ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 735
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 735
เจย์มองเธอด้วยดวงตานกอินทรีอย่างประหลาดใจ ดวงตาที่สวยงามของแองเจลีนนั้นดูใจดีและบริสุทธิ์
“ถ้าอย่างนั้น คำพูดที่โหดร้ายและไร้ความรู้สึกเหล่านั้นที่เธอเพิ่งพูดออกมาเป็นเพราะเธอไม่มีทางเลือกเหมือนกันใช่ไหม?” เขาถามกลับ
ดวงตาของแองเจลีนเป็นประกาย “ใช่แล้ว ทั้งหมดเป็นความจริงอย่างนั้นเลย”
เธอกลัวเขาจนกลายเป็นหอยทากในตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะโผล่หัวออกมาอย่างกล้าหาญ แต่เธอก็ถอยกลับไปเมื่อเจออุปสรรคแม้เพียงเล็กน้อย
เธอกลัวว่าเธอจะถูกเขาเยาะเย้ยอย่างไร้ความปราณีหลังจากสารภาพความจริงใจของเธอ
เจย์ถอนหายใจอย่างหนัก
เขาไม่สามารถบอกความตั้งใจที่แท้จริงของเขากับเธอได้ และทำได้เพียงหลีกเลี่ยงหัวข้อนี้อย่างชาญฉลาดเท่านั้น
“ช่วงนี้ฉันจะยุ่ง ๆ หน่อยและไม่สามารถดูแลลูก ๆ สามคนของฉันได้ เมื่อเธอมีเวลา ขอให้เธอกลับไปที่สวนคฤหาสน์และดูแลพวกเขาหน่อย”
แองเจลีนตบหัวตัวเอง ปรากฎว่าสิ่งที่เขาจะมอบหมายให้เธอคือดูแลสิ่งล้ำค่าน่ารัก ๆ ทั้งสาม
เดิมทีเป็นความรับผิดชอบและภาระผูกพันของเธอ
“ท่านอาเรส นายยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลยนะ” เธอยืนกรานและดื้อรั้นโดยหวังว่าจะได้คำตอบจากเขา
ริมฝีปากบางของเจย์ยกขึ้น ในขณะที่เขามีคำเตือนของท่านปู่อาเรสอยู่ในใจ เขานึกถึงกระสุนที่ทะลุผ่านรถโรลส์-รอยซ์ในครั้งนั้นและเปลี่ยนการพูดออกไปทันที น้ำเสียงของเขาแข็งทื่อและเย็นชา
“อย่าบังคับให้ฉันเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอเลย”
หัวใจของแองเจลีนเย็นชาราวกับน้ำแข็งและหิมะ เธอยืนขึ้น ร่างกายผอมบางของเธอสั่นสะท้าน เธอฝืนน้ำตาที่กำลังจะไหลลงมาและพูดค่อย ๆ ออกไปว่า “ท่านอาเรส ฉันไม่สะดวกที่จะกลับไปที่สวนคฤหาสน์ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะไปรับพวกเขาออกมาเอง”
เจย์สะดุ้งเล็กน้อย แต่พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้
เซย์นจบการประชุมและเดินออกมาหาแองเจลีน
เมื่อเห็นฟินน์ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูราวกับเทพผู้เฝ้าประตู เซย์นก็โกรธทันที
“เจย์อยู่ที่นี่ ใช่ไหม?” เขาเดินก้าวยาว ๆ เพียงไม่กี่ก้าว
ฟินน์กางแขนและหยุดขว้างเขาไว้ “นายน้อยเซเวียร์ครับ ท่านประธานของผมและนายหญิงเซเวียร์มีเรื่องสำคัญที่จะปรึกษากันอยู่ คุณเข้าไปไม่ได้”
เซย์นขึ้นเสียงและตะโกนว่า “เจย์ คุณทำให้น้องสาวผมร้องไห้อยู่ทุกวัน คุณต้องการอะไรอีก ถ้าคุณไม่สามารถให้อนาคตที่สดใสกับเธอได้ ก็อยู่ห่าง ๆ จากเธอไว้”
เจย์รู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินคำพูดของเซย์นแบบนั้นและการจ้องมองด้วยสายตาของเขาได้มองแองเจลีนอย่างมีความหมาย
ปรากฏว่าผิวเผินภายนอก ผู้หญิงคนนี้กำลังจะตัดขาดกับเขา แต่ก็แอบทุกข์ทรมานเหมือนเขา
เจย์มีอารมณ์ปะปนกันไป
ใบหน้าของแองเจลีนดูเขินอายเล็กน้อย หน้ากากที่เธอใส่ปิดบังอยู่นั้นมันไม่ง่ายเลยทีเซย์นจะกระชากมันออก
แองเจลีนเดินออกไปเปิดประตูและทุบตีเซย์นอย่างกับเป็นสิงโตบ้า
“นายกำลังโวยวายอะไรเนี่ย หุบปากซะ!”
ฟินน์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขาแอบเหลือบมองไปที่ท่านประธานและพบว่าใบหน้าของท่านประธานสว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าที่หล่อเหลาดูสว่างไสวกว่าดวงดาวนับพันด้วยรอยยิ้ม
เจย์เข็นรถเข็นแล้วออกไปจากห้องทำงานพลางส่งสายตาให้ฟินน์ด้วยทัศนคติของผู้สังเกตการณ์ ฟินน์จึงรีบเข้าไปดึงห้ามการทะเลาะวิวาทออกจากกันทันที
“มีอะไรก็พูดกันดี ๆ นะครับ มีอะไรก็คุยกันระหว่างพี่น้องไม่ได้เหรอ? ทำไมพวกคุณต้องทะเลาะกัน?”
เซย์นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเขาถึงถูกทุบตีโดยไม่มีเหตุผล “แองเจลีน ทำไมเธอถึงเข้าหาฉันแล้วระบายความโกรธเมื่อเธอเสียใจ? เธอไม่ไปตัดสินกับคนที่ทิ้งเธอเพื่อระบายความโกรธของเธอล่ะ?”
จากนั้น ปากของเขาก็พูดน้ำไหลไฟดับกับคำสาปแช่งมากขึ้นอีก “ตอนนี้ขาของเขาพิการ เขาไม่สามารถเอาชนะเธอได้หรอก ถ้าเธอมีความคับข้องใจ ก็ระบายมันออกไป หากเธอต้องการแก้แค้น เธอก็ทำได้เช่นกัน”
สีหน้าของฟินน์ดูมืดมน เซย์นกล้าดียังไงที่ไม่เคารพท่านประธาน?
ฟินน์ซึ่งเป็นคนกลางในการทะเลาะวิวาทได้รีบคว้าตัวเซย์นที่พยายามจะหลบหลีก โดยทั่วไปแล้วมันเป็นการไกล่เกลี่ยการทะเลาะตบตี แต่จริง ๆ แล้วเขายับยั้งเซย์นเอาไว้เพื่อที่เขาจะได้ไม่หนีไป
หมัดและเท้าของแองเจลีนเตะฟาดไปที่เซย์น
“นี่น่าจะสอนบทเรียนเรื่องการพูดไร้สาระให้นายได้บ้างนะ”
เซย์นตะโกนอย่างโกรธ “ฟินน์ ปล่อยฉัน! นายรัดตัวฉันไว้ทำไม ให้ตายสิ เห็นได้ชัดว่านายกำลังพยายามจะทำร้ายฉัน ใช่ไหม?”