ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 944
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 944
เขาเป็นคนที่เงียบมาก เป็นชายที่มีคำพูดอันแสนน้อยนิด
คนในหมู่บ้านเอยถามเขา “นายชื่ออะไร?”
เขาตอบอย่างแผ่วเบา “ฉันจำไม่ได้น่ะ เรียกฉันว่า เบ็น ก็แล้วกัน!”
ชายในหมู่บ้านต่างก็มีชื่อว่า ร็อบ บ็อบ และอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนเป็นชื่อเล่นที่ง่ายต่อการจดจำ
“นายทำอะไรได้บ้าง?”
ชายคนนั้นส่ายหน้า “ฉันไม่รู้”
คนในหมู่บ้านเผยสีหน้าที่ดูกถูกดูแคลน
“นายมันก็แค่ไอ้รูปหล่อ” มีใครบางคนพ่นคำพวกนี้ใส่เขา
เขาจ้องไปที่ชายคนนั้นอย่างดุดัน จนทำให้เขาตกใจกลัว
หลังจากสองวันหนึ่งคืนบนรถไฟ พวกเขาก็เดินทางมาถึงเมืองอิมพีเรียลในที่สุด
คนในหมู่บ้านต่างก็ไม่สนใจเขาและทิ้งเขาไว้ให้หาทางด้วยตัวเองที่สถานีหลังจากลงมาจากรถไฟแล้ว
เขามองไปยังเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ผู้คนเบียดเสียดและการจราจรที่ติดขัด ภาพเหล่านี้เหมือนจะทำให้เขาเกิดภาพเดจาวูขึ้นมา
ในตอนนั้นเอง คนในหมู่บ้านคนหนึ่งหันหลังกลับมาและคว้ามือของเขาไว้ พร้อมกับพูดว่า “เร็วเข้าเบ็น อย่าให้สแตน ฮิทเชนส์และคนอื่น ๆ ทิ้งนายไว้ข้างหลังเชียว นายจะกลายเป็นขอทานถ้านายหางานไม่ได้นะ”
เขาเดินตามคนในหมู่บ้านไปและตามอยู่นานพอสมควรก่อนจะไปถึงเพิงก่อสร้างที่แสนสกปรก
เมื่อมองเห็นพื้นดินที่สกปรก เขาก็ยืนอยู่ข้างนอกและรู้สึกฝืนใจที่จะต้องเข้าไป เขาไม่อาจระงับความรู้สึกสะอิดสะเอียนและคลื่นไส้ไว้ได้
ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เลือกที่จะยืนอยู่ตรงประตู ขณะที่เขามองพวกคนในหมู่บ้านที่อยู่ข้างในด้วยความขยะแขยง
สแตนเริ่มสั่งงานให้กับทุกคน “หัวหน้าของพวกเราตกลงที่จะจ้างพวกเราทั้งหมดนั่นเพราะว่าฉันขอร้องเขาอยู่นานมาก เห็นพวกกระสอบทรายข้างหน้าตรงนั้นไหม? หน้าที่ทุก ๆ วันของพวกนายก็คือยกกระสอบทรายพวกนั้นลงมาจากรถกระบะ แล้วพวกนายจะได้ค่าจ้าง 120 เหรียญต่อวัน”
คนอื่น ๆ ต่างก็เริ่มคำนวนค่าแรงของตนอย่างเงียบ ๆ “งั้นก็เป็น 3,600 ดอลล่าร์ต่อเดือนสินะ นั่นมันมากกว่าที่เราได้รับจากการจับปลาที่บ้านเสียอีก”
สแตนมองไปที่เบ็นด้วยท่าทางที่แสนจะอวดดี “เฮ้ แล้วนายล่ะ? นายจะทำไหม?
เบ็นมองไปที่กระสอบทรายในสถานที่ก่อสร้าง มีฝุ่นสีเทารั่วออกมาจากถุงกระสอบ เขาก็สามารถจินตนาการออกได้ว่าเขาจะสกปรกโสโครกแค่ไหนในแต่ละวัน
เบ็นขมวดคิ้ว
สแตนรู้สึกไม่สบอารมณ์ แล้วพูดว่า “กลับไปซะ ถ้านายทำไม่ได้ ฉันล่ะเกลียดพวกรูปหล่ออย่างนายที่เอาแต่พึ่งพาผู้หญิงในการเอาตัวรอด”
เบ็นถูกยั่วโมโห “ฉันจะทำ”
ด้วยเหตุนี้ เบ็นและคนในหมู่บ้านก็พักอาศัยกันในเพิงนี้
แรกเริ่ม เขาคิดว่าเขาจะปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่โสโครกนี้ได้ แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่วัน ท้องของเขาก็เริ่มมีปัญหาหนักขึ้นเรื่อย ๆ
สแตนคว้าเงินสองสามร้อยเหรียญแล้วยื่นให้เขา เพราะกลัวว่าเขาอาจจะตายในสถานที่ก่อสร้างได้ “ลืมมันไปซะเถอะ ฉันว่านายทำไม่ได้งานหนักและสกปรกแบบนี้ไม่ได้หรอก ฉันจะจ่ายค่าเดินทางให้นายด้วย กลับบ้านไปซะ อย่ามาตายที่นี่ ฉันรับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ”
เบ็นไม่ได้รับเงินมา แต่เขาลากสังขารที่ป่วยของเขาออกไปจากเพิงก่อสร้าง
เขาเป็นคนดื้นรั้น ในเมื่อตอนนี้เขาได้ออกมาถึงที่นี่แล้ว เขาจะกลับบ้านไปโดยไม่มีเงินสักเหรียญไม่ได้
คืนนั้นเขาไม่มีที่ที่จะไป เขานั่งที่เก้าอี้ม้านั่งไม้ในสวนสาธารณะทั้งคืน เขาทรมานจากทั้งความหิวโหยและกรดเกินในกระเพาะอาหาร
แต่ในตอนท้าย ทอมมี่ คนนิสัยดีในหมู่บ้านหาเขาพบและยื่นขนมปังชิ้นหนึ่งให้เขา เขาพยายามอย่างที่สุดในการโน้มน้าวเบ็นว่า “อย่าดื้อนักเลยเบ็น ฉันได้ยินมาว่าสถานที่ก่อสร้างที่สแตนพาเรามาเป็นที่ที่ใหญ่มากและจะต้องใช้เวลาหลายปีมากในการสร้างมัน เราจะต้องทิ้งความยากจนของเราได้แน่ตราบใดที่เรายังอยู่และทำงานไปไม่กี่ปี
เราทั้งคู่ต่างก็เป็นคนที่จนที่สุดในหมู่บ้านแล้วนะ หลังจากที่เราไม่อยู่ในฐานะยากจนแล้ว ฉันก็จะสามารถแต่งงานกับเมียของฉันได้และนายเองก็จะมีเงินที่จะส่งไทเกอร์ไปโรงเรียนได้”
เบ็นมองที่ขนมปังที่มีรอยนิ้วมือเลอะอยู่ แล้วเขาก็แกะขอบขนมปังออกก่อนที่จะเคี้ยวมันอย่างภูมิฐาน
ทอมมี่อ้าปากค้างใส่เขา “นายไม่กินขอบมันเหรอ?”
เบ็นมองไปที่ทอมมี่ เขาอยากจะบอกทอมมี่ว่าเขาแค่ใส่ใจเรื่องสุขอนามัยเท่านั้น แต่ทว่าเขาก็ไม่อยากทำร้ายความเชื่อมั่นในตนเองของทอมมี่ เพราะฉะนั้นเขาจึงรั้งตัวเองในการพูดถึงเหตุผลของเขากับทอมมี่เอาไว้