รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 143 สมบัติล้ำค่าแม้จะเป็นสิ่งที่ดี แต่ชีวิตนั้นสำคัญกว่า!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 143 สมบัติล้ำค่าแม้จะเป็นสิ่งที่ดี แต่ชีวิตนั้นสำคัญกว่า!
เจดีย์เก้าโอภาสส่องประกายระยิบระยับเจิดจ้า หยวนเซิ่งยืนอยู่หน้าร่างประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน พร้อมกับรวบรวมพลังของเจดีย์เก้าโอภาสทั้งหมดเอาไว้
เขาคาดเอาไว้แล้วกองกำลังลับเหล่านี้ไม่กล้าลงมือง่าย ๆ แน่
แต่เขายังคงเป็นกังวล กองกำลังลับเหล่านี้อยากลองเสี่ยง เขาย่อมไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย
ยังดี… ผู้ฝึกตนกับสัตว์อสูรที่เข้าไปข้างในถูกประมุขศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจับเอาไว้แล้ว อาวุธศักดิ์สิทธิ์ อาวุธราชันศักดิ์สิทธิ์ อาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้อยู่ในมือของยอดฝีมือด้านนอก
แต่หากกองกำลังลับเหล่านี้อยากจะเสี่ยงจริง ๆ เขาเองก็ใช่ว่าจะต่อกรไม่ได้
‘ร่างวัชระมีความสามารถถึงเพียงนี้เลยหรือ?’
ในใจของเขาไม่อยากเชื่อเลย ความแข็งแกร่งประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน…นับว่าเหนือความคาดหมายของเขายิ่ง!
อาวุธศักดิ์สิทธิ์ อาวุธราชันศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่อาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ที่พวกผู้ฝึกตนนำเข้าไป สุดท้ายกลับถูกประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจัดการทั้งหมด เรื่องนี้ทำให้เขาคาดไม่ถึงเลยจริง ๆ
แต่ไม่ว่าร่างวัชระจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ย่อมมีขีดจำกัด อาวุธราชันศักดิ์สิทธิ์กับอาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สามารถเป็นภัยคุมคามยิ่งใหญ่ต่อร่างวัชระอย่างแน่นอน!
ดูเหมือนประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจะไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เขาคิด!
“คำอธิบาย พวกเจ้าอยากได้คำอธิบายอันใดกัน?”
หยวนเซิ่งมองกลุ่มกองกำลังลับเบื้องหน้า ก่อนจะยิ้มเยาะพลางกล่างอย่างเย็นชา “ทุกท่านเข้าแดนลับก็เพื่อจะแย่งชิงสมบัติวิเศษ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง!”
กลุ่มกองกำลังต่างขบกรามแน่น หยวนเซิ่งนับว่ากล่าวถูกต้องแล้ว!
แย่งชิงสมบัติทั้งหมดขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง…
แต่พวกเขาไม่ยินยอม!
ผู้ฝึกตนกับสัตว์อสูรที่เข้าไปล้วนถูกประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนจัดการ เห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกตนกับสัตว์อสูรเหล่านี้ไม่ได้อะไรกลับมาจากแดนลับเลย
เป็นประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนที่ได้ผลประโยชน์ทั้งสิ้น!
หากเป็นสมบัติธรรมดาก็แล้วไปเถอะ แต่นี่เป็นสมบัติวิเศษเกี่ยวกับกาลเวลา นับเป็นสมบัติล้ำค่าหายากอย่างยิ่งเหนือขอบเขตจินตนาการ พวกเขาไม่อยากวางมือเช่นนี้จริง ๆ!
ไม่เช่นนั้น พวกเขาคงจากไปนานแล้ว ไม่อยู่ที่แห่งนี้และเผชิญหน้ากับหยวนเซิ่งหรอก
ถึงอย่างไร สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดก็คือการเปิดเผยตัวตน!
การเผชิญหน้ากันเช่นนี้ราวกับกำลังเล่นกับไฟอย่างไม่ต้องสงสัย!
“เรื่องแดนลับแห่งนี้ พวกข้าเตรียมการกันมานาน มาตอนนี้จะให้พวกข้ากลับไปโดยไม่ได้อะไรเลย หยวนเซิ่งหากเป็นเจ้า เจ้าคิดว่ามันดีหรือไร?”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมากเพียงใด? ในช่วงหลายปีมานี้ ร่างกายของพวกเขาถูกเคี่ยวกรำด้วยวิธีการอันโหดร้ายทุกวัน สุดท้ายคนที่เข้าไปกลับถูกจับมัดเอาไว้หมด เรื่องพวกนี้ที่อยู่ตรงหน้า เจ้าว่ามันแล้วกันไปเถอะได้หรือ!?”
พวกเขาตะโกนอย่างเย็นชา และยังคงไม่ยอมจากไปเช่นเดิม
พวกเขาไม่ยินยอมอย่างยิ่ง!
สำหรับแดนลับแห่งนี้ พวกเขาทุ่มเทไปมากจริง ๆ
ผู้ฝึกตนเข้าสู่แดนลับ ทุกวันคืนจำต้องเคี่ยวกรำร่างกายตัวเองเพื่อจะได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในแดนลับ
ทว่าตอนนี้กลับไม่ได้รับสิ่งใดเลย แล้วพวกเขาจะยินยอมได้อย่างไร?
หากไม่ใช่เพราะว่ายอดฝีมือของพวกเขาไม่มีอาวุธวิเศษอยู่ในมือ และหยวนเซิ่งถืออาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อยู๋ พวกเขาคงสังหารอีกฝ่ายไปก่อนหน้านี้แล้ว!
“พวกเจ้าต้องการอันใด?”
หยวนเซิ่งมองกองกำลังลับเหล่านี้พลางกล่าวถาม “ก่อนหน้านี้พวกเจ้าแอบลอบสังหาร ข้าก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับพวกเจ้า มาตอนนี้การแย่งชิงแดนลับสิ้นสุดลงแล้ว พวกเจ้ายังอยากจะเล่นกับไฟอยู่อีกหรือ?”
หากเปิดสงครามกันที่นี่ มันจะไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป
และเมื่อตัวตนของพวกเขาถูกเปิดเผย ผลลัพธ์ที่รอพวกเขาอยู่นั้นร้ายแรงมากอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงตอนนั้นพวกเขาคงยากจะรอดพ้นหายนะได้!
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนคาดเดาได้ถูกต้อง
หายนะในสมัยโบราณกาลยังไม่สิ้นสุด และยังมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง!
กองกำลังลับเหล่านี้ตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี
เร้นกายไม่เปิดเผยตัวตน พวกเขาย่อมยังมีทางรอด
หากถูกเปิดเผยตัวตน พวกเขานับว่าถูกลิขิตไว้ให้มิอาจหลีกหนี ซ้ำยังต้องเข้ามาพัวพัน!
เมื่อถึงเวลานั้น ผลที่ตามมานับว่ามิอาจจินตนาการได้เลยจริง ๆ!
พวกเขารู้ดีว่าหายนะที่จะตามมานั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด!
“จำไว้ สมบัติล้ำค่าแม้จะเป็นสิ่งที่ดี แต่ชีวิตนั้นสำคัญกว่า! ”
หยวนเซิ่งตะโกนเสียงดัง
หลังจากพูดจบ เขาก็หันไปมองประมุขศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน “พวกเราไปกันเถอะ!”
“ไปสิ”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนพยักหน้า ส่งกลุ่มผู้ฝึกตนกับสัตว์อสูรที่ถูกแส้จักรดิพรรดิศักดิ์สิทธิ์มัดเอาไว้มาให้หยวนเซิ่ง และปล่อยให้หยวนเซิ่งจัดการความเป็นความตายของผู้ฝึกตนกับสัตว์อสูรเหล่านี้
เหตุใดหยวนเซิ่งจะไม่เข้าใจความหมายของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนอยากให้เขาใช้ชีวิตของผู้ฝึกตนกับสัตว์อสูรเหล่านี้ ขู่ขวัญพวกกองกำลังลับไม่ให้กระทำบุ่มบ่าม
‘ช่างเจ้าเล่ห์นัก!’
หยวนเซิ่งครุ่นคิดในใจ
“ทุกท่าน การแย่งชิงสมบัติในแดนลับจบลงแล้ว ขอทุกท่านอย่าเสี่ยงทำพลาดไปมากกว่านี้ รอพวกข้ากลับถึงลัทธิ ข้าขอรับประกันว่าพรรคพวกของทุกท่านจะกลับไปอย่างปลอดภัยแน่นอน และไม่ว่าจะเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ อาวุธราชันศักดิ์สิทธิ์ อาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ข้าเองก็จะคืนให้พวกท่านครบทุกชิ้น!”
หยวนเซิ่งพูด ขณะที่มองกลุ่มกองกำลังตรงหน้า
เขาเข้าใจอีกทั้งยังจัดการเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
พอกล่าวถึงอาวุธศักดิ์สิทธิ์ อาวุธราชันศักดิ์สิทธิ์ อาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะได้รับคืนไป เรื่องต่าง ๆ ก็จัดการได้ง่ายขึ้น
สุนัขจนตรอก ขอเพียงให้ประโยชน์กับพวกเขา เรื่องต่าง ๆ ย่อมสามารถจัดการได้
“เจ้า! “
กองกำลังลับจ้องหยวนเซิ่งอย่างกินเลือดกินเนื้อ พวกเขากัดฟันแน่น ปรารถนาจะกินหยวนเซิ่งทั้งเป็น
แต่สุดท้ายพวกเขาก็เลือกที่จะปล่อยวาง
หากเปิดเผยตัวตนขึ้นมาจริง ๆ ผลที่ตามมาย่อมร้ายแรงอย่างยิ่ง นอกจากนี้พวกเขายังไม่แน่ใจอีกด้วยว่าจะสามารถเอาชนะหยวนเซิ่งได้
ถึงอย่างไร หยวนเซิ่งก็มีอาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง ขณะที่พวกเขาไม่มีอาวุธวิเศษจะเอาไปต่อกรอีกฝ่ายได้
เหตุการณ์จบลงเช่นนี้ จากนั้นหยวนเซิ่งก็พาประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกลับไป
หยวนเซิ่งไม่กล้าหยุดพักแม้แต่น้อย เขาพาประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนออกมาอย่างรวดเร็ว และไม่นานก็กลับถึงลัทธิไท่เสวียน
ก่อนเข้าไปประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนแอบบีบลูกแก้วแมลงบุตรให้แตก
นี่คือสิ่งที่เขาเตรียมไว้เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว
หลังจากบีบลูกแก้วแมลงบุตรแล้ว ลูกแก้วแมลงมารดาจะได้รับแรงกระตุ้น จากนั้นมันก็จะเริ่มค้นหาลูกของมัน!
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงกล้าตามหยวนเซิ่งเข้าไปในลัทธิไท่เสวียนอย่างไร้กังวล
เพราะหยวนเซิ่งยังไม่รู้ว่าเขาบีบลูกแก้วแมลงบุตรไปแล้ว
“ท่านประมุขท่านร้ายกาจยิ่งนัก!”
เมื่อกลับมาถึงลัทธิไท่เสวียน หยวนเซิ่งก็วางใจในที่สุด เขามองประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“แค่โชคดีเท่านั้น มิได้ร้ายกาจอันใดหรอก”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนแย้มยิ้มหยิบอาวุธศักดิ์สิทธิ์ อาวุธราชันศักดิ์สิทธิ์ และอาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ที่เขาได้มาจากผู้ฝึกตนเหล่านั้นออกมา “ของทั้งหมดอยู่นี้แล้ว ข้ามิได้เก็บเอาไว้แม้แต่ชิ้นเดียว”
เขาไม่ได้อยากครอบครองอาวุธเหล่านี้
ในใจของเขา คำสั่งของท่านเซียนสิ่งสำคัญที่สุด!
“ท่านประมุขหาใช่คนธรรมดาจริง ๆ!”
หยวนเซิ่งมองประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนด้วยแววตาอ่านไม่ออก
ไม่เก็บเอาไว้เลยสักชิ้น รวมถึงอาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนช่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญไม่น้อยเสียจริง ๆ!
หากเป็นกองกำลังข้างนอก ไม่ต้องพูดถึงอาวุธจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ แค่เพียงอาวุธราชันศักดิ์สิทธิ์ก็ถือได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างยิ่งแล้ว
ทว่าประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกลับไม่เห็นพวกมันอยู่ในสายตา และเขาก็หยิบมันออกมาทั้งหมด!
นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะทำได้!
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนเผยรอยยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “ข้าเข้าใจตนเองเป็นอย่างดี…”
จากนั้นเขาก็หยิบกองผลึกใสเล็ก ๆ ออกมา
เมื่อหยวนเซิ่งเห็นกองผลึกใสเล็ก ๆ ดวงตาของเขาก็แทบมิอาจเก็บอาการเอาไว้ได้
พลังที่ไหลเวียนอยู่ในผลึกใสพวกนี้ช่างเปี่ยมไปด้วยความมหัศจรรย์ชวนให้ผู้คนตกใจยิ่งนัก!
หากเขาสามารถเก็บมันไว้ข้างกายและศึกษามิติกาลเวลาในผลึกใสเล็ก ๆ พวกนี้ เขาย่อมตระหนักรู้ถึงพลังแห่งกาลเวลาได้อย่างมิต้องสงสัย!
พลังแห่งกาลเวลา!
หัวใจของหยวนเซิ่งเต้นแรงไม่อาจหยุดความฮึกเหิมตื่นเต้นนี้ได้
หากเขาสามารถเข้าใจพลังแห่งกาลเวลาได้จริง ๆ ในอนาคตเขาย่อมบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ กระทั่งไม่อาจจินตนาการได้อย่างแน่นอน!