ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 175
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 175
เจย์ฝืนย้ายสายตาของเขาไปที่รูปวาด…
นอกจากฝีมือการตวัดปากกาที่ดี มันก็ไม่มีอะไรดีอีกเลยในภาพร่างของเธอ เมื่อมองแยกกัน เครื่องหน้าของคนนี้นั้นเหมือนผลงานชิ้นเองของพระเจ้า แต่เมื่อจับพวกมันมารวมกัน ผลลัพธ์นั้นเรียกได้ว่าเหมือนภาพเหตุการรถชน
นี่มันไม่ได้สะท้อนมาตรฐานของแองเจลีนเลยสักนิด
เจย์ส่ายหัว เขาริบคืนคำชมของเธอในใจ
ช่างเพ้อเจ้อ ผู้หญิงไร้ยางอายและหยาบกระด้างแบบโรสจะไปเป็นคนที่ไร้ที่ติและงดงามแบบแองเจลีนแบบที่เขาคิดได้ยังไง?
แม้แต่นักเรียนศิลปะระดับมืออาชีพยังต้องรู้สึกอับอายอย่างมากเมื่อมองผลงานศิลป์ของแองเจลีน
เมื่อมองภาพวาดของโรสอีกครั้ง มันเหมือนเธอพยายามจะวาดนกอินทรีที่โผบินด้วยปีกที่สยาย แต่กลับจบที่วาดออกมาเป็นไก่จิกข้าวสารแทน
เจย์คิดว่าเขาต้องหัวกระแทกอะไรมาไม่ก็ตาบอด รึไม่ เขาก็คิดถึงแองเจลีนมากไป บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลที่เขามักจะเห็นภาพลวงตาไร้สาระแปลกประหลาดนั่น
“ไปซะ!” ในหัวของเจย์วุ่นวายไปหมด เขาต้องการสงบมันลง
โรสได้พักเสียที เธอรู้สึกเหมือนได้รับการยกโทษ
กลังจากงานเลี้ยง โจเซฟินก็พากลุ่มก้อนความสุขทั้งสามมาให้เจย์แล้วกล่าวอย่างมั่นใจ “เจย์ เจ้าก้อนน่ารักทั้งสามของนายทำให้ฉันรู้สึกดีมากวันนี้ เพื่อนของฉันทุกคนอิจฉาฉันมากเลย!”
เจย์แปะรูปวาดในมือของเขาที่หน้าของโจเซฟินแล้วกล่าว “ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด ฉันคิดว่าคนนี้เป็นเพื่อนเธอใช่ไหม?”
โจเซฟินดึงรูปวาดออก เหลือบมองมันก่อนจะโยนมันลงพื้นอย่างโมโห “เราเป็นคู่แค้นต่างหาก ตอนที่ฉันชอบเซย์นไม่กี่ปีก่อน เธอยุให้ฉันไล่ตามเซย์นไป แต่มันจบที่การไปจูบแบบดูดดื่มกับเขาหลังจากนั้นแทน”
เจย์ไม่สนใจจะฟังเรื่องราวความรักที่ไร้ความเป็นผู้ใหญ่และเหมือนละครของน้องสาวของเขา เขาตัดบทเธอทันที “เธอส่งโรสไปที่ห้องของฌอนวันนี้ ผู้หญิงคนนี้ช่างเจ้าวางแผน มันจะดีที่สุดถ้าเธออยู่ให้ห่างจากผู้หญิงคนนั้นในอนาคต”
โจเซฟินอุทานด้วยความตกใจ “โอ้พระเจ้า โรสคงไม่ได้ถูกรังแกนะ เธอสบายดีรึเปล่า?”
เจย์ตอบด้วยน้ำเสียงไม่เร่งรีบ “เธอคงสบายดีกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เธอกระทืบฌอนด้วยซ้ำ”
โจเซฟินพลันแสดงท่าทางชื่นชมโรสอย่างมาก “โรสผู้ไร้เทียมทาน!”
ร็อบบี้น้อยหยิบรูปวาดบนพื้นออกมาแล้วเบะปาก “นี่มันน่าเกลียดจัง!”
โจเซฟินตีหน้าผากของร็อบบี้น้อย “คนน่าเกลียดจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับความสนใจ ดังนั้นเธอต้องหาแฟนสาวที่สวย ๆ ในอนาคตนะ ร็อบบี้”
เจย์จ้องโจเซฟิน “อย่าสอนเด็กผิด ๆ”
ร็อบบี้น้อยอธิบาย “ผมไม่ได้บอกว่าคนในรูปน่าเกลียดฮะ ผมหมายถึงการวาดต่างหาก มันน่าเกลียด”
เจย์รู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่พระเจ้ามอบให้เขาเพื่อที่จะสร้างความขัดแย้งระหว่างลูกชายและแม่ของเขา โดยไม่พยายามจะปิดบังอะไร เขากล่าว “แม่ของลูกวาดมัน”
สายตาของร็อบบี้น้อยเบิกกว้าง เขาร้องออกมาด้วยความไม่เชื่อ “เมื่อไหร่กันที่ฝีมือการวาดของคุณแม่แย่แบบนี้? มันแย่กว่าของผมอีกนะ?”
ท่าทางรู้สึกผิดของโรสตอนที่เธอวาดภาพ ฉายขึ้นในหัวของเจย์ เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว หรือว่าโรสจงใจวาดให้ดูแย่?
“ร็อบบี้ คุณแม่วาดรูปเก่งมากเลยเหรอ?” เจย์เริ่มสงสัยมากขึ้น
ร็อบบี้น้อยพยักหน้าแล้วกล่าวด้วยท่าทางภูมิใจบนใบหน้า “แน่นอนครับ ภาพวาดของคุณแม่ขายได้เงินเยอะมากเลย”
สีหน้าของเจย์เปลี่ยนไปเล็กน้อย ภาพวาดที่ขายได้นั้นต้องเป็นผลงานชิ้นเอกอย่างไม่ต้องสงสัย ยังไงก็ตาม เจ้ารูป ‘ไก่จิกข้าวสาร’ ในมือเขานั้นไม่ได้เข้าใกล้มาตรฐานต่ำสุดของรูปวาดด้วยซ้ำ…
ดูเหมือนว่าโรสจงใจปิดบังความสามารถในการวาดของเธอ
แล้วเธอจะพยายามซ่อนทำไมล่ะ?
เจย์เริ่มรู้สึกว่าหัวใจของเขาปั่นป่วนอีกครั้ง ความคิดเพ้อเจ้อเริ่มก่อตัวอีกครั้ง
“กลับบ้านกันเถอะ” ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาอยากเจอแทบจะตายแล้วในตอนนี้
หลังจากแยกกับโจเซฟิน เจย์ก็ตรงกลับบ้านพร้อมก้อนความสุขทั้งสาม
มันเป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว ดังนั้นเซ็ตตี้น้อยและร็อบบี้น้อยจึงนอนพลังหมดอยู่ในรถ เจย์จ้องมองเด็กทั้งสองแล้วตัดสินใจจะ
เจนสันมองพ่อของเขาแล้วส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
“คุณพ่อ คุณพ่อควรอุ้มเซ็ตตี้ นั่นเป็นสิ่งที่สุภาพบุรุษทำกัน”
เจย์บีบจมูกเจนสัน “สุภาพบุรุษจะรักษาระยะห่างจากเพศตรงข้ามผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาทางสายเลือดต่างหาก”
เจนสันเขย่าเซ็ตตี้ให้ตื่น เมื่อเซ็ตตี้เปิดดวงตาที่ง่วงซึมของเธอแล้วเห็นพ่อของเธออุ้มร็อบบี้ผู้หลับได้อย่างรวดเร็ว เธอก็ถอนหายใจออกมา