ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! - บทที่ 983
ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 983
เมื่อเจย์รู้สึกว่านางมารร้ายคนนั้นได้เข้ามาครอบงำอารมณ์จิตใจของเขาเสียแล้ว เขาก็ลุกขึ้นมานั่งอย่างหนักใจ หลังจากถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้ว เขาก็ไปที่มุมห้องยืนตีลังกากลับหัว
เขาต้องบังคับตัวเองให้ใจเย็นลงและคิดหาว่าทำไมเขาถึงมีความรู้สึกเช่นนี้กับแองเจลีนได้
ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามหาคำตอบอย่างหนักแค่ไหน แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อแองเจลีนนั้นเกิดจากความหลงใหล ความไว้ใจ หรือความเกลียดชังสุดขั้วกันแน่
วันรุ่งขึ้น เจย์ได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่โดยการยื่นจดหมายลาออกกับหัวหน้าแผนกวิศวกรรม จากนั้นเขาก็ย้ายออกจากหอพักและเช่าอพาร์ทเมนต์สองห้องนอนในหมู่บ้านจัดสรรเล็ก ๆ ในเมืองอิมพีเรียล
เขาควรจะพามาริลินและลูก ๆ ของพวกเขามาที่นี่ตอนที่เขาหางานที่มั่นคงได้แล้ว
ในขณะเดียวกัน มันอาจจะช่วยให้เขาพ้นจากความคิดบ้าบอทั้งหมดที่เขามีกับแองเจลีนได้ด้วย
เมื่อแองเจลีนรู้ว่าเจย์ได้ออกไปจากสถานที่ก่อสร้างแล้ว เธอนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะในห้องทำงานของประธานและถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย
“เฮ้อ”
ไม่ใช่เป็นเพราะสิ่งใดเลยแต่มันเพราะการที่เธอไปลอบจูบเขา
แล้วตอนนี้เขาก็ทำตัวเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่แสนจะขี้อาย และจนถึงขั้นลาออกเพียงเพื่อตั้งใจหลบเลี่ยงเธอเลยเหรอ?
ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เธอจูบเขา ริมฝีปากของเขาจะตวัดรับในขณะที่ดวงตาและคิ้วของเขาจะเลิกขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉีกไปถึงหู
“เฮ้อ!”
แองเจลีนถอนหายใจอีกครั้ง!
เซย์นนั่งอยู่ตรงข้ามกับแองเจลีน แฟ้มในมือของเขาถูกเปิดออกและวางอยู่บนโต๊ะ มีหนังสือเล่มเล็กชื่อ ‘บุปผาในกุณฑีทอง’ วางอยู่บนนั้น และภาพประกอบในเล่มนี้ช่างดูอนาจารเสียจริง
หลังจากที่ได้ยินแองเจลีนถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า เซย์นก็ชายตาขึ้นและมองไปที่เธอ “เจย์ทำอะไรให้เธอไม่พอใจอีกแล้วหรือไง?”
แองเจลีนตอบอย่างแผ่วเบาว่า “เขาจงใจหลบฉัน”
เซย์นถามว่า “เธอไปทำอะไรให้เขาโกรธล่ะ? ทำไมเขาถึงได้กลัวขนาดนั้น?”
แองเจลีนลืมตาขึ้นมาอย่างใสซื่อและพูดว่า “ที่ฉันทำไปก็มีแค่จูบเขาโดยที่เขาไม่เต็มใจก็เท่านั้นเอง”
เซย์นอ้าปากค้าง เขาพอนึกภาพออกว่าผู้ชายที่หยิ่งทะนงและถือตัวอย่างเจย์คงจะรู้สึกอยากตายไปเสียหลังจากถูกเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอจูบเข้า
“เธอช่วยทำตัวสุขุมสักนิดต่อหน้าเขาหน่อยไม่ได้เหรอ แองเจลีน?” ความกล้าหาญและความเข้มแข็งของน้องสาวทำให้เซย์นตกใจจนจิตใจและจิตวิญญาณของเขาแทบหลุดออกจากร่าง
“เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าเขาเป็นชาวประมงที่ไม่เอาถ่านขนาดที่ว่าแม่ยายของเขายังไม่ยอมรับเขา? เลือดของผู้นำได้ไหลเวียนอยู่ในสายเลือดของเขา มีเพียงเขาเท่านั้นที่ควบคุมชะตากรรมของคนอื่นได้ ไม่ใช่ในทางกลับกันแบบนี้ แต่เธอก็ยังไปลอบจูบเขาอีก แองเจลีน เซเวียร์ เธอ… เธอมันรนหาที่ตายจริง ๆ”
แองเจลีนคว้าแฟ้มที่อยู่ข้างหน้าเซย์นและใช้มันฟาดลงไปที่ตัวเขา “พี่ควรพูดให้มันดี ๆ หน่อยสิ”
เซย์นลดแขนที่ป้องลง และหนังสือนิทานเล่มเล็กของเขาถูกเปิดออก
เซย์นพูดอย่างจริงจังราวกับว่าเขาไม่ได้สังเกตเห็นเลยสักนิด “ผู้ชายทุกคนล้วนชอบผู้หญิงผมยาวในชุดเดรสที่พลิ้วไสวไปกับสายลม โดยเฉพาะผู้หญิงอ่อนแอที่พูดด้วยน้ำเสียงอันแสนเปราะบางและยั่วยวน ถ้าได้เจอกับผู้หญิงแบบนั้นนะ ผู้ชายก็จะปกป้องพวกเธอด้วยสัญชาตญาณตามธรรมชาติอยู่แล้ว”
จากนั้นเขาก็มองไปที่น้องสาวของเขาด้วยสีหน้ารังเกียจ “แล้วดูเธอสิ ฉันแทบจะเห็นคำว่า ‘ต่อยคนพาลในเมืองอิมพีเรียล เตะคนพาลในเมืองนางแอ่น ประกาศตามหาเพื่อน ๆ ผู้ที่มีศิลปะการต่อสู้เหมือนกัน’ เขียนอยู่บนหน้าเธอ ผู้ชายอย่างเจย์จะไปเห็นใจเธอได้ยังไงถ้าเธอทำตัวแบบนั้น?”
คำตอบของเซย์นทำให้แองเจลีนเต็มไปด้วยความโมโห
สายตาของเธอตกไปที่หนังสือนิทานเล่มเล็ก ๆ ตรงหน้าเซย์น แล้วเธอก็ถือบุปผาในกุณฑีทองไปตรงหน้าเซย์น “ฉันคิดว่านายเป็นแค่สัตว์ร้ายที่คิดถึงแต่ส่วนล่างของตัวเองซะอีก ผมยาวและชุดเดรสพลิ้วไสวงั้นเหรอ? นั่นคือทั้งหมดที่นายคิดเหรอ? ทำไมล่ะ? พี่ใหญ่ทำให้นายพอใจไม่ได้เหรอ?”
แววตาของเซย์นส่อความหม่นหมอง
แองเจลีนเอนไปข้างหน้า “ฉันพูดถูกใช่ไหม? นายจะทะเลาะกับพี่ใหญ่จริง ๆ เหรอ?”
เซย์นดันหน้าเธอกลับ “ไร้สาระ ฉันกับเชอร์ลี่ย์ยังดีกันอยู่”
แองเจลีนจ้องเขม็งไปที่แววตาแสนเจ็บปวดของเซย์นและรู้สึกไม่สบายใจด้วยเหตุผลบางอย่าง
“นายกับเชอร์ลี่ย์ไม่ได้ปิดบังอะไรฉันจริง ๆ ใช่ไหม พี่เซย์น?”
เซย์นพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “พี่ใหญ่ของเธอกับฉันมีอะไรปิดบังเธอตั้งเยอะแยะ เธอคงไม่คิดว่าพวกเราจะเล่าให้เธอฟังถึงพวกคำพูดหวาน ๆ พวกนั้นที่เราพูดกันทุกคืนหรอกใช่ไหม?”
แองเจลีนเยาะเย้ย “หน้าไม่อายจริง ๆ”
เซย์นถอนหายใจด้วยความโล่งอกในแบบที่แทบจะมองไม่เห็น
แล้วหัวข้อสนทนาก็เปลี่ยน “เธออยากให้ฉันช่วยตามหาเขาไหม?”
แองเจลีนกล่าวว่า “ถ้าพี่เจอเขาแล้ว ก็ปล่อยเขาไว้ตามลำพังเถอะ หาคนที่จะคอยปกป้องเขาอย่างลับ ๆ แทนแล้วกัน”
เซย์นพูดติดตลกกับน้องสาวของเขาด้วยท่าทีเบิกบานพร้อมกับยืนตรงขึ้นและคำนับ “รับทราบครับ นายหญิง!”