ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 915
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 915
แองเจลีนถามอย่างนุ่มนวล “อีกนานแค่ไหนกว่าร็อบบี้น้อยจะกลับมาเหรอคะ?”
เจย์กล้ำกลืน ใช้เวลาสักพักก่อนจะตอบ “นั่นก็ขึ้นอยู่กับเขา เขาจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ ถ้าเขาตั้งใจเรียนและฝึกฝนศิลปะการต่อสู้”
แองเจลีนไม่สามารถอดทนให้ตัวเองยอมรับการพลัดพรากที่โหดร้ายเช่นนี้ได้ ไม่ว่าเจย์จะพยายามทำให้มันฟังดูสบาย ๆ แค่ไหนก็ตาม
เธอเริ่มโวยวาย “เขาเป็นแค่เด็ก เจย์ อาเรส นายส่งเขาไปในสถานที่ที่แสนไกลแบบนี้ได้ยังไง? ฉันต้องการให้เขากลับมา”
เธอร้องไห้ “นายมันสารเลว”
หางตาของเจย์ร้อนผ่าว เขาเองก็ต้องการตามหาและนำตัวร็อบบี้น้อยมากลับมาเช่นกัน แต่มันได้อยู่เหนือความสามารถของเขาแล้ว
การระเบิดอารมณ์อย่างกะทันหันทำให้เส้นประสาทตาของแองเจลีนทำงานผิดปกติและเธอก็สูญเสียการมองเห็นในดวงตาของเธอทันที
มันได้เกิดขึ้นในขณะที่แองเจลีนกำลังเดินอยู่บนทางเท้าที่พลุกพล่าน การสูญเสียการมองเห็นอย่างกะทันหันทำให้เธอเดินโซเซมาบนพื้นยางมะตอยก่อนที่เธอจะรู้ตัว
เสียงหวีดแหลมของเครื่องยนต์ดังก้องไปในสาย ตามด้วยเสียงห้าวที่ตะโกนว่า “เฮ้ นี่เธอกำลังพยายามจะฆ่าตัวตายเหรอ?”
“ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษค่ะ…”
แองเจลีนมองไม่เห็นอะไรนอกจากความดำมืด ราวกับว่าเธอถูกม่านทึบแสงคลุมโดยมองไม่เห็นทางออก
“ตาของฉัน…” เธอพึมพำกับตัวเอง
เมื่อได้ยินเสียงอื่น ๆ มากมายที่เล็ดลอดผ่านในสาย เจย์ก็เริ่มกรองความจริงออกจากข้อมูลที่ปะปนกันมากมาย
ความไม่สบายใจได้ครอบงำอยู่ในอกของเขา ดวงตาของแองเจลีนไม่ทำงานงั้นเหรอ?
ความคิดดังกล่าวจะไม่มีวันเกิดขึ้นในหัวของเขาหากไม่ใช่เพราะว่าแองเจลีนเคยสูญเสียการมองเห็นในช่วงเวลาสั้น ๆ มาก่อน
ในขณะนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนจากอีกด้านของปลายสาย “อย่าออกมาสร้างปัญหานักเลยถ้าคุณตาบอด”
“ขอโทษ ขอโทษค่ะ” แองเจลีนขอโทษอย่างช้า ๆ
เจย์ลุกจากเก้าอี้แล้วพุ่งไปที่ประตู แต่แล้วดูเหมือนกับว่าเขาจะลืมอะไรบางอย่าง เขาหันหลังกลับมาและหยิบน้ำหอมลาเวนเดอร์บนชั้นวางของอันเก่า เขาทำให้ตัวเองชุ่มไปด้วยกลิ่นน้ำหอม
เมื่อติดตามตำแหน่งจากโทรศัพท์ของเธอ เจย์ก็พบแองเจลีนในเวลาเพียงไม่นาน เธอนั่งอย่างทำอะไรไม่ได้บนถนนด้วยมือของเธอที่กอดเข่าไว้และหัวก็มุดอยู่ระหว่างเข่า
เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา
ผู้คนมารวมตัวกันรอบ ๆ เธอและเริ่มชี้นิ้ว
“ช่างเป็นผู้หญิงตาบอดที่ไร้ยางอายจริง ๆ ที่วิ่งไปกลางถนนเพื่อหลอกให้คนขับรถขับมาชนเธอ”
“ไม่ใช่ว่าคนตาบอดอย่างพวกเธอมีทางเดินเท้าของเธอเองหรอกเหรอ? มันคงเป็นโชคร้ายของฉันเองสินะที่ได้พบกับคนตาบอดที่ไร้ศีลธรรมแบบเธอ”
…
เจย์เดินเข้ามา สายตาของเขาคมกล้าพอที่จะฆ่าล้างได้ หลังจากจ้องมองทุกคนที่อยู่รอบตัวเธอแล้ว พวกเขาก็เริ่มกระพือปีกหนีไปเหมือนนก
ไม่ใช่ความผิดของแองเจลีนที่จู่ ๆ เธอก็สูญเสียการมองเห็น ดังนั้นแน่นอนว่าเธอไม่คุ้นเคยกับการเดินบนทางเดินเท้าที่ทำไว้พวกนั้น
เมื่อนึกถึงพวกคนที่จะทำให้เธอขายหน้าอย่างโจ่งแจ้งพวกนั้น ช่างน่าขยะแขยงเสียจริง
เจย์ยกแขนทั้งสองข้างของแองเจลีนขึ้นและวางไว้รอบคอของเขา แล้วเจย์ก็อุ้มเธอออกไปอย่างชำนาญ
แองเจลีนตัวสั่นขณะที่เธอร้องไห้ที่หลังของเขา
เจย์ไม่กล้าพูดในขณะที่น้ำตาของเขาเองก็ไหลออกมา
บนแผ่นหลังของเจย์ แองเจลีนขอบคุณเขาทั้งน้ำตา “ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้”
เจย์ไม่กล้าตอบ
แต่ทว่า เขาได้นำมือของเธอมาไว้ที่มุมริมฝีปากของเขาแทน แองเจลีนตกตะลึง “คุณพูดไม่ได้เหรอคะ?”
น้ำตาของแองเจลีนหยุดลงอย่างช้า ๆ ทำไมคนใบ้คนนี้เธอถึงรู้สึกคุ้นเคยนัก?
หลังของเขากว้างและอบอุ่นเหมือนของเจย์
อย่างไรก็ตาม ชายคนนี้ดูเหมือนจะถูกคลุมด้วยกลิ่นที่เจย์เกลียดที่สุด
ลาเวนเดอร์ ในภาษาดอกไม้ของมันก็คือการกำลังรอคอยความรัก
เธอเคยให้น้ำหอมแบบนี้แก่เขามาก่อน เพียงแต่ได้รับกลับมาเป็นใบหน้าบูดบึ้งที่บ่งบอกถึงความไม่ชอบของเขา “ลาเวนเดอร์หมายถึงการรอคอยความรัก แองเจลีน เจย์บี้ของเธอไม่ชอบสิ่งนั้น ความรักของเขาเป็นมากกว่าความรักแบบ ‘รวบรวมดอกกุหลาบซะในขณะที่คุณทำไก้’ แทนที่จะรอจนกว่าจะสายเกินไป เจย์บี้ของเธอรักช่วงเวลาที่ไม่มีความเสียใจ”