท่ายืนและเริ่มวิ่งไต่กำแพงเหมือนตุ๊กแกเพื่อโจมตีนักฆ่าคนนั้นจากด้านข้าง
นักฆ่าเพิ่งจะทำแผลบนขาของตัวเองเสร็จ ดังนั้นความเจ็บปวดของขาที่พันผ้าไว้ก็ลดลงไปเยอะมาก สำหรับปีศาจที่ผ่านการฝึกนรกมาเช่นเขานั้น ความเจ็บปวดแค่นี้แทบไม่ส่งผลอะไรต่อการเคลื่อนไหวร่างกาย
เขาและเจย์พุ่งเข้าต่อสู้กัน หมัดของเจย์นั้นหนักหน่วงและรวดเร็ว ทักษะการต่อสู้แบบผสมผสานของเขานั้นอยู่ในระดับที่สมบูรณ์แบบ
ส่วนอีกด้านนั้น เทคนิคการต่อยของเด็กหนุ่มก็รุนแรงมากพอที่จะจัดการคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งได้ เมื่อเขาปล่อยหมัดออกไปตำแหน่งที่เจย์หลบไปนั้น ก็จะแหลกลาญลงเป็นหลุม
“นายก็เก่งใช้ได้นี่นา?” เจย์ชม
เสียงของเด็กหนุ่มดูอ่อนแรง “คุณก็เหมือนกัน”
ทั้งสองต่อสู้กันเป็นเวลานานและเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้ามาห้าม
บางทีการต่อสู้นั้นอาจจะรุนแรงเกินไป สมุดบันทึกรายชื่อประชากรที่เด็กหนุ่มขโมยมาก็ร่วงลงมาจากข้างเอวของเขา
เมื่อเจย์ได้เห็นบันทึก ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย
“ฉันเห็นแล้วว่านายเองก็เข้ามาขโมยสมบัติเหมือนกัน” เจย์บอก
ริมฝีปากเด็กหนุ่มหยักโค้งเป็นรอยยิ้มชวนฝัน “คุณผิดแล้ว ผมเข้ามาเพื่อฆ่าคนต่างหาก”
บางทีคงเป็นการยากที่จะบอกว่าพวกเขาทั้งสองคนนั้นใครมีฝีมือเหนือกว่า ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงตัดสินใจล่าถอย
เขาชักหมัดกลับมาและถอยหลังไปไกลราวสองเมตร ก่อนพูดกับเจย์ว่า “ผมไม่อยากได้บันทึกแล้ว ช่วยส่งข้อความของผมไปบอกโคลด้วยว่าทุกความแค้นต้องมีคนรับผิดชอบ หนี้ทุกอย่างต้องมีเจ้าหนี้มาตามเก็บ สักวันผมจะกลับมาเพื่อเก็บหนี้แค้นที่เขาติดค้างไว้”
เมื่อพูดจบ เด็กหนุ่มก็ผลักชั้นหนังสือด้านข้างออกและหนีไปทางหน้าต่างที่เปิดไว้
เจย์ไม่คิดจะตามไป เขารีบเก็บสมุดบันทึกรายชื่อขึ้นมาและเปิดผ่านอย่างเร็ว
จากตารางสารบัญ เพียงเวลาไม่นานเขาก็เห็นรายชื่อของผู้อาศัยจากภายนอก
เป็นอย่างที่เจย์คาดไว้ว่าสเปนเซอร์นั้นโกหก ป้อมยอร์กนั้นมีคนนอกที่โดนจับตัวมาไว้ในช่วงหลายปีมานี้ แต่ว่าไม่มีชื่อของร็อบบี้น้อยบันทึกไว้
บนหน้าหนึ่งที่มีมุมขาดหายไป เขาก็เจอคำที่น่าตื่นตะลึงว่า ‘ปีศาจ’
หน้านั้นเหลือเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เจ้าขโมยนั่นคงจะฉีกที่เหลือออกไป
เจย์มองออกนอกหน้าต่างไปในทิศทางที่ขโมยหายตัวไป ดวงตาเหยี่ยวของเขาเหมือนมีหมอกขุ่นมัวเข้ามาปกคลุมทันใด
‘นั่นต้องเป็นนายสินะ ปีศาจ?’
ด้านนอกประตูมีความเคลื่อนไหววุ่นวายเกิดขึ้น “มีนักฆ่าอยู่ด้านใน เข้าไปแล้วหาในนั้นให้ทั่ว เร็วเข้า”
เจย์โยนสมุดบันทึกรายชื่อลงกับพื้นและรีบวิ่งไปทิศทางเดียวกับที่เด็กหนุ่มคนนั้นใช้หนีไป
ที่สวนสายลมสดชื่น
คาร์สันยืนอยู่ต่อหน้าแองเจลีนอย่างเคารพนบนอบ เขาดูเหมือนเด็กผู้เชื่อฟังที่กำลังโดนครูสั่งสอน
แองเจลีนคุยกับเขาเรื่องสัพเพเหระมากมายก่อนหน้านี้ เมื่อเธอเกริ่นจนจบแล้วเธอก็ตรงเข้าประเด็น “พูดกับฉันมาตามตรงคาร์สัน ตอนที่นายไปทำลายอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มารีนเมื่อสามปีก่อน นายพาร็อบบี้น้อยของฉันไปใช่ไหม? ฉันรู้ว่านายน้อยของนายน่ะชอบร็อบบี้น้อยของฉันมาก”