ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 922
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 922
แต่อนิจจา ยามรักษาการณ์ของอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนก็ไม่ได้มีประสบการณ์เท่า เจย์ อาเรส
ด้วยน้ำมือขององค์กรโลกาวินาศ คอที่หัก แขนขาที่ขาดเป็นชิ้น ๆ และลำตัวที่แยกออกเป็นท่อนกระจายไปทั่ว… มันช่างเป็นภาพที่น่าสยดสยอง
ในขณะนั้นเอง เครื่องบินขับไล่พิเศษที่มีลักษณะเหมือนค้างคาวก็ได้ลงจอด และชายในเสื้อคลุมสีขาวก็ได้เดินลงมาจากเครื่อง
ผู้คุมวิญญาณได้ตรงเข้ามารายงานทันที “เรดาร์ได้แสดงการเสียชีวิตทั้งหมด 1,780 คนใน อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนนี้ครับนายน้อย จากไผ่แห่งความตายทั้งหมดที่มีอยู่ 1,990 คนครับ”
“ยังมีพวกมันเหลืออยู่ 206 คนข้างในสินะ กำจัดพวกมันซะ”
เหมือนอย่างที่เคยเป็นมา นายน้อยออกคำสั่งอย่างห้วน ๆ “ตามหาตัวตนของผู้ตายมาให้ฉัน”
ใจของเจย์เย็นลง มันควรจะเหลืออีก 210 คนสิ หากพิจารณา 1,780 จาก 1,990 ที่เป็นสมาชิกของอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนที่เสียชีวิต สมาชิกอีกสี่คนที่เหลือคือใครกันล่ะ?
“โคล ยอร์ก!” จู่ ๆ เจย์ก็ตะโกนขึ้น
“นายซ่อนตัวจากฉันไม่ได้หรอก!”
ชายในเสื้อคลุมสีขาวและหน้ากากรูปจิ้งจอกสีขาวได้เดินเข้ามา
“ความฉลาดเกินเหตุเป็นบาปนะ เจย์ อาเรส นายอยากจะรู้ถึงราคาที่นายจะต้องจ่ายไหม?”
แม้จะมีเครื่องเปลี่ยนเสียง เจย์ก็สามารถยืนยันได้จากน้ำเสียงและท่วงทำนองเสียงของเขาได้ว่านี่คือ โคล ยอร์ก อย่างแน่นอน
เพื่อแองเจลีนและลูก ๆ ของพวกเขา แล้วก็เพื่อเติมเต็มความต้องการที่เห็นแก่ตัวของเขาเองเช่นกัน เจย์จึงตัดสินใจที่จะโกหกโคล
“ตระกูลอาเรสอับอายขายหน้าจากการที่ป้าของนาย โคลอี้ ได้ล่อลวงลุงของฉันและได้คลอดแองเจลีนออกมา ตระกูลอาเรสเป็นนามที่มีคุณธรรมและพวกเราจะไม่มีวันยอมรับคนที่เลวทรามโหดร้ายเช่นนายให้มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของพวกเราเด็ดขาด”
“นายพูดว่าอะไรนะ?” โคลมักยึดมั่นว่าตนเองเป็นหุ่นยนต์ที่ไร้ความรู้สึกทุกครั้งยามที่ปฏิบัติภารกิจ
แต่ทว่าเขากลับพบว่าตัวเองถูกกดทับจนหมดอาลัยตายอยากด้วยคำพูดของเจย์
ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะคำว่า ‘แองเจลีนเป็นลูกสาวของป้าโคลอี้’
“แกโกหก!” โคลคำราม
เจย์พึมพำ “หืม นายสามารถเอาผมของเซ็ตตี้ไปตรวจ DNA ได้เสมอถ้านายไม่เชื่อฉัน”
เจย์โยนถุงผ้าเล็ก ๆ ให้เขา
โคลได้คว้ามันไว้
เจย์ได้พูดตามหลักการทางจิตวิทยาย้อนกลับของเขาไว้อย่างเกินจริง “นายอยากรู้ไหมว่าทำไมจู่ ๆ ฉันถึงเลิกรักแองเจลีน? เป็นเพราะหลอดเลือดของเธอสามารถหลั่งเลือดของยอร์กที่น่าอับอายของพวกนายยังไงล่ะ”
โคลโกรธจัด “เมื่อฉันได้จบกับแกเสร็จแลเว แกตายแน่ เจย์ อาเรส”
เขาสั่นด้วยความโกรธและชี้นิ้วไปที่เจย์ “พวกแกที่เหลือจะรออะไรอีกล่ะ? เอาอาวุธขึ้นมาถ้าพวกแกไม่สามารถเอาชนะเขาด้วยหมัด”
รอยยิ้มเย้ยยันได้ลอยเข้ามาในดวงตาของเจย์
เครื่องบินขับไล่หลายลำเริ่มทิ้งระเบิดชีวเคมีชุดใหม่จำนวนนับไม่ถ้วนใส่เจย์ เปลวไฟลุกโชนเมื่อเกิดการกระแทกและไฟก็เริ่มลุกลามอย่างรวดเร็ว ได้เปลี่ยนสภาพของบริเวณนั้นเป็นทะเลเพลิงที่ลุกโชน
ขณะนั้น เจย์ก็เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วผ่านกองไฟ
ในเวลาเดียวกัน ยามก็ถอดชุดเกราะออกและเผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดียวกับที่เจย์สวมอยู่ข้างใน รูปร่างของพวกเขาคล้ายกับเจย์นัก ประหนึ่งว่าเป็นทหารในภารกิจสละชีพ พวกเขาวิ่งเข้าไปหาเจย์ในฐานะที่เป็นเหยื่อล่อ
มันจึงทำให้เจย์นึกขึ้นได้ว่านี่คือแผนการสุดท้ายของท่านปู่
ในตอนนั้นเอง ยามก็เริ่มขว้างระเบิดควันที่พวกเขาได้เตรียมเอาไว้ ควันดำเข้าปกคลุมไปทั่วพื้นที่
“เร็วครับ นายท่านเจย์ ขึ้นไปบนรถถังเลยครับ”
พวกเขาเป็นเกราะป้องกันให้เจย์ขณะที่เขาเข้าไปข้างใน
เมื่อตอนที่ควันหายไป อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนก็เต็มไปด้วยรถถังแบบเดียวกันหลายร้อยคัน ที่ขับเคลื่อนโดยผู้ชายที่ดูเหมือนกันไปหมด
เมื่อมองไปที่เหล่าทหารที่พุ่งเข้าไปหาอันตรายเพื่อเขา เจย์ก็ได้เข้าใจในที่สุด ยามของท่านปู่ที่แยกย้ายกันไปนานแล้ว ได้เหลือเพียงคนที่ดีที่สุดเอาไว้เพื่อที่ช่วยเหลือเขาในตอนที่เขาหนี
“ขอบคุณครับคุณปู่” รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นที่มุมปากของเจย์