ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 276
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 276
เขาจะสามารถสืบย้อนไปได้สักกี่รุ่น? มันน่าจะเป็นงานที่หนัก…
“ไม่จำเป็นต้องไปตามสืบหาใครหลังจากรุ่นเธอหรอก เพราะรุ่นก่อนหน้าเธอก็สูญหายไปหมดแล้วแหละ”
เกรย์สันถูคิ้วของเขา ก่อนที่เขาจะรู้สึกยินดีปรีดาที่ตระหนักขึ้นมาได้ว่าท่านอาเรสได้เปิดเบียร์เย็น ๆ รอไว้ให้เขาแล้ว
“เซ็ตตี้น้อยนั้นยังเด็กเกินไป เช่นนั้นแล้วจะสามารถสืบค้นต้นตระกูลของเธอได้อย่างไรกันล่ะ?”
หลังจากกระบวนการทั้งหลายเสร็จสิ้น เกรย์สันกลับมาอยู่ข้าง ๆ เจย์อีกครั้ง
“เราจะได้ผลภายในกี่วัน?” เจย์ถาม
เกรย์สันชูสามนิ้ว
การทดสอบทางพันธุกรรมนั้นช่างน่ารำคาญเสียจริง โรงพยาบาลส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาในการรอผลการทดสอบถึงครึ่งเดือน อย่างเร็วก็ประมาณ 1 อาทิตย์ถึงจะเสร็จสิ้น
เกรย์สันสามารถต่อรองให้ได้ผลการทดสอบเพียง 3 วัน ด้วยการใช้เส้นสายที่กว้างขว้างของเขานั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับเจย์แล้วเขายังไม่ค่อยพอใจ “มันนานเกินไป”
เกรย์สันทำหน้ายู่เข้าหากัน “โธ่ ท่านอาเรสครับ ที่นี่ไม่ใช่แกรนด์ เอเชีย นะครับ เราต้องทำตามกฏของเขา”
“งั้นก็ไปติดตั้งโปรแกรมการตรวจสอบทางพันธุกรรมที่แกรนด์ เอเชีย ด้วย นายจะต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้”
หมดคำที่จะพูด เกรย์สันได้แต่เหม่อมองท้องฟ้า
ทำไมเขาต้องมารับภาระนี้มาเพิ่มด้วย
หลังจากออกมาจากศูนย์พันธุกรรม เจย์ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา มันยังเช้าอยู่เลย
“เกรย์สัน พาฉันไปโรงถ่ายภาพยนตร์ ทรานซิตี้”
เกรย์สันมองเจอย่างตกตะลึงเพราะเขาเกลียดการไปที่นั่นจะตายไป
โรงถ่ายภาพยนตร์ ทราน ซิตี้ เป็นแหล่งที่อยู่ของพวกสาวสวยคนดัง เป็นที่นิยมของบรรดาคนรวยที่จะชอบไปสังสรรค์กันเพราะเป็นการง่ายที่จะได้คัดเลือกพวกสาวๆ ที่เหมาะสมให้กับพวกเขาแล้ว
อย่างไรก็ตามท่านอาเรสก็ไม่ใช่หนึ่งในพวกนั้นอย่างแน่นอน เพราะเมื่อมีผู้หญิงเข้ามาใกล้กับเขาในระยะสิบก้าว ท่านอาเรสก็มักจะมีอาการปวดท้อง
สำหรับคนที่ไม่รู้ก็มักจะคิดว่าทา่นอาเรสเป็นโรคกระเพาะอาหาร แต่สำหรับคนที่รู้เหตุผลก็มักจะคิดว่าท่านอาเรสต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม วันนี้ต้นบุนนาคก็ได้ออกดอกเสียที
เกรย์สันขับรถไปส่งท่านอาเรสที่โรงถ่ายภาพยนตร์ ทรานซิตี้ อย่างมีความสุข
“ท่านอาเรสครับ ผมขอเล่าอะไรหน่อยนะครับ พักหลังมานี้ที่โรงถ่ายภาพยนตร์ ทรานซิตี้ ค่อนข้างวุ่นวายมากเลยครับ เพราะว่ามีหลากหลายกองถ่ายเข้ามาถ่ายทำที่นี่ด้วย ได้ยินมาว่ามีดาราสาวคนดังเข้ามาถ่ายทำด้วยนะครับ เราน่าจะได้ตื่นตาตื่นใจกันน่าดูเชียว”
“พูดถึงคนไหนล่ะ นายเองก็ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ชอบคนไหนก็บอกฉันมาสิ ฉันจะได้จัดการให้” เจย์ตอบ
เกรย์สันหัวเราะเบาๆ “ผมชอบทุกคนแหละครับ แต่ผมไม่ได้อยากแต่งกับคนไหน คุณอาเรสครับ ผมขอถามหน่อยว่ากันว่าก่อนแต่งงานจะเป็นช่วงที่ผู้หญิงมีนิสัยที่น่ารักมาก พวกเธอจะทั้งสุภาพ เอาอกเอาใจ และว่านอนสอนง่าย แต่หลังที่แต่งงานกันแล้วพวกเธอจะเผยธาตุแท้ เมื่อเวลานั้นมาถึงพวกเธอจะทั้งร้องไห้ ตะโกนใส่เรา แถมยังเอาแต่ใจอีก ส่วนพวกเราก็ไม่มีทางเลือกนอกจากทำตาม”
“น่ากลัวเสียจริง”
เกรย์สันแขยง “ผมจะไม่แต่งงานเด็ดขาด”
“รอให้นายได้เจอคนที่นายชอบเขาจริง ๆ เสียก่อน นายจะไม่พูดแบบนั้นอีกเลย” เจย์กล่าว
รถขับเข้าไปในส่วนด้านนอกบริเวณของโรงถ่ายภาพยนตร์ ทรานซิตี้ เจย์นั่งนิ่งมองออกไปนอกหน้าต่างรถ
“เกรย์สัน หยุดตรงนี้แหละ”
ตรงหัวมุมของโรงถ่ายภาพยนตร์ ทรานซิตี้ โรสและโจเซฟินนั่งอยู่บนม้านั่งไม้
เซ็ตตี้น้อยสวมใส่ชุดสีขาวและมงกฎ ในขณะที่มือถือคฑาอยู่ในท่าทางที่เหมือนกับดาราดัง
“คุณพ่อ ใจกว้างเหลือเกิน แต่ทำไมพ่อถึงมอบความรักให้กับพี่ชายของหนูแต่ไม่เคยจะให้กับหนูเลย”
“ไม่เป็นไร ถ้าคุณพ่อจะมอบให้หนูเพียงแค่เหรียญเงิน แต่คุณพ่อยังปฏิเสธ?”
ภาพของเซ็ตตี้น้อยช่างไร้ความหวัง หมดอาลัยตายอยาก โกรธเคือง และเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด
“เยี่ยมมากจ่ะ หนูทำได้ดีสุด ๆ เลย” โจเซนฟินลุกขึ้นปรบมือ
เจย์มองออกจากหน้าต่างรถไปที่เด็กน้อยหน้าเป็นที่ยืนอยู่กลางเวทีแล้วก็ได้แต่เจ็บปวด
เหตุใดเซ็ตตี้น้อยผู้แสนวิเศษและเป็นที่รักจึงไม่ใช่ลูกสาวของเขา
แอลเจลีนไม่สามารถมีลูกได้ เขาจึงไม่มีโอกาสที่จะมีลูกเป็นของตนเอง
นี่คือความเศร้าโศกที่หนักหนาที่สุดใหญ่ชีวิตของเขา
เกรย์สันมองไปยังเด็กน้อยที่น่ารักก่อนจะหันกลับมามองท่านอาเรส
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงโรงถ่ายภาพยนตร์ ทรานซิตี้ ไม่มีทางที่ท่านอาเรสจะเพียงแค่นั่งอยู่ในรถ ใช่ไหมล่ะ?