ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 799

ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 799

เจย์จ้องไปที่จอร์จและพูดอย่างแผ่วเบาว่า “คุณดูใจร้อนมากเลยสินะ นายท่านเซเวียร์?”

เจย์เป็นเพียงแขกรับเชิญ แต่ความเย่อหยิ่งและความจองหองทำให้เขาดูเหมือนผู้ยิ่งใหญ่ที่ดูถูกสิ่งมีชีวิตทั้งหมด เขามองลงไปที่จอร์จราวกับว่าจอร์จไม่ได้เป็นอะไรนอกจากแมลงในดวงตาของเขา

สิ่งนี้ทำให้สมาชิกครอบครัวเซเวียร์ที่สูงส่งและเหนือกว่าไม่พอใจอย่างมาก เจย์คิดว่าเขายังคงเป็นนายน้อยแห่งเมืองหลวงอิมพีเรียลที่ปกครองโลกทั้งโลกอยู่อย่างนั้นหรือ? เขาไม่เห็นหรือว่าเขาตกจากแท่นอย่างน่ากลัวเพียงใดเมื่อไม่นานนี้เนื่องจากรายได้ของเขาลดลง?

เขาไม่ได้ครองอำนาจในบริษัท อาเรส อีกต่อไปแล้ว ในขณะที่แกรนด์เอเซียก็ถูกกดดันและขึ้นบัญชีดำโดยมหาเศรษฐีรายใหญ่ ที่สำคัญเขาไม่สามารถใช้ขาทั้งสองข้างได้อีกต่อไปแล้วด้วย

เขาอยู่ที่นี่ ปฏิเสธที่จะยอมรับสถานการณ์ปัจจุบันที่เขาเผชิญ เขาอยู่ในความพินาศโดยไม่คิดว่าจะหลุดพ้นจากสถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้นี้

…

ถึงอย่างนั้น อูฐที่อดอาหารก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า เศรษฐีที่ร่ำรวยน้อยกว่าแต่ก่อนก็ยังร่ำรวยกว่าครอบครัวที่ยากจนอยู่ดี

ไม่ว่าแกรนด์เอเซียจะแย่แค่ไหน อย่างน้อยก่อนที่มันจะประกาศล้มละลาย ความรุ่งโรจน์ในอดีตของมันเองก็ยังดูเหมือนไกลเกินกว่าบริษัท เซเวียร์ อยู่ดี

จอร์จยังคงมองว่าเจย์เป็นชายที่น่าเกรงขาม ดังนั้นเขาจึงยังคงใช้ความปราณีต่อการปฏิบัติต่อเขาอย่างเห็นได้ชัด

ความหรูหราของภรรยารองและความสูงส่งของเขาแตกต่างกัน แอนมักจะต้องการชดเชยพื้นที่ที่หายไปให้กับลูกสาวตัวน้อยของเธอต่อหน้าเจย์ เธอจึงเยาะเย้ยเจย์ราวกับกำปั้นเหล็กในถุงมือกำมะหยี่

“คุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่ ท่านอาเรส? บริษัท เซเวียร์ สามารถอยู่รอดได้ตลอดสองปีที่ผ่านมาด้วยการสนับสนุนจากพ่อของคุณ ดังนั้นเราจะกล้าที่จะปฏิบัติต่อคุณอย่างหยาบคายได้ยังไงกัน?”

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เธอกำลังพูดว่าบริษัทเซเวียร์ พึ่งพาแจ็ค อาเรสไม่ใช่เจย์ อาเรส ทำไมพวกเขาต้องแสดงความเคารพต่อเจย์ด้วย?

ริมฝีปากบางของเจย์ดึงเป็นการเยาะเย้ย “ผู้หญิง ผู้โง่เขลาไม่รู้จักความกลัวสินะ”

คำพูดเหล่านี้ได้เหยียบย่ำจิตใจที่จองหองของแอนจมดิน

เธอเป็นสตรีสูงศักดิ์ แต่เจย์วิจารณ์เธอที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจ เขาไม่ได้บอกเป็นนัยว่าเธอเป็นแค่คนบ้านนอกที่โง่เขลาหรอกหรือ?

ใบหน้าของแอนดูบูดบึ้งไปทันที

ความอดทนของเจย์หมดลง ราวกับว่าเขาได้โยนตาข่ายกันการหลบหนีและในที่สุดก็ถึงเวลาปิดตาข่าย

“นายท่านเซเวียร์ บางทีฉันควรกระตุ้นความทรงจำของคุณสักหน่อย เทคโนโลยีชิป ผลิตภัณฑ์อัจฉริยะระดับไฮเอนด์ของบริษัท เซเวียร์ มากกว่า 100 รายการได้รับการจดสิทธิบัตรโดยแกรนด์เอเซียและตอนนี้เราจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรกับบริษัท เซเวียร์เป็นเวลาหลายปี คุณมีอะไรเกี่ยวกับความคิดเห็นเรื่องนั้นบ้างไหม?”

จอร์จไม่สามารถรักษาท่าทางที่ไม่แยแสของเขาไว้ได้อีกต่อไป นี่เป็นค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรจำนวนมากที่พวกเขาพูดถึง

เจย์พูดกับฟินน์ว่า “นายช่วยคำนวณจำนวนเงินให้พวกเขาหน่อยได้ไหม?”

ฟินน์ท่องรายการอย่างชำนาญ “นั่นคือ 5.8 หมื่นล้านต่อปีครับ ท่านอาเรส คุณต้องการเริ่มคำนวณค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรของบริษัท เซเวียร์ เมื่อไหรดีครับ?”

ทันทีที่ฟินน์ถามคำถาม จอร์จก็รู้สึกกังวลอย่างมาก

ในอดีตแกรนด์เอเซียสามารถรองรับบริษัท เซเวียร์ ได้อย่างดีเยี่ยม แม้แต่เทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรก็มีให้ฟรี หลายปีมาแล้วที่จอร์จเกือบลืมไปว่าพวกเขายังคงเป็นหนี้บุญคุณของแกรนด์เอเซีย

ในเวลานี้ เขาเพียงหวังว่าเจย์จะยังคงรักแองเจลีนอยู่บ้างและอาจจะช่วยคิดค่าใช้จ่ายน้อยลงไปอีกสักสองสามปี

อย่างไรก็ตาม เจย์อาจเป็นคนที่เฉยเมยและไร้หัวใจ เมื่อเขาตั้งใจที่จะไร้ความปรานี เขาพูดอย่างสบาย ๆ “เราเริ่มรวบรวมวันที่พวกเขาเริ่มใช้มันเลย”

ฟินน์กล่าวว่า “ตั้งแต่เมื่อสิบปีที่แล้ว หากเราคำนวณด้วยวิธีนี้ บริษัท เซเวีย ร์ควรจ่ายค่าสิทธิบัตรให้กับแกรนด์เอเซีย 5.8 แสนล้าน”

ทันทีที่มีการประกาศจำนวนมากมาย สีหน้าของจอร์จและแอนพลันซีดลง

ในเวลานี้ พวกเขาตระหนักว่าพวกเขายังคงไม่สามารถที่จะรุกรานตระกูลอาเรสได้ แม้ว่านายน้อยของเมืองอิมพีเรียลจะตกจากแท่น

ถึงกระนั้น ความกระหายเลือดและความดุร้ายที่เจย์แสดงให้เห็นอย่างต่อเนื่องราวกับสถานการ์ที่ยากลำบากอยู่แล้วกลับเลวร้ายเข้าไปอีก

“นอกจากนี้ เนื่องจากนายท่านเซเวียร์ดูถูกแกรนด์เอเซียไว้มาก ฉันคิดว่าเราควรหยุดส่งเทคโนโลยีที่ได้รับสิทธิบัตรของแกรนด์เอเซียให้กับบริษัท เซเวียร์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

จอร์จอาจไม่ใช่อัจฉริยะในทางธุรกิจ แต่สติปัญญาของเขาพัฒนาขึ้นอย่างมากหลังจากที่เจย์สอนบทเรียนให้เขา

เขารู้ในขณะนี้ว่าหากแกรนด์เอเซียได้ห้ามไม่ให้บริษัท เซเวียร์ ใช้เทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตร ผลิตภัณฑ์ของบริษัท เซเวียร์ทั้งหมดกำลังจะต้องถูกยกเลิก สิ่งนี้แตกต่างจากการล้มละลายอย่างไร?

หลังจากวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียแล้ว ใบหน้าของจอร์จก็ซีดลงไปอีก