ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 925
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 925
ด้วยจิตใจที่มุ่นมั่น แองเจลีนก็รีบวิ่งทั่วปราสาทเพื่อหาทางออก
เกรย์สันเปิดการทำงานประตูหินของปราสาท เพื่อให้แสงยามเช้าส่องเข้ามายังภายในที่มืดมิด
แองเจลีนยกมือขึ้นมาบังตาของเธอและหันไปทางทิศตะวันออกแล้วพบว่าท้องฟ้าได้ถูกย้อมเป็นสีแดงสดด้วยเปลวไฟที่อยู่เหนืออสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน
หน้าอกของแองเจลีนรู้สึกหนักอึ้งและหัวใจของเธอก็ถูกข่มขวัญจนอยากกระโจนออกมาจากอก
เกรย์สันหยุดรถเฟอร์รารี่ตรงหน้าแองเจลีน “ขึ้นมาเลยครับ ท่านประธานหญิง”
แองเจลีนเดินโซเซไปยังรถเฟอร์รารี่ เธอดึงประตูรถออกอย่างรวดเร็วและเข้าไปนั่งข้างใน
รถเฟอร์รารีแล่นเสียงเบา ๆ ก่อนที่มันจะพุ่งไปทางทิศตะวันออกและมุ่งสู่ทะเลเพลิง
เธอจ้องมองไปที่ดอกทานตะวันเพชรภายในรถ แองเจลีนเอื้อมมืออันสั่นเทาไปสัมผัสกลีบดอกของมัน
ในหัวของเธอมีเสียงสะท้อนของน้ำเสียงที่มีเสน่ห์ของเจย์ “เพชรบ่งบอกถึงนิรันดร ในขณะที่ดอกทานตะวันบ่งบอกถึงความสุข แองเจลีนจงมีความสุขและปราศจากความกังวลนิรันดร นั่นคือทั้งหมดที่เจย์บี้อยากจะขอสินะ”
ดวงตาของแองเจลีนเริ่มแดงก่ำทันที
“เกรย์สัน ใครเป็นคนซื้อรถคันนี้?”
เกรย์สันกลืนน้ำลาย “เขาได้เตรียมทุกอย่างไว้ก่อนจะจากไปครับ ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งใดก็ตาม เขาก็เตรียมทุกอย่างไว้ให้คุณแล้วครับ ท่านประธานหญิง”
แองเจลีนถามอย่างสั่น ๆ “เขาจะไปไหน?”
เกรย์สันเงียบ น้ำตาของเขาได้คุกคามเพื่อที่จะไหลลงมาอีกครั้ง
เกรย์สันเต็มไปด้วยแรงที่มีมากเกินจนเขาไม่กล้าและไม่อาจปล่อยออกมา แรงนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นความเร็วของรถที่แข่งกันอยู่ในพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล
เฟอร์รารี่แล่นผ่านเนินเขาไปยังถนนสายหลักที่นำไปสู่อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน เงาสีเขียวที่ถูกเผาไหม้ได้แผ่กระจายไปถึงขอบฟ้า
แองเจลีนตกตะลึงมองค้างด้วยดวงตาที่เบิกกว้างไปยังอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน เธอร้องไห้คร่ำครวญอย่างบีบคั้นหัวใจ ขณะที่เธอพบว่าตัวเองไม่สามารถคิดได้ว่าเงาดำที่พังทลายของตึกนั้นจะเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนเอง
“ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?”
เกรย์สันเหยียบคันเร่งจนสุดและนำพาเฟอร์รารี่ไปที่ประตูของอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนภายในพริบตาเดียว
เมื่อแองเจลีนเดินโซเซออกมาจากรถเฟอร์รารี่ เธอก็พบกับรถดับเพลิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่พยายามจะดับเปลวไฟ
หอท่าเรือหอมหวนถูกไฟมอดไหม้ ไม่เหลือสิ่งใดไว้ จะเหลือเพียงก็แต่ผนังแตกร้าวที่ละลายด้วยความร้อนที่แผดเผา
เธอทักคนงานที่อยู่ใกล้ ๆ บริเวณนั้น และถามตะกุกตะกักว่า “คนข้างใน…”
บุคคลนั้นได้แทรกด้วยการตอบกลับก่อนที่เธอได้ถามคำถามของเธอ “ไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอยู่เลยครับ”
ดวงตาของแองเจลีนกลอกกลับมา และเธอก็ทรุดลงไปอยู่กับพื้น
แต่แล้ว เธอก็ถูกประคองจากมือที่แข็งแรงคู่หนึ่ง “ท่านประธานหญิง”
แองเจลีนหันมามองเขาอย่างอ่อนแรง “เขาอยู่ที่ไหน? บอกฉันมาสิ”
เกรย์สันยังคงเงียบ
แองเจลีนคว้าตัวเกรย์สันไว้อย่างกระวนกระวาย “เขาไม่ได้อยู่ข้างในใช่ไหม? บอกฉันทีสิว่าเขาไม่อยู่ข้างใน”
ดวงตาของเกรย์สันร้อนผ่าวขณะที่เขาเค้นคำพูดออกมา “ผมไม่รู้ครับท่านประธานหญิง…”
เกรย์สันไม่สามารถทำใจที่จะบอกความจริงกับแองเจลีนได้
ไม่สามารถเลยจริง ๆ ในเมื่อเจย์ใช้ความคิดอย่างมากเพื่อให้เธอมีชีวิตที่มีความสุข แล้วเกรย์สันเป็นใครกันถึงได้โยนทิ้งงานที่ทำมาอย่างหนักนั้น? เกรย์สันเป็นใครกันถึงได้ผลักเธอไปสู่ความเศร้าโศกที่โหดร้ายนั้น?
ในขณะนั้นเอง แองเจลีนก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่แสนโศกเศร้าขึ้น
เมื่อค่อย ๆ หันหลังกลับมา เธอได้พบโจเซฟินที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอกของเซย์น
แองเจลีนลากร่างที่หนักอึ้งของเธอเข้าไปหา แองเจลีนดูเหมือนเหลือเพียงอึดใจเดียวที่จะตาย มันเพียงแขวนไว้อยู่บนเส้นด้ายบาง ๆ ที่ซึ่งต้องการรับรู้ความเป็นไปของเจย์ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีความหวังภายใต้ความสิ้นหวังที่แสนอึดอัดนี้
“โจซี่!” เธอร้องออกมาเบา ๆ คุกเข่าต่อหน้าโจเซฟิน