รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 130 รอเดี๋ยว วันนี้มากินเนื้อแกะย่างเสียบไม้กันเถอะ!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 130 รอเดี๋ยว วันนี้มากินเนื้อแกะย่างเสียบไม้กันเถอะ!
“ดูเหมือนว่าเจ้าไม่ได้ละเมิดข้อห้ามของนายท่าน”
ลั่วสุ่ยยิ้มเยาะกล่าว “หากเจ้าละเมิดข้อห้ามของนายท่าน นายท่านคงไม่พาเจ้ากลับมา”
“อย่าลืมเสีย อยู่ต่อหน้านายท่านไม่ว่าจะทำอะไรหรือพูดอะไร เจ้าต้องไตร่ตรองครั้งแล้วครั้งเล่า อย่าพูดจามั่วซั่วก่อเรื่องวุ่นวายให้นายท่านเด็ดขาด!”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีกล่าวอย่างเคร่งขรึม “นี่ถือได้เป็นโชคครั้งใหญ่ของเจ้า ข้าหวังว่าเจ้าทะนุถนอมเห็นค่าให้มาก ตั้งใจคว้าโอกาสนี้เอาไว้!”
เขาชื่นชอบเด็กหนุ่มสือเฟิงผู้นี้จริง ๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล่าวอะไรกับสือเฟิงมากมายถึงเพียงนี้
หลังจากนั้นเมิ่งจีก็สอนให้สือเฟิงระวังระมัดอีกหลายเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น อย่าร้องขอสิ่งของจากท่านเซียน
“หากนายท่านให้ นั่นคือรางวัลที่นายท่านประทานให้เจ้า หากเจ้าร้องขอนายท่าน จากเดิมที่ควรได้สิ่งนี้ก็จะไม่ได้อีกต่อไป ซ้ำยังแตกต่างไปจากสิ่งเดิมโดยสิ้นเชิง…”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีมองสือเฟิงกล่าว “เจ้าเข้าใจเรื่องนี้ใช่หรือไม่?”
“เข้าใจแล้วขอรับ!”
สื่อพยักหน้า เข้าใจความหมายของผู้เฒ่าเมิ่งจีที่ต้องการบอกอย่างแจ่มแจ้ง
ร้องขอคือความโลภ และสิ่งที่ควรได้ก็จะไม่ได้อีกต่อไป
…
หลี่จิ่วเต้าเข้าเมืองมาซื้อของในตลาดสด เขาซื้อเนื้อแกะกับผักจำนวนหนึ่ง เพราะวันนี้วางแผนจะทำเนื้อแกะเสียบไม้ย่าง
เนื้อแกะเสียบไม้ย่างเป็นอาหารทานเล่นอันโด่งดังในดาวเคราะห์สีฟ้ามาก เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมในดาวเคราะห์สีฟ้า ในฤดูร้อนบนท้องถนนจะตลบอบอวลด้วยกลิ่นหอมของเนื้อย่างกับเบียร์
‘ฤดูร้อนแล้ว…ถ้ามีเบียร์สักกระป๋องสองกระป๋องด้วยก็คงจะดียิ่ง!’
หลี่จิ่วเต้าอดคิดในใจอย่างไม่ได้
เขารู้วิธีหมักเบียร์ แต่น่าเสียดายที่ว่าเขาไม่มีตู้เย็น เพราะถึงแม้ว่าจะหมักเบียร์ออกมาแล้ว มันก็ไม่สามารถเก็บรักษาไว้ได้อยู่ดี
โชคดีที่ในบ้านมีสุราชนิดอื่นอยู่ พวกนั้นก็เป็นสุราที่เขาหมักเองเช่นกัน ทานคู่กับเนื้อแกะเสียบไม้ก็ถือว่าไม่เลว
‘กลับกันเถอะ…’
ชายหนุ่มเดินถือเนื้อแกะกับผักกลับมาที่บ้านอย่างพึงพอใจ
“นายท่าน!”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีรับเนื้อแกะกับผักมาจากมือท่านเซียน ก่อนจะนำเข้าไปในห้องครัว
ไม่เลว…
หลี่จิ่วเต้าพอใจกับผู้เฒ่าเมิ่งจีเป็นอย่างยิ่ง ผู้เฒ่าไม่ใช่คนเกียจคร้าน อันที่จริงอีกฝ่ายขยันมาก เขามักจะทำความสะอาดลานบ้านเสมอ ทั้งปัดกวาด เช็ดโต๊ะ เก้าอี้ รวมถึงงานจิปาถะต่าง ๆ โดยไม่หยุดหย่อน
หากไม่ใช่ว่าตนมีอุปนิสัยรักสันโดษ ชอบความเงียบสงบ การให้ผู้เเฒ่าเมิ่งจีอยู่ที่นี่ตลอดไปก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว
“นายท่านช่างร้ายกาจจริง ๆ ขอรับ ฝีมือแกะสลักวาดภาพของนายท่านช่างมหัศจรรย์เหลือเกินขอรับ!”
สือเฟิงได้รับคำชี้แนะจากผู้เฒ่าเมิ่งจีแล้ว เขารู้แล้วว่าควรเรียกขานท่านเซียนว่าอย่างไร
“ไม่ได้ร้ายกาจถึงเพียงนั้นหรอก…”
หลี่จิ่วเต้าแย้มยิ้มพลางกล่าวอย่างถ่อมตัว ย้ำกับตนเองในใจว่านอกจากมีพละกำลังเหนือปุถุชนทั่วไปแล้ว งานอดิเรกทั่วไปของเขาก็ไม่ต่างอะไรเลยจากปุถุชนธรรมดาเลย
เซี่ยเหยียน ผู้เฒ่าเวิง ผู้เฒ่าโจว ผู้เฒ่าลวี่ ยังมีผู้เฒ่าอวิ๋น รวมถึงสหายของผู้เฒ่าอวิ๋นด้วย พวกเขาล้วนเป็นผู้ฝึกตนแต่ก็มีสิ่งที่คล้ายกับปุถุชนคนทั่วไป ทั้งชื่นชอบกู่ฉินและวาดภาพเป็นงานอดิเรก
มาตอนนี้ยังมีสือเฟิงอีกคน!
‘อืม ถึงผู้ฝึกตนจะร้ายกาจเพียงใดแต่ล้วนเคยเป็นปุถุชน ก่อนจะบำเพ็ญขึ้นมาเป็นผู้ฝึกตน’
หลี่จิ่วเต้าครุ่นคิด ไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด เขาก็คิดเช่นกันว่าผู้ฝึกตนแรกเริ่มก็เป็นเหมือนกับมนุษย์ทั่วไป
“คุณชายสือ วันนี้มากินเนื้อแกะเสียบไม้กันเถอะ”
หลี่จิ่วเต้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว
กับเรื่องกินแล้วเขาเป็นคนจู้จี้จุกจิกมาก ออกไปกินอาหารนอกบ้านแบบนับครั้งได้ นี่เพราะชอบทานอาหารที่ทำเองและไม่ชอบอาหารที่ผู้อื่นทำเสียเท่าไหร่
เนื้อแกะของเถ้าแก่เพิ่งจะเชือดมาสด ๆ เนื้อจึงสดใหม่เป็นอย่างยิ่ง ชายหนุ่มหั่นเนื้อแกะออกเป็นชิ้น ๆ จากนั้นจึงปรุงรสก่อนจะนำไปหมักเกลือต่อ
สือเฟิงมองภาพท่านเซียนจากข้างนอกด้วยสายตาโง่งม
เพียงท่านเซียนใช้มีดทำครัวหั่นเนื้อแกะ กลับปรากฏการเคลื่อนไหวที่ชวนให้ผู้คนตกใจยิ่ง มิหนำซ้ำยังแฝงไปด้วยจังหวะแห่งเต๋าขั้นสูงอีก!
หากมีผู้ฝึกตนฝึกวิถีกระบี่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ เขาย่อมเก็บเกี่ยวได้ครั้งใหญ่ และตระหนักในวิถีกระบี่ชั้นยอดอย่างแน่นอน!
หลังจากหมักเนื้อแกะเสร็จแล้ว หลี่จิ่วเต้าก็หยิบผักมาล้าง ตามด้วยหยิบไม้ออกมาเสียบผักสด
สำหรับไม้เสียบเขาตระเตรียมมันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
เพราะตอนอยู่บนดาวเคราะห์สีฟ้าเขาชอบกินบาร์บิคิวเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมาที่โลกแห่งการฝึกตนแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ลืมความกลมกล่อมของรสบาร์บิคิวที่เคยกินมาหลายครั้ง
ไม่เพียงแต่ไม้เสียบ ทว่ายังมีชั้นวางบาร์บีคิวที่เขาทำด้วยตัวเอง รวมถึงถ่านไม้และเครื่องเทศปรุงรสบาร์บิคิวด้วย
“…”
หลังจากเห็นไม้เสียบ สือเฟิงไม่รู้ว่าตนควรจะกล่าวคำว่าอะไรออกมาดี…
บนไม้เสียบมีแม้กระทั่งจังหวะแห่งจักรพรรดิเคลื่อนไหว ซ้ำแล้วไม้เสียบปิ้งย่างแต่ละไม้ยังสามารถเป็นอาวุธจักรพรรดิได้!
อาวุธจักรพรรดิไม่ใช่ของสามัญ มันยากจะสร้างขึ้นได้ แม้แต่มหาจักรพรรดิยังมิอาจสร้างอาวุธจักรพรรดิออกมา แต่ท่านเซียนตรงหน้าเขากลับไม่เป็นเช่นนั้น!
ไม้เสียบเกือบร้อยไม้ แต่ละไม้นับเป็นอาวุธจักรพรรดิ…
นี่มันขู่ขวัญผู้คนเกินไปแล้ว!
ที่สำคัญคืออาวุธจักรพรรดิเหล่านี้ไม่นับว่ามีค่าอันใดเลยในสายตาของท่านเซียน เพราะท่านเซียนใช้อาวุธจักรพรรดิเป็นไม้เสียบผักธรรมดา!
นับตั้งแต่โบราณกาล ใครเล่าจะสามารถทำเรื่องดูหมิ่นเช่นนี้ได้?
เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าจะมีผู้ใดทำเรื่องเช่นนี้ได้!
แม้แต่เหล่าผู้มีชื่อเสียงระบือนาม ยอดมหาจักรพรรดิโบราณล้วนมิอาจทำได้ ไม่มีทางทำเรื่องดูหมิ่นขนาดนี้ได้…
ท่านเซียนก็คือท่านเซียน ช่างยากจะเอาไปเทียบได้กับมหาจักรพรรดิ!
อาวุธจักรพรรดิในสายตาของพวกเขาเป็นเป็นอาวุธชั้นยอด แต่ในสายตาท่านเซียน มันเป็นเพียงสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่มีค่าใดเลย!
สือเฟิงครุ่นคิดในใจ
หลี่จิ่วเต้าล้างผักและเสียบผักใส่ไม้แล้ว ทั้งหมดเป็นเขาทำด้วยตนเองโดยไม่ได้ขอให้ผู้เฒ่าเมิ่งจีช่วย
เรื่องเกี่ยวกับอาหาร เขามีข้อแม้เยอะจึงไม่ชอบให้ผู้อื่นเข้ามาช่วยเหลือ
หลังจากเสียบผักเสร็จแล้ว หลี่จิ่วเต้าก็เดินออกจากครัว
“วันนี้ข้าจะเปลี่ยนรสชาติให้เจ้านะ…”
หลี่จิ่วเต้าบอกวิฬาร์ตัวน้อย วันนี้เขาไม่อยากให้แมวขาวตัวน้อยกินปลาตุ๋น แต่อยากให้มันกินปลาย่าง
“เหมียว~”
ลั่วสุ่ยส่งเสียงร้องด้วยความดีใจ ถูไถขาของหลี่จิ่วเต้าอย่างประจบสอพลอ
‘เลี้ยงดีขนาดนี้ อ้วนกว่าเดิมมากแล้ว’
หลี่จิ่วเต้าแย้มยิ้มอยู่ในใจ ตอนนี้ลั่วสุ่ยอ้วนขึ้นกว่าตอนเพิ่งมามาก พิสูจน์ได้ว่าเขาเลี้ยงดูแลอย่างดี
จากนั้นชายหนุ่มก็เดินไปที่ลานบ้าน จับปลาตัวหนึ่งออกมาจากโอ่ง ก่อนนำมันไปที่ห้องครัว
“มัจฉาจอมโหดจากอาณาจักรเก้าตอนบน!”
สือเฟิงที่เห็นภาพนั้นพลันตกตะลึงอึ้งค้าง อีกทั้งใบหน้ายังเต็มไปด้วยความประหลาดใจยิ่ง คิดไม่ถึงเลยว่าปลาที่ท่านเซียนจับขึ้นมาจากโอ่ง จะบังเอิญเป็นมัจฉาจอมโหดจากอาณาจักรเก้าตอนบน!
จากนั้นเขาก็มองเข้าไปในโอ่งน้ำ…
ทั้งหมดล้วนเป็นมัจฉาจอมโหดจากอาณาจักรเก้าตอนบน!
อาณาจักรเก้าตอนบนนั้นอยู่เหนือสวรรค์และผืนพิภพ เป็นที่รู้จักกันว่า เป็นอาณาจักรที่อยู่ติดกับแดนเซียนมากที่สุด ทว่าเผ่ามัจฉาจอมโหดกลับประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้… ลือกันว่าพวกเขามีกองกำลังรบระดับมหาจักรพรรดิอยู่นับไม่ถ้วน ซ้ำยังสามารถกวาดล้างสวรรค์ทั้งเก้าได้!
แต่สำหรับท่านเซียนผู้นี้ มัจฉาจอมโหดจากอาณาจักรเก้าตอนบนกลับเป็นได้เพียงวัตถุดิบทำอาหาร…
‘มิแปลกใจเลยว่าเหตุใดข้าจึงสัมผัสได้ถึงพลังของพยัคฆ์ขาวจากลั่วสุ่ย… กินปลาเช่นนี้ทุกวัน ไม่แน่ว่าลั่วสุ่ยอาจพัฒนาเป็นพยัคฆ์ขาวไปแล้ว!’
สือเฟิงเอ่ยอย่างอิจฉาอยู่ในใจ
เขารู้ว่าเผ่าวิฬาร์หิมะสวรรค์มีสายเลือดของอสูรร้ายบรรพกาลทั้งสิบอย่างพยัคฆ์ขาวอยู่ และอสูรร้ายบรรพกาลทั้งสิบเมื่อเปรียบกับมหาจักรพรรดิเกรงว่าจะน่าหวาดกลัวยิ่งกว่า!
ร่ำลือกันว่าในสมัยโบราณกาล อสูรร้ายบรรพกาลทั้งสิบสามารถสังหารมหาจักรพรรดิได้ตามใจปรารถนา และเป็นตัวตนที่ยากจะต่อกรอย่างแท้จริง!
‘วิวัฒนาการเป็นพยัคฆ์ขาว? ข้าเกรงว่าจะยังห่างไกลจากสิ่งนั้น!’
เด็กหนุ่มเอ่ยในใจอย่างอดไม่ได้อีกครั้ง
สายเลือดมัจฉาจอมโหดจากอาณาจักรเก้าตอนบน ย่อมแข็งแกร่งกว่าสายเลือดของพยัคฆ์ขาวอย่างไม่ต้องสงสัย
ถึงกระนั้น ไม่ว่าพยัคฆ์ขาวจะแข็งแกร่งเพียงใด พวกเขาก็จะอาศัยอยู่แต่ในโลกของพวกเขาเท่านั้น หากให้ย่างก้าวเข้าสู่อาณาจักรเก้าตอนบน พยัคฆ์ขาวย่อมมิอาจทำได้!
ณ ที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้คืออาณาจักรตอนล่าง ส่วนอาณาจักรเก้าตอนบนอยู่เหนืออาณาจักรตอนล่างของพวกเขาไปอีก ทั้งยังห่างไกลกันยิ่ง!
ลั่วสุ่ยกินมัจฉาของอาณาจักรเก้าตอนบนทุกวัน ย่อมต้องกลายเป็นพยัคฆ์ขาวได้อย่างแน่นอน…