รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 112 ใช้ใจฟังคำสั่งของท่านเซียนทั้งหมด
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 112 ใช้ใจฟังคำสั่งของท่านเซียนทั้งหมด
ผู้คนในแดนประจิมทิศต่างส่งเสียงเซ็งแซ่ ผู้ใดจะไปคิดว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจะป่าเถื่อนถึงเพียงนี้ แม้นหลบหนีออกมาได้ก็ยังมิยอมปล่อย ถึงกับไล่ล่าตามสังหารจนถึงที่สุด!
‘นี่ก็เพื่อปุถุชนธรรมดาพวกนั้นจริงหรือ…?’
ภายในใจพวกเขาล้วนแต่รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง
เพื่อปุถุชนเหล่านั้น คุ้มค่าพอให้แดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนยอมทุ่มเทชีวิตเลยหรือ?
…
ณ แดนทักษิณทิศ
บังเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ในดินแดน ผู้คนต่างพากันสนทนาไม่รู้จบ
ยังมีผู้อาวุโสของแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกำลังไล่ล่าสังหารผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจ โดยไม่สนใจฐานะภูมิหลังของพวกเขาเลยสักนิด ในเมื่อสร้างความวุ่นวายในเมืองปุถุชนแห่งแดนบูรพาทิศจึงต้องถูกสังหารเท่านั้น
“มารดามันเถอะ! ทำเรื่องใหญ่โตเกินไปหรือไม่? ปุถุชนแดนบูรพาทิศเกี่ยวข้องอันใดด้วย? ไม่ได้ฆ่าล้างปุถุชนภาคกลางเสียหน่อย!”
ผู้คนในแดนทักษิณทิศต่างพูดไม่ออก การกระทำของแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนชวนให้ผู้คนสับสนยิ่งนัก!
…
ณ แดนอุดรทิศ
มีผู้อาวุโสของแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนทำภารกิจที่นี่เช่นเดียวกัน เช่นเดิม ผู้ฝึกตนและเผ่าปีศาจที่ก่อความวุ่นวายในเมืองปุถุชนแห่งแดนบูรพาทิศไม่มีผู้ใดหนีรอดไปได้
“ทำได้ก็ทำไป ประเดี๋ยวพวกเจ้าก็ไม่มีโอกาสให้ได้ลงมือแล้ว! คอยดูเถิด แดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจักต้องถูกทำลายเป็นแน่!”
มีผู้คนในแดนอุดรทิศไม่น้อยที่เย้ยหยันพวกเขา
ทว่ามันก็นับเป็นเหตุและเป็นผล
แดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนลงมือไม่คิดปรานีกันเช่นนี้ แน่นอนว่าย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย!
…
ณ แดนบูรพาทิศ เมืองชิงซาน
“ขอบคุณคุณชายสำหรับการต้อนรับและคำชี้แนะขอรับ พวกข้าสองคนมากล่าวลา คราวหน้าจักมาเยี่ยมเยียนคุณชายใหม่ขอรับ!”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกล่าวกับท่านเซียนด้วยท่าทีนอบน้อม
หลังมื้อเช้าผ่านไป ท่านเซียนพาพวกเขามาเยี่ยมชมภาพวาดต่าง ๆ พวกเขาซาบซึ้งและตื้นตันใจเป็นที่สุด มิหนำซ้ำยิ่งทำความเข้าใจ วิถีแห่งเต๋าก็ยิ่งบรรลุขึ้นไปอีก
“ยินดีต้อนรับทั้งสองคนทุกเมื่อเลยนะ” หลี่จิ่วเต้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงกล่าวอำลาท่านเซียนอีกครั้งด้วยความเคารพ
“ข้าจะไปส่งพวกเขานะขอรับ”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีแย้มยิ้มก่อนจะเดินออกจากร้าน พร้อมกับประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนและหูช่วง
“ขอบคุณผู้เฒ่า!”
ระหว่างเดินไป ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนก็กล่าวคำขอบคุณกับผู้เฒ่าเมิ่งจีอย่างจริงใจ
หากไม่ใช่เพราะผู้เฒ่าเมิ่งจี พวกเขาคงไม่ได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ครั้งใหญ่แล้ว ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณผู้เฒ่าเมิ่งจีจริง ๆ ที่มอบหมายคำสั่งของท่านเซียนให้กับพวกเขา
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าหรอก ข้าแค่ทำตามคำสั่งของนายท่าน เพียงแต่บอกได้เลยว่าพวกเจ้าโชคดีมากที่เข้าตานายท่าน”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีกล่าว
เขามองประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วง ก่อนจะบอกเป็นนัย “พวกเจ้าโชคดี แต่พวกเจ้าจะพึ่งพาโชคอย่างเดียวไม่ได้…”
“พวกเราเข้าใจแล้ว! คำสั่งของท่านเซียน พวกเราจะปฏิบัติให้สำเร็จอย่างแน่นอน ปลาตัวใดที่เล็ดรอดกลับไปยังภาคกลาง ข้าจะตามไปชำระความกับมันอย่างแน่นอน!”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนตอบ
“โอ้ พวกเจ้าเข้าใจจริง ๆ หรือ?” ผู้เฒ่าเมิ่งจีถอนหายใจออกมา
ดูเหมือนประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจะยังไม่เข้าใจคำสั่งเป็นนัยของท่านเซียน
“มีอะไรหรือ?” แล้วสีหน้าของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนก็เปลี่ยนไปทันที
ผู้เฒ่าเมิ่งจีเอ่ยปากบอกในที่สุด “พวกเจ้าไม่คิดว่าสิ่งที่พวกเจ้าได้รับในแดนบูรพาทิศครั้งนี้มากเกินไปหรอกหรือ…”
“มากเกินไป?”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนขมวดคิ้ว ยังไม่เข้าใจความหมายของผู้เฒ่าเมิ่งจีอยู่ดี
เขากล่าวต่อ “ท่านผู้เฒ่าโปรดชี้แจ้งให้กระจ่างแก่ข้าด้วย”
เดิมทีในฐานะประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่จำเป็นต้องเคารพผู้เฒ่าเมิ่งจีมากนักก็ได้ นั่นรวมถึงการเรียกขานผู้เฒ่าเมิ่งจีว่า ‘ท่าน’ ด้วย
ทว่าตอนนี้…ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้เฒ่าเมิ่งจีสมควรได้รับความเคารพอย่างแท้จริง!
ไม่ต้องพูดถึงความเมตตากรุณาของผู้เฒ่าเมิ่งจีที่แสดงให้พวกเขาเห็น เพียงแค่บอกว่าผู้เฒ่าเมิ่งจีเป็นผู้ติดตามท่านเซียน เขาก็ไม่กล้าไม่เคารพผู้เฒ่าเมิ่งจีแล้ว
“วาจาของนายท่านทุกคำ เจ้าต้องตั้งใจฟังและจดจำรายละเอียดทุกอย่างให้ดี จากนั้นต้องนำมาครุ่นคิดให้ละเอียดรอบคอบอีกครั้ง นั่นจึงจะถูกต้อง…”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีกล่าว และเสริมว่า “เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้ายังไม่ได้ทำสิ่งนี้สักเพียงกระผีกเดียว ด้วยเหตุนี้ พวกเจ้าย่อมไม่เข้าใจคำสั่งอื่นของนายท่าน…”
“มีคำสั่งอื่นด้วยหรือ!?”
ท่าทีของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก แล้วหยาดเหงื่อเย็นเฉียบก็ผุดขึ้นบนหน้าผากของเขา
ท่านเซียนมอบคำสั่งภารกิจลงมาแต่เขากลับไม่รู้ตัว นี่ช่างเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงยิ่งนัก!
ความสุขก่อนหน้านี้หายไปทันตา และแทนที่ด้วยความตื่นตระหนกกับความหวาดกลัว
ท่านเซียนมอบภารกิจให้แต่เขาไม่รู้ตัว เขา…ไม่กล้าคิดถึงผลที่จะตามมาเลย!
สีหน้าของหูช่วงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ในใจพลันรู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก เขาเองก็ไม่เข้าใจคำสั่งของท่านเซียนเช่นเดียวกับท่านประมุข!
ผู้เฒ่าเมิ่งจีมองทั้งสองคนก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงลุ่มลึกว่า “แน่นอนว่ามี ตอนนั้นท่านเซียนเอ่ยว่า ‘หากมีตู้เย็นก็คงจะดี’…”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงหันมองหน้ากัน ประโยคนี้พวกเขาจำได้
ตอนนั้นพวกเขาได้รับร่างวัชระทั้งยังได้เปิดจุดลับทั้งห้า ทำให้มัวแต่ปลื้มอกปลื้มใจเสียยกใหญ่ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็ไม่ได้ไปสนใจอะไรมากนัก
มาตอนนี้เมื่อฉุกคิดได้ พวกเขาในตอนนั้นถูกความสุขครอบงำจนเสียสติไปแล้วจริง ๆ!
คำสั่งของท่านเซียนถือว่าชัดเจนเพียงพอแล้ว!
มิแปลกใจเลยว่า เหตุใดท่านเซียนถึงทำน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ให้พวกเขา ซ้ำยังนำกล่องอาหารที่ทำจากไม้จักรพรรดิมาให้พวกเขา ตู้เย็นนี้คงจะเป็นคำสั่งอีกคำสั่งของท่านเซียนเป็นแน่!
“ขอบคุณท่านผู้เฒ่าที่เตือน!”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง หากผู้เฒ่าเมิ่งจีไม่เอ่ยเตือน เขาก็คงไม่รู้ว่าตนเองได้รับภารกิจจากท่านเซียน…
มิเช่นนั้น ผลที่ตามมาคงยากที่จะจินตนาการได้เป็นแน่!
“จำเอาไว้ ต่อไปในอนาคตห้ามทำผิดพลาดอีก”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีกล่าวอย่างจริงจัง
“เข้าใจแล้ว!”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงพยักหน้ารับคำ
ครั้งนี้พวกเขาโชคดีจริง ๆ ที่ได้ผู้เฒ่าเมิ่งจีเอ่ยเตือน ทว่าโชคเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้ง…
พวกเขาเตือนตัวเองในใจว่า ภายภาคหน้าไม่ว่าอะไรก็ทำผิดพลาดไม่ได้ และไม่ว่าท่านเซียนจะเอ่ยอะไรกับพวกเขา พวกเขาจำต้องไตร่ตรองซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ดี!
“ท่านผู้เฒ่ารู้หรือไม่ว่าตู้เย็นคือสิ่งใด?”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนถามผู้เฒ่าเมิ่งจีด้วยความเคารพ
เขาครุ่นคิดแล้วครุ่นคิดเล่าก็ยังไม่เข้าใจ ‘ตู้เย็น’ ที่ท่านเซียนเอ่ยถึงคือสิ่งใดกัน…
ป้องกันให้ของสดไม่เน่าเสีย…ขอบเขตกว้างเกินไป เขาไม่รู้เลยว่ามันคือสิ่งใด
“เห็นลูกแก้วในห้องโถงของนายท่านหรือไม่?”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีถามขึ้นมา
“ย่อมเห็น!”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนพยักหน้า และเอ่ยด้วยความชื่นชม “สมกับเป็นนายท่าน ช่างร้ายกาจยิ่งนัก ลูกแก้วเซียนเพลิงหิมพานต์ในข่าวลือ…ที่แท้อยู่ในมือของนายท่าน!”
ลูกแก้วเซียนเพลิงหิมพานต์ ลือกันว่ามันเป็นสมบัติอันล้ำค่าในแดนเซียน แต่เมื่อเห็นมันถูกท่านเซียนวางสะเปะสะปะไว้ในห้องโถง ตอนนั้นเขาหวาดกลัวจนฉี่แทบราด
“ก่อนหน้านี้ นายท่านให้คำสั่งข้ามาหนึ่งอย่าง ข้าจึงบอกเจ้านิกายของข้า เขานำมันออกมาจากซากปรักหักพังของราชวงศ์อวี่ฮว่า นายท่านเรียกมันว่า ‘เครื่องปรับอากาศ’ และมันเป็นของใช้ทั่วไปในบ้านเกิดของนายท่าน…”
“ของใช้…!”
ลูกตาของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนที่มองลูกแก้วเซียนเพลิงหิมพานต์แทบจะถลนออกมาอยู่แล้ว ทว่าของสิ่งนี้กลับกลายเป็นของใช้ทั่วไปในคำพูดของท่านเซียน…ขอบเขตของท่านเซียนช่างเกินจินตนาการนัก!
“ปรากฏว่าคือเจ้านิกายของผู้เฒ่าที่เป็นผู้เข้าไปในนั้นงั้นหรือ!”
ท่านประมุขเผยสีหน้าประหลาดใจทันที หากไม่ได้ผู้เฒ่าเมิ่งจีบอกเขาเรื่องนี้ เขาคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสมบัติในซากปรักหักพังของราชวงศ์อวี่ฮว่าคืออะไร
ที่แท้ก็คือลูกแก้วเซียนเพลิงหิมพานต์!
มิแปลกใจเลยว่า เหตุใดยอดฝีมือมากมายของราชวงศ์อวี่ฮว่าถึงกล้าเอ่ยว่า ทั้งราชวงศ์ของพวกเขาจะก้าวเข้าสู่หนทางเซียน!
นอกจากนี้ เขายังเข้าใจว่าเหตุใดราชวงศ์อวี่ฮว่าถึงถูกกำจัด
เป็นเพราะกองกำลังที่กวาดล้างราชวงศ์อวี่ฮว่านั้น มุ่งเป้ามายังลูกแก้วเซียนเพลิงหิมพานต์ที่ราชวงศ์อวี่ฮว่าครอบครอง!
นึกมาถึงตรงนี้ ร่างของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนพลันสั่นสะท้านขึ้นมา เมื่อนานมาแล้วเคยมีกองกำลังอันน่าสะพรึงกลัวที่มิอาจจะจินตนาการได้อยู่
ราชวงศ์อวี่ฮว่าแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ทว่าสุดท้ายแล้วยังคงถูกกวาดล้างจนสิ้น…