ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 94
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 94
โจเซฟินถอนหายใจ ตอนนี้พี่ชายเอาแต่ใจของเธอก็รู้แล้วว่าร็อบบี้น้อยเป็นลูกของเขา เขาจะต้องสู้กับโรสเพื่อแย่งสิทธิ์การเลี้ยงดูเด็กแน่
โรสจะมีอะไรไปต้านเขาได้?
ในทางอำนาจ พี่ชายของเธอแทบจะครองโลกด้วยซ้ำ
ในทางเงินตรา พี่ชายของเธอเป็นประธานบริษัทที่มีทรัพย์สินเป็นแสนล้าน
โรสไม่มีทั้งอำนาจและเงิน
โจเซฟินคิดว่าการต่อสู้ที่เคยจบไปกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
โชคยังดี…
โจเซฟินหันไปด้านหลัง มองโรเซ็ต และคิดว่าจะปลอยโรสยังไง
“โรส ฉันจะพยายามทำให้พี่ชายของฉันเข้าใจผิดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันจะบอกกับเขาว่าโรเซ็ตเป็นลูกสาวของสามีคนก่อนของพี่ อย่างไรก็ตาม พี่ชายของฉันเป็นคนไม่ไว้ใจใครอยู่แล้ว เพื่อที่จะหยุดความสงสัยของเขา ฉันจะสร้างเรื่องว่าพี่แต่งงานแล้ว”
“เราต้องเข้าใจเรื่องราวให้ตรงกัน เพื่อที่เขาจะได้ไม่สงสัยอีก ไม่ต้องห่วง ฉันจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะทำให้มั่นใจว่าพี่จะยังมีลูกสาวอยู่”
โรสพยักหน้าอย่างเจ็บปวด
โจเซฟินส่งโรสกลับไปที่เมืองงอกงาม เจนสันไม่ต้องการแยกกับแม่ของเขา โจเซฟินเองก็อยู่กับเขาเพื่อรอฟังข่างของร็อบบี้น้อย
เจย์ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกเมื่อเขาส่งเจนสันไปแล้ว เขาค้นหาทุกตรอกทุกซอกซอยในสะพานตะวันออกเพื่อหาร่องรอยของร็อบบี้น้อย
ตำรวจนอกเครื่องแบบมาถึงในเวลาไม่นาน หลังจากพบกับเจย์ สารวัตร ฌอง วอลเตอร์ ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าของเจย์ ก็แกล้งเขา “โอ้ นายท่านอาเรส! ใครถูกลักพาตัวล่ะเนี่ย? ต้องเป็นคนสำคัญกับนายแน่ นายถึงได้ออกมาด้วยตัวเอง”
เจย์ อาเรส มองดูนาฬิกาข้อมือแล้วกล่าวอย่างเย็นชา “นายมาสาย”
สารวัตรวอลเตอร์อ้าปากค้าง “สาบานต่อพระเจ้า ฉันกำลังอาบน้ำอยู่ตอนนายโทรหาฉัน ฉันไม่กล้าโอ้เอ้แม้แต่สักวินาทีด้วยซ้ำ”
อารมณ์ของเจย์นั้นเดือดมาก ทุกคนสามารถบอกได้ว่าเขากำลังหมดความอดทนจากการมองดูสายตาของเขา
“ตัวประกันเป็นพวกวีไอพีรึเปล่า นายถึงได้ดูกังวลนัก?” สารวัตรวอลเตอร์ถาม
“ลูกชายฉัน”
“เจนสัน?” สารวัตรวอลเตอร์หลั่งเหงื่อเย็นทันที ตัวประกันเป็นวีไอพีจริงด้วย
“ไม่” ท่าทางของเจย์มืดมนมาก
สารวัตรวอลเตอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอก “นายท่านอาเรส นายไม่ได้มีลูกแค่คนเดียวรึไง? นายโสดมาหลายปี พวกเราถึงขนาดเริ่มสงสัยเรื่องรสนิยมทางเพศของนายด้วยซ้ำ แล้วลูกชายคนที่สองของนายจะมาจากไหน?”
“หยุดพูดได้แล้ว ไปช่วยตัวประกัน ฉันจะเตือนอะไรนายไว้อย่าง ถ้าร็อบบี้น้อยสูญเสียแม้แต่เส้นผมครึ่งเส้น ฉันจะเอาชีวิตของนายครึ่งหนึ่งไป” เจย์กล่าวอย่างชัดเจน
“ไม่ต้องห่วงน่า นายท่านอาเรส ฉันจะเริ่มปฏิบัติการเดี๋ยวนี้แหละ”
กัปตันฌอง วอลเตอร์ หันหลังไปบอกลูกน้อง “เริ่มปฏิบัติการได้”
จากนั้นไม่นาน ลูกน้องของเขาก็กลับมารายการปฏิบัติการ “สาวัตรครับ โจรลักพาตัวได้จับตัวประกันไว้ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เราควรบุกเข้าไปหรือ…”
“บุกเข้าไป? แกบ้ารึไง? ปกป้องตัวประกันด้วยทุกอย่างที่มี ต้องแน่ใจว่าตัวประกันจะไม่มีอันตราย”
ท่าทีของเจย์ดูโกรธมาก เขาหันหลังไปแล้วพุ่งตัวไปทางพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ด้วยความเร็วสูง
“นายท่านอาเรส!” สารวัตรวอลเตอร์กังวล เขาตามไปไม่ห่วง
ในขณะเดียวกัน ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ โจรลักพาตัวเป็นโหลหรือมากกว่า มัดร็อบบี้น้อยไว้เหมือนกับแหนมแล้วโยนเขาไว้ที่มุมห้อง มีเด็กห้าถึงหกคนอยู่ที่นี่ คนที่อายุมากที่สุดนั้นอายุสิบสองปี และที่เด็กที่สุดนั้นอายุยังไม่ถึงสามขวบด้วยซ้ำ เหล่าพนักงานของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เองก็หมอบอยู่กับพื้นพร้อมกับมือที่แปะกับกำแพง โจรลักพาตัวพร้อมปืนไรเฟิลจ้องมองพวกเขาไม่คลาดสายตา
“บอส! มีกลุ่มคนล้อมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ไว้ เอาไงดีครับ?”
“ล็อคทั้งหน้าต่างและประตู ทุกอย่างในนี้เป็นสมบัติระดับชาติ พวกมันต้องไม่กล้าบุ่มบ่ามแน่ ดูการเคลื่อนไหวข้างนอกให้ดี ถ้าพวกมันเป็นตำรวจ ก็เตรียมอาวุธให้พร้อม!”
“ได้ครับ”
ร็อบบี้น้อยพลันคิดวิธีเบี่ยงเบนความสนใจของโจรลักพาตัวได้ขึ้นมา
“พวกคุณอยากได้เงินใช่ไหม?” เขากล่าว “ผมจะบอกให้นะ พ่อของผมเป็นประธานของแกรนด์เอเซีย เขามีเงินเยอะมาก! ถ้าคุณโทรหาพ่อผมแล้วเรียกเงินห้าพันล้าน เขาจะยินยอมจ่ายโดยดีเลย”
หัวหน้าของโจรลักพาตัวมองที่ร็อบบี้น้อย “แกบอกว่าพ่อของแกเป็นประธานของแกรนด์เอเซียเหรอเจ้าหนู?” เขากล่าวเสียงแหบ
ร็อบบี้น้อยพยักหน้าอย่างยินยอม เขาทำหน้าตาใสซื่อและน่ารัก พวกโจรลักพาตัวนั้นไม่ได้สงสัยเลยว่าเขานั้นเป็นจอมป่วนเจ้าเล่ห์
“เบอร์มือถือพ่อของแกล่ะ?”
ร็อบบี้น้อยเอียงคอแล้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง “พ่อของผมมีเบอร์หลายเบอร์ ลองเบอร์นี้ก่อนแล้วกัน” จากนั้น เขาก็มั่วเบอร์ขึ้นมา
พวกโจรลักพาตัวโทรออกไป แต่พวกเขาก็ได้ยินเสียงอัตโนมัติที่บอกว่าหมายเลขนี้ไม่ได้ถูกใช้งาน
“งั้นลองอันนี้แทน” ร็อบบี้น้อยให้เบอร์มั่วไปอีก พวกโจรก็โทรไปอีก แล้วก็เหมือนเดิม ไม่มีใครรับสาย
เหล่าโจรลักพาตัว เริ่มหมดความอดทน ร็อบบี้น้อยอุทานออกมากะทันหัน “โอ้ จริงด้วย! พ่อของผมจดเบอร์ติดต่อแล้วใส่ไว้ในเสื้อผมนี่นา ลองดูในนี้สิ”
โจรลักพาตัวค้นตัวเขาอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เจออะไร ร็อบบี้น้อยแกล้งทำเป็นผิดหวัง “เฮ้ คุณอยากแก้มัดให้ผมไหม ผมจะได้ช่วยหาเบอร์ติดต่อให้?”
หัวหน้าโจรลักพาตัวถูกชักจูงจากความลุ่มหลงในเงินห้าพันล้าน พวกเขาไม่คิดว่าเด็กอายุห้าขวบจะสร้างปัญหาใหญ่ได้ เขาจึงสั่งคนของเขา “แก้มัดให้เด็กนี่”
หลังจากเชือกถูกปลดออกจากแขนและขาของร็อบบี้น้อย เขาก็นวดข้อมือและข้อเท้าอย่างสุขุม จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วพุ่งออกไปโยนเชือกที่เป็นห่วงไปรอบคอของหัวหน้าโจร เขาคว้าเชือกอีกด้านไว้ เขาหมุนตัว แล้วโดดไปที่ราวบันไดวน ก่อนจะเลื่อนลงมา
“แก ไอ้เด็กเจ้าเล่ห์! ไปจับมัน!” เสียงของหัวหน้าโจรขาดหายเพราะคอของเขาถูกรัดจากเชือก
ร็อบบี้น้อยโบกมือลาให้พวกโจรลักพาตัว “ไอ้โง่หน้าหนู! เงินของคุณพ่อเป็นของฉันตอนโต ฉันไม่ยอมให้มันกับนายหรอก!”
พวกโจรลักพาตัวยกปืนขึ้นแล้วชี้ไปที่ร็อบบี้น้อย