ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 329

ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 329

ทุกคนในบ้านตกใจ ‘เจย์ อาเรส คนเดียวกับที่เคยเย็นชากับพี่น้องของเขาเท่านั้นกลับกลายเป็นคนคิดริเริ่มที่จะช่วยงานยีนส์งั้นเหรอ?’

ดวงอาทิตย์จะต้องขึ้นจากทิศตะวันตกในวันนี้

จีนส์ตอบอย่างชื่นชมว่า “นั่นก็ดีแล้ว เจย์ เมื่อนายจัดการเรื่องนี้ ผมแน่ใจว่า ฌอน เบล และเลขาที่ไม่สุภาพของเขาจะต้องกลืนคำพวกนั้นไป”

เจย์ไม่สนใจสิ่งที่เขาพูด และเลือกที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลเซ็ตตี้น้อยที่รักตัวน้อยของเขาที่อยู่ตรงหน้า

หลังจากนิ่งเงียบมานาน ในที่สุดจอห์นก็พูดออกมา น้ำเสียงของเขาที่คมชัดในขณะที่เขานำหัวข้อเก่า ๆ มาที่พูดที่โต๊ะว่า “เจย์ นายจะพาเซ็ตตี้ไปที่อสังหาริมทรัพย์ ทัวร์มาลีน อย่างเปิดเผยได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเราไม่อนุญาตให้คนที่มีสายเลือดอื่นมาที่นี่ นี่เป็นการดูหมิ่นกฎบ้านของท่านปู่อย่างโจ่งแจ้ง!”

ในตอนนั้น อุณหภูมิโดยรวมของห้องดูเหมือนจะลดลงอย่างมาก

ดวงตาที่แวววาวแต่ไร้ความสุขของจอห์นจ้องไปที่เจย์ เขาเคยเตือนอีกฝ่ายมาก่อนแล้วว่า การหนีไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา

เขาอุ้มเคลื่อนย้ายเซ็ตตี้น้อยจากตักของเขาไปที่พื้น เจย์ลูบผมของเธอด้วยความรัก “ไปเล่นกับพี่น้องของเธอก่อนนะ ลุงอาเรสมีเรื่องจะปรึกษากับคุณปู่ของเธอสักหน่อย”

เซ็ตตี้น้อยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

หลังจากใช้ทิชชู่เช็ดมือของเขาอย่างช้า ๆ เสร็จแล้ว เจย์ก็ปรับเปลี่ยนท่าทางของเขาเพื่อจ้องมองไปที่จอห์นอย่างโหดเหี้ยม

“ดีล่ะ ถ้าอย่างนั้น ลุงครับ แล้วเด็ก ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในครอบครัวหลักของอาเรสล่ะ? ควรพาพวกเขามาที่อสังหาริมทรัพย์ ทัวร์มารีน หรือไม่?”

จอห์นลูบจมูกของเขา “ฉันก็แค่เชื่อว่าไม่มีใครควรมีข้อยกเว้นพิเศษสำหรับกฎของบ้าน ส่วนกฎของบ้านควรจะแก้ไขหรือไม่ จริง ๆ แล้ว ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฉันที่จะตัดสินใจ”

เจย์หันหน้าไปถามคนอื่น ๆ เช่นกัน “พวกคุณคิดยังไงครับ ลุง ๆ คนที่สองและสาม?”

ทั้ง เจคอบ และเจมส์ อาเรส จ้องมองกัน “เราเห็นด้วยกับจอห์น กฎของบ้านควรใช้ได้กับทุกคน”

พวกเขาพยายามควบคุมของจุดอ่อนของเจย์เพื่อให้ผู้นำของตระกูลอาเรสเปลี่ยนกฎ

เท่าที่พวกเขากังวล หากเจย์สามารถนำเด็กที่ไม่ได้เป็นสายเลือดอาเรสเข้ามาในอสังหาริมทรัพย์ ทัวร์มาลีน แล้วทำไมพวกเขาไม่สามารถนำลูกนอกสมรสมาด้วยได้?

นั่นเป็นเรื่องที่พวกเขานำมาพูดคุยกับท่านปู่มานานหลายปีเพียงเพื่อให้มันจบลงด้วยผลลัพธ์ที่ไร้ผลมาแล้ว บางทีวันนี้อาจเป็นวันแห่งการเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นวันที่ลูก ๆ ของเจคอบและเจมส์จะได้สัมผัสกับการเป็นส่วนหนึ่งของอสังหาริมทรพท์ ทัวร์มารีน ด้วยเช่นกัน บางที พวกเขาอาจลดอำนาจของชายชราคนนี้ลงได้ด้วยซ้ำ

เจย์ตระหนักถึงสิ่งที่ลุงของเขาวางแผนไว้เบื้องหลังของพวกเขามาก่อนแล้ว

“เนื่องจากพวกลุงตกลงกันว่า ไม่มีใครควรได้รับการยกเว้นจากกฎของบ้าน ผมจะประกาศว่าไม่มีใครนอกตระกูลหลักของอาเรสที่จะก้าวเข้าสู่อสังหาริมทรพย์ ทัวร์มารีนได้” เจย์ประกาศ

พวกลุง ๆ ตกตะลึง จอห์นทำลายความเงียบ “นายไม่ได้แค่ทำให้ชีวิตตัวเองยากลำบากหรอ เจย์? นายอ้างว่าไม่ควรนำบุคคลภายนอกเข้ามาในทัวร์มาลีน แต่ทำไมเซ็ตตี้จึงได้รับการยกเว้น?”

พวกลุงดูเหมือนจะภูมิใจกับการโต้แย้งของพวกเขา

เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะคว้าจุดอ่อนของเจย์ได้ แล้วพวกเขาจะปล่อยให้โอกาสดี ๆ แบบนี้หลุดลอยไปได้อย่างไร?

เจย์เอกสารเตรียมมาด้วยในครั้งนี้ เขาโยนรายงานการตรวจดีเอ็นเอของเซ็ตตี้น้อยต่อหน้าจอห์น

“ลองดูนี่สิ แล้วบอกผมอีกครั้งว่าเซ็ตตี้น้อยของผมควรได้รับการยกเว้นเป็นพิเศษหรือไม่”

จอห์นอ่านออกมาเป็นคำ อาเรส เป็นบิดาผู้ให้กำเนิด!”

ราวกับว่าได้ยินเสียงฟองสบู่แตก จอห์นอุทานด้วยความไม่เชื่อว่า “เป็นไปได้ยังไง? เจย์ มีลูกกี่คนกันแน่?”

จอห์นหยุดคิดชั่วครู่ก่อนจะยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมอีกครั้ง “แล้วถ้าเซ็ตตี้น้อยเป็นลูกสาวของนายล่ะ? เธอยังคงเกิดมาจากลูกนอกสมรส ไม่ใช่หรอ?”

เจย์จ้องมองเขา “คุณบอกผมเองนิ เธอเกิดในวันเดียวกันในเดือนเดียวกันในปีเดียวกันกับเจนส์และร็อบบี้”

ความร่าเริงบนใบหน้าของจอห์นจางหายไป “แฝด! มีโอกาสเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน?!”

ลุงสองคนที่อยู่ข้าง ๆ ถอนหายใจอย่างหดหู่เมื่อทราบข่าว

ท่านปู่อาเรสกำลังกรนอย่างสงบขณะที่เขานั่งหลับบนเก้าอี้โดยเอียงศีรษะขึ้น มันดูเหมือนว่าเขายืนกรานที่จะทิ้งความกังวลของครอบครัวอาเรส ทั้งเรื่องใหญ่และเล็ก ไปให้เจย์จัดการ

ไม่ต้องพูดถึงว่าเจย์เคยเป็นผู้นำที่โหดเหี้ยมของครอบครัว คนที่ไม่สนใจความรักของพ่อที่เผาไหม้เหมือนของลุงที่มีต่อลูกคนอื่น ๆ ของพวกเขา เป้าหมายเดียวของเขาคือแยกลูกนอกสมรสออกจากครอบครัวอาเรส

นั่นทำให้ลุงของเขาไม่พอใจที่เขาควบคุมได้มากเท่านั้น

หลังจากได้อยู่ที่นั่นสักพัก เจย์ก็นึกถึงความกลัวของเจนสันที่มีต่ออสังหาริมทรัพย์ ทัวร์มาลีน และเขารีบอำลาท่านปู่ก่อนออกไปดูเจนสันที่รู้สึกไม่ดีนักในตอนนี้

ก่อนจากไปท่านปู่อาเรสถามอย่างครุ่นคิดว่า “เจย์ นี่คือความคิดที่ดีแล้วใช่ไหมที่จะรักษาสายเลือดของอาเรสไว้ครึ่งหนึ่ง?”