รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 189 หนึ่งก้าวสู่ความตาย หนึ่งก้าวสู่ทางรอด!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 189 หนึ่งก้าวสู่ความตาย หนึ่งก้าวสู่ทางรอด!
ยากจริง ๆ ด้วย…
หลังหลี่จิ่วเต้าได้เห็นตาเดินหมากที่ค้างไว้บนกระดาน ก็ขมวดคิ้วเบา ๆ อย่างอดไม่ได้
ด้านที่จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงอยู่นั้นเป็นฝ่ายหมากดำ ส่วนด้านหมากขาวมีแนวโน้มชนะขาดลอย หมากดำแทบไม่มีทางชนะได้เลย!
ต่อให้เขามีฝีมือการเล่นหมากเลิศล้ำ เมื่อเจอกับตาเดินเช่นนี้ก็รู้สึกลำบากอยู่พอสมควร จะให้หมากดำชนะไม่ง่ายเลย
ทว่าเขามิใช่คนธรรมดา ฝีมือการเล่นหมากนั้นอยู่ใน ‘ขั้นเทวะ’ หลังจากจำลองเดินหมากกระดานนี้ในหัวอยู่สองสามรอบ เขาก็หาทางแก้กระดานได้
ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม “ท่านผู้เฒ่า ให้ข้าลองเดินหมากดูดีหรือไม่?”
เดิมทีจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงประหม่าอย่างยิ่งยวด แต่เมื่อได้ยินวาจาของหลี่จิ่วเต้าก็งุนงงไปในบัดดล
เดินหมากหรือ…?
ท่านเซียนหมายความว่าอย่างไร?
รู้ว่าเขามาจากแดนสังสารวัฏก็น่าจะปลิดชีพเขาทันทีเลยมิใช่หรือ
ถึงอย่างไรที่สังหารทูตสังสารวัฏไปก่อนหน้าก็เป็นการแสดงจุดยืนชัดเจนแล้วว่า หากหาญกล้ามาเยือนที่นี่อีกต้องจ่ายด้วยชีวิต…
เขาไม่เข้าใจว่าท่านเซียนผู้นี้ต้องการสิ่งใด
หลี่จิ่วเต้าเห็นจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงเงียบไม่พูดจา คิดในใจไปว่าท่านผู้เฒ่าคนนี้คงเห็นว่าเขาอายุน้อย คิดว่าเขามั่วไปเรื่อยกระมัง
เขามิได้ใส่ใจนัก เพียงคลี่ยิ้มบางพร้อมกล่าว “หมากขาวดูเหมือนชนะขาดลอย หมากดำต้องพบเจอความพ่ายแพ้อย่างแน่นอน แท้จริงแล้วหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ชัยชนะอันยิ่งใหญ่แฝงไว้ซึ่งความพ่ายแพ้อย่างใหญ่หลวง ความพ่ายแพ้อย่างใหญ่หลวงแฝงไว้ซึ่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ หนึ่งก้าวนี้สู่ความตายก็ได้ สู่ชัยชนะก็ได้ หากหมากดำไม่ยอมละทิ้งบ้าง ย่อมไม่พบทางสว่าง มีแต่ต้องกล้าหาญยอมตัดแล้วทลายสู่หนทางใหม่ จึงจะได้รับชัยชนะ!”
เขาเดินไปอยู่ตรงกระดานหมาก หยิบหมากดำขึ้นมาเม็ดหนึ่ง จรดลงไป
ทันใดนั้น ตาเดินที่ใกล้จะจบเต็มทีกลับมาเล่นต่อได้อีกครั้ง หมากดำจากที่หมดสิ้นหนทางก็พบทางสว่าง แนวโน้มอันได้เปรียบของหมากขาวก็พังทลายไม่เหลือชิ้นดี
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงเห็นภาพนี้แล้วต้องอ้าปากค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ!
หลักวิถีของเขาเริ่มจากหมาก ฝีมือเดินหมากของเขาอยู่ในจุดสูงสุด เรียกได้ว่าไม่ว่าในอดีตหรืออนาคตล้วนไม่มีผู้ใดทัดเทียมได้!
ขณะที่เขาไม่อาจก้าวหน้าได้กว่าเดิม ไม่สามารถบรรลุต่อไปได้ ก็ได้แบ่งสมาธิออกเป็นสองฝ่าย เดินหมากปะทะตนเอง จนกลายเป็นตาเดินกระดานนี้
แม้นจะเป็นตาเดินช่วงสุดท้ายของกระดาน แต่ใช้คำว่าตาเดินไร้ทางออกอาจเหมาะกว่า
หมากขาวบีบคั้นหมากดำจนหมดหนทาง หมากดำไม่เหลือเส้นทางก้าวเดิน…
เขาเก็บรักษาตาเดินนี้ไว้
ในความคิดของเขา เขาสามารถคลี่คลายหมากกระดานนี้ได้เมื่อใด ก็จักสามารถทะลวงม่านกั้นขอบเขตมหาจักรพรรดิ และก้าวสู่ขอบเขตที่สูงกว่านั้น!
ทว่าจวบจนท้ายที่สุด แม้กระทั่งในช่วงเวลาหลายแสนปีที่แดนสังสารวัฏ เขาก็ไม่อาจคลี่คลายหมากกระดานนี้ได้
สิ่งที่เขาไม่คิดไม่ฝันคือ วันนี้… หมากกระดานนี้คลี่คลายลงแล้ว!
‘ท่านเซียน…กำลังชี้แนะข้า!’
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงมองตาเดินที่พลิกแพลงกลับมาเดินต่อได้ มองหมากดำที่ทลายวงล้อมหมากขาวและได้รับชัยชนะเต็มรูปแบบ หัวใจของเขาพลันสั่นสะท้าน
เป็นการสั่นสะท้านด้วยความตื้นตัน!
วิถีของเขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง!
วิถีของเขากลับมามีความหวังแล้ว!
ความรู้แจ้งปรากฏในหัวเขาเรื่อย ๆ หากเขาเรียบเรียงความรู้แจ้งเหล่านี้เข้าด้วยกันได้ เขาย่อมทะลวงม่านกั้น บรรลุสู่ขอบเขตที่สูงขึ้น!
ตอนนั้นเอง เขารีบหันมองท่านเซียนหมายจะกล่าวขอบคุณ กลับพบว่าท่านเซียนไม่อยู่ที่นี่แล้ว แต่เดินไปตกปลาอยู่อีกด้าน
เขาเห็นภายใต้ผืนน้ำเรียบนิ่งมีภาพสะท้อนจากทุกอาณาจักรในใต้หล้า เผ่าพันธุ์มัจฉานานัปการจากอาณาจักรต่าง ๆ ช่วงชิงเบ็ดตกปลากันอย่างไม่ยอมกัน!
ท่านเซียนกำลังตกปลาจากทุกอาณาจักรในใต้หล้า!
“ช่างมีฝีมือน่ากลัวยิ่ง! สมเป็นท่านเซียน! แม้แต่นายตำหนักทั้งเก้าแห่งแดนสังสารวัฏก็คงทำไม่ได้ขนาดนี้!”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงสะท้านใจเป็นที่สุด
หนึ่งเบ็ดเกี่ยวอาณาจักรทั้งปวง เบ็ดตกปลานั้นสามารถปรากฏในทุกอาณาจักรใต้หล้า เป็นที่ช่วงชิงของเผ่ามัจฉานานัปการ…
ผู้ใดสามารถปรากฏตัวในทุกอาณาจักรใต้หล้าพร้อมกันได้บ้าง?
เขาคิดไม่ออก…!
แม้แต่นายตำหนักผู้มีสถานะสูงส่งในแดนสังสารวัฏ พลังรบกล้าแกร่งสะท้านฟ้า ปกครองเส้นทางสังสารวัฏในอาณาจักรเก้าตอนบน เขาก็คิดว่าทำไม่ได้!
ฝีมือเยี่ยงนี้น่าตกใจยิ่ง!
ท่านเซียนกำลังตกปลาอยู่ เขาไม่กล้ารบกวนท่านเซียน
เดิมเขาตั้งใจตายอยู่ที่นี่ ให้หลุดพ้นกันเสียที
ชีวิตราวซากศพเดินได้นับแสนปีที่ผ่านมา เขาอยู่กับมันจนเอียนแล้ว
ระหว่างนั้น เขาเคยคิดฆ่าตัวตาย
ทว่าเขาทำไม่ได้
พลังสังสารวัฏในตัวเขาเป็นทั้งพลังปกป้อง และสิ่งพันธนาการ
พลังสังสารวัฏฉุดรั้งเขาไว้!
ต่อให้เขาฆ่าตัวตาย ก็ตายไม่ได้ พลังสังสารวัฏจะทำให้เขาฟื้นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
พลังสังสารวัฏเป็นพลังเช่นไร?
เขาไม่รู้
พลังสังสารวัฏลึกลับเป็นที่สุด ถือเป็นพลังแสนพิเศษอย่างยิ่งยวด
ที่เขาอยู่มาได้นับแสนปี ก็เพราะเขาได้รับมอบพลังสังสารวัฏ
พลังสังสารวัฏเป็นสิ่งที่คอยค้ำจุนเขาจนอยู่รอดมานานนับแสนปี!
ทว่าหลังจากท่านเซียนคลี่คลายตาเดินของเขา และชี้แนะเขาแล้ว เขาก็เปลี่ยนความคิดไป
นั่นคือ…ไม่อยากตายแล้ว!
วิถีของเขามีชีวิตอีกครั้ง เขาได้เห็นความหวังใหม่!
ไว้เขาเรียบเรียงการรู้แจ้งที่เกิดขึ้นได้และตรัสรู้อย่างแท้จริงแล้ว เขาจักทะลวงม่านกั้นขอบเขตมหาจักรพรรดิ และบรรลุสู่ขอบเขตที่สูงกว่า!
ตอนนั้น มันอาจทลายพันธนาการที่แดนสังสารวัฏทิ้งไว้ในตัวเขาได้ด้วย!
เขาสามารถมีอิสระ ไม่ต้องถูกแดนสังสารวัฏบงการอีกต่อไป!
‘ท่านเซียนไม่เพียงแต่ไม่ฆ่าข้า แต่ยังชี้แนะข้าด้วย ท่านเซียนหมายความว่าอย่างไร’
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงคิดในใจ
สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมมีเหตุผล ที่ท่านเซียนทำเช่นนี้ต้องมีเหตุผลแน่นอน!
เขาตรึกตรองอย่างละเอียด
อีกด้าน หลี่จิ่วเต้าไม่รู้ว่าหลังจากตนคลี่คลายตาเดินแล้ว จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงจะคิดอะไรต่อมิอะไรไปไกลขนาดนี้
เขาจดจ่ออยู่กับการตกปลา
ตัวแล้วตัวเล่า ไม่นานนักก็ตกได้เต็มตะกร้า
ชายหนุ่มหันมองจักรพรรดิหมากรุกหวงหลง พบว่าจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงกำลังก้มหน้าใจลอย
ช่างเป็นผู้ที่ชื่นชอบในหมากจริง ๆ
เกรงว่าตอนนี้คงยังใคร่ครวญการเดินหมากเมื่อครู่ของเขาอยู่
หลี่จิ่วเต้านึกขำในใจ ไม่คิดเข้าไปรบกวนจักรพรรดิหมากรุกหวงหลง เพียงแต่เก็บเครื่องมือตกปลา แบกตะกร้าขึ้น แล้วพาแมวน้อยสีขาวไปจากที่นี่
ขณะเดียวกัน จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงครุ่นคิดอย่างไรก็ไม่ตก ไม่เข้าใจเหตุผลที่ท่านเซียนทำเช่นนี้ เขาอยากถามกับท่านเซียน
แต่เมื่อเขาเงยหน้ามอง กลับพบว่าท่านเซียนไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว
“ท่านเซียน…ไปที่ใดแล้ว”
เขาลุกขึ้น หมายจะไปตามหาท่านเซียน
แต่เวลานั้น ก้านหลิวก้านหนึ่งพลันฟาดใส่หัวเขาอย่างแรง
“โอ๊ย เจ้าทำอะไร!”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงถลึงตาใส่ต้นหลิวอย่างโกรธเกรี้ยว ก้านหลิวที่หวดมาเมื่อครู่เกือบทำหัวเขาแตก!
“ข้าทำอะไรน่ะหรือ! ข้าหวดเจ้าที่ไร้สมองอย่างไรเล่า! ดูไม่ออกหรือว่าท่านเซียนกำลังท่องโลกมนุษย์ในฐานะปุถุชนอยู่!”
ต้นหลิวกล่าว
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงโมโหสุด ๆ เขาเพิ่งเคยพบหน้าท่านเซียนครั้งเดียว จะดูออกได้อย่างไรว่าท่านเซียนกำลังท่องโลกมนุษย์ในฐานะปุถุชน
เขาไม่รู้สึกถึงคลื่นพลังจากตัวท่านเซียนก็จริง
แต่ท่านเซียนอยู่ระดับใดกัน การที่เขาสัมผัสคลื่นพลังไม่ได้ก็มิใช่เรื่องปกติหรอกหรือ?
จะให้มองว่าท่านเซียนเป็นปุถุชนเพียงเพราะจับสัมผัสคลื่นพลังจากตัวท่านเซียนไม่ได้หรืออย่างไร!
อีกอย่าง…เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่รู้ว่าท่านเซียนกำลังท่องโลกมนุษย์ในฐานะปุถุชน?
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่รู้”
เขาถามอย่างไม่ยอม
“ข้าได้ยินเจ้าเรียกขานว่าท่านเซียนก็รู้แล้วว่าเจ้าไม่รู้”
ต้นหลิวกล่าว
หลังจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงได้ยินดังนั้น ก็โมโหจนแทบกระอักเลือด
“เจ้ากับก้อนหินก็เรียกขานท่านเซียนเช่นนี้เหมือนกันมิใช่หรือ”
บัดซบ พวกเจ้าเรียกได้ ข้ากลับเรียกไม่ได้ ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงเจ็บใจนัก!