รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 196 รากฐานของแดนสังสารวัฏน่ากลัวเหลือเกิน!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 196 รากฐานของแดนสังสารวัฏน่ากลัวเหลือเกิน!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
อย่างไรนายตำหนักก็ดุดันทรงพลัง บารมีจักรพรรดิแกร่งกล้าโถมทับ เขาแสดงวิชาชั้นยอดวิชาแล้ววิชาเล่า คลื่นพลังสยดสยองดั่งมหาสมุทรถาโถม จนกระดานหมากเริ่มสั่นไหวไม่มั่นคง
“แดนสังสารวัฏต่างหากที่กระจอก…งั้นหรือ?”
นายตำหนักหัวเราะพรืด “น่าขัน! สุดท้ายเจ้าก็เป็นเพียงแมลงตัวเล็ก ไม่รับรู้ถึงรากฐานและภูมิหลังที่แท้จริงของแดนสังสารวัฏ แดนสังสารวัฏน่ากลัวกว่าที่เจ้าคิดมากนัก!
เขายื่นมือข้างหนึ่งออกไป เรียกดาบยาวเล่มหนึ่งออกมา ชั่วขณะที่ดาบยาวฟาดฟัน มีลำแสงพิศวงพวยพุ่ง และเกลียวคลื่นพลังชวนผวา
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงขมวดคิ้ว นี่มันดาบอะไรกัน?
เขารู้สึกได้ว่าหลังจากดาบยาวเล่มนี้ฟาดฟันลงบนตัวอสูรพิฆาตโบราณ พลังของอสูรพิฆาตโบราณก็ลดฮวบลง!
“เจ้าคิดว่าเจ้าเอาชนะข้าได้หรือ น่าขันนัก ข้ามีดาบสังสารวัฏ สังหารได้แม้กระทั่งตี้จวิน!”
นายตำหนักน่ากลัวเกินไป ซ้ำดาบยาวในมือเขายังมีพลังเกินหยั่ง แม้แต่อสูรพิฆาตโบราณยังถูกเขาเข่นฆ่า!
เขาตวัดดาบยาวพุ่งไปหาจักรพรรดิหมากรุกหวงหลง
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงมิกล้าปะทะตรง ๆ เขาเอี้ยวตัวหลบ เว้นระยะห่างจากนายตำหนัก
ตามคาด
ดาบยาวเล่มนั้นมีความสามารถลดทอนกำลัง ต่อให้ไม่โดนฟัน เพียงกระทบโดนลำแสงที่พวยพุ่งออกจากดาบยาว พลังของตนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ถูกลดทอนลงไปอย่างรวดเร็ว!
นายตำหนักพุ่งเข้ามาถี่ ๆ ไม่ให้โอกาสจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงแม้แต่น้อย
ลำแสงสยดสยองจากดาบแผ่ซ่าน มิติที่ถูกสะกดเริ่มสั่นคลอนรุนแรง และมีวี่แววว่าจะโดนลำแสงดาบทลาย!
“ท่านคิดผิด!”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงมีสีหน้าเรียบสงบ “ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของข้าต่างหากคือบุคคลเกินหยั่งอย่างแท้จริง! ต่อให้แดนสังสารวัฏมีรากฐานน่ากลัวปานใด เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านผู้นั้น ก็น้อยนิดจนไม่ควรค่าแก่การพูดถึง!”
ท่านผู้นั้นคือท่านเซียนตัวจริง!
ต่อให้แดนสังสารวัฏแกร่งกล้าเพียงใด จะแกร่งกล้าเกินท่านเซียนหรือ?
เขาไม่เชื่อ!
“ข้าจะแสดงฝีมือที่แท้จริงของท่านผู้นั้นให้ท่านได้เห็น…”
จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงมีสีหน้าเย็นชา ปลดปล่อยพลังของตนออกมาเต็มรูปแบบ เร่งพลังตาเดินจตุรงค์จนถึงขีดสุด!
ชั่วขณะนั้นเอง ตาเดินทั้งหมดบนกระดานจตุรงค์มังกรอำพันราวกับมีชีวิตขึ้นมา จังหวะแห่งเต๋าสูงส่งไหลเวียน กฎแห่งวิถีหมากรุกพลันกลายเป็นกฎเดียวที่ดำรงอยู่ในปฐพีผืนนี้ และอยู่เหนือกฎทั้งปวง!
สิ่งใดคือเซียน?
ก่อนได้พบท่านเซียน จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงไม่ทราบ ในใจมีเพียงมโนทัศน์เลือนราง รู้แต่เพียงท่านเซียนนั้นทรงพลังกล้าแกร่ง
หลังได้พบท่านเซียน จักรพรรดิหมากรุกหวงหลงเข้าใจแล้วว่าเซียนที่แท้จริงเป็นอย่างไร!
ท่านเซียนจรดหมาก คลี่คลายตาเดินให้เขา ชี้แนะวิถีหมากรุกแก่เขา
ลมปราณของท่านเซียนหลงค้างอยู่บนกระดาน การรู้แจ้งของท่านเซียนหลงค้างอยู่บนตาเดิน!
ยามเขาตระหนักรู้ ถึงได้สะท้านใจเป็นอย่างมาก
ต้องมีวิถีหมากรุกสูงส่งเพียงใดกัน?
แม้กระทั่งมหาเต๋าแห่งหมากรุกยังไม่อาจแบกรับได้ไหว!
ระดับของท่านเซียนในวิถีหมากรุกข่มได้แม้กระทั่งมหาเต๋าแห่งหมากรุก!
โดดเด่นออกจากสามพันวิถี เหยียบย่ำสามพันวิถีไว้ใต้เท้า นี่แหละ ระดับของเซียน!
“อะไรนะ!”
นายตำหนักมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ราวกับได้เห็นภาพที่น่ากลัวที่สุดในโลก หัวใจสั่นสะท้านด้วยความหวาดหวั่น รู้สึกถึงภยันตรายถึงตาย!
คนผู้นั้นน่ากลัวขนาดนี้เลยหรือ!?
ถึงขั้นทิ้งการรู้แจ้งสูงส่งเกินหยั่งเยี่ยงนี้ไว้ให้จักรพรรดิหมากรุกหวงหลง!?
นี่…นี่คือท่านเซียนหรือ!?
ยามนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงถึงมั่นใจได้เพียงนี้!
เป็นถึงท่านเซียนเลยหรือนี่!
พลังตาเดินจตุรงค์แสนแกร่งถล่มลงมา เขาต้านทานด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ปลดปล่อยพลังอย่างบ้าคลั่ง ทว่าไม่ช่วยอะไรเลย เขาต้านทานไม่ได้เลย!
พรวด พรวด พรวด!
ร่างของนายตำหนักร้าวรานไปทั้งตัว โลหิตสีดำเหนียวหนืดเหม็นคลุ้งสาดกระเซ็นไปทั่ว ดวงวิญญาณของเขากำลังสลายไปเช่นกัน มิหนำซ้ำ ขุมปราณชีวิตยังรั่วไหลออกไปอย่างรวดเร็ว!
“ข้านี่…รนหาที่ตายจริง ๆ!”
ความสำนึกเสียใจแผ่ซ่านอยู่ในทุกอณูของหัวใจ
เขาช่างโง่เขลา ถึงกับส่งคนไปต่อกรกับเซียนท่านหนึ่งครั้งแล้วครั้งเล่า!
เขาน่าเวทนาเหลือเกิน อาณาจักรในความดูแลเป็นเพียงระดับต่ำต้อย กลับมีเซียนปรากฏ!
“มิน่า นายตำหนักรุ่นก่อนถึงบอกว่าอาณาจักรชั้นต่ำแห่งนี้ไม่ธรรมดา บอกให้ข้ารอบคอบรัดกุม!”
เขาเสียใจเป็นที่สุด เขาไม่ได้เป็นนายตำหนักในที่แห่งนี้มาตลอด แต่เพิ่งมาเป็นนายตำหนักที่นี่ในภายหลัง
ก่อนนายตำหนักรุ่นก่อนไปจากที่นี่ เคยตักเตือนเขาอย่างจริงจังแล้ว ทว่าเขากลับไม่เก็บมาใส่ใจ บัดนี้จึงต้องจ่ายด้วยชีวิตของตน!
ขุมปราณชีวิตของเขากำลังสลายอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าเขาจะพยายามรวบรวมเพียงใดก็ไร้ผล เขาไม่มีทางรอดแล้ว ทันทีที่ขุมปราณชีวิตสลายจนสิ้น ชีวิตของเขาจักจบลง!
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
หน้าผากจักรพรรดิหมากรุกหวงหลงส่องประกายวิญญาณออกมามากมาย ทิ่มแทงเข้าไปในเศษวิญญาณที่แหลกออกของนายตำหนัก
จากนี้ไปเขาจะก้าวขึ้นไปแทนที่ จึงต้องรู้จักนายตำหนักให้มากกว่านี้
อนิจจา วิญญาณของนายตำหนักแหลกสลายเร็วเกินไป เขายังไม่ทันได้รู้เรื่องเท่าไร วิญญาณของนายตำหนักก็แหลกสลายจนสิ้น นายตำหนัก…สิ้นชีพลงอย่างสมบูรณ์!
“แดนสังสารวัฏ…มีรากฐานใดกันแน่!”
เขาสูดปาก ขณะขนแขนลุกชัน
เขารับรู้จากเศษวิญญาณของนายตำหนักได้ว่าเหนือแดนสังสารวัฏขึ้นไป มีการเชื่อมต่อสถานที่อีกแห่งไว้!
ที่นั่นเป็นสถานที่แบบไหน?
เขาไม่รู้
นายตำหนักก็ไม่รู้!
นายตำหนักรู้เพียงคร่าว ๆ เท่านั้น รู้ว่าสถานที่แห่งนั้นเป็นจุดกำเนิดแดนสังสารวัฏ!
“ภพเซียนหรือ!?”
วิญญาณของเขาสั่นสะท้าน
แดนสังสารวัฏเชื่อมต่อกับทุกอาณาจักรในใต้หล้า ทุกอาณาจักรในใต้หล้าล้วนอยู่ในการควบคุมของแดนสังสารวัฏ ทว่าที่แห่งนี้ยังมิใช่จุดกำเนิด จุดกำเนิดของแดนสังสารวัฏคือสถานที่อื่น!
แล้วจะเป็นที่ไหน?
นอกจากภพเซียน เขาก็นึกที่อื่นไม่ออกแล้ว!
เขากลัวขึ้นมาแล้วจริง ๆ ไม่เคยคิดเลยว่ารากฐานของแดนสังสารวัฏจะน่ากลัวปานนี้!
‘ท่านเซียนจะเอาอยู่หรือ!?’
เขาคิดในใจ รู้สึกว่าบางสิ่งที่เขาเคยคาดเดาอาจมีข้อผิดพลาด…
ก่อนหน้านี้ เขาเข้าใจว่าท่านเซียนไม่ยี่หระที่จะลงมือกับแดนสังสารวัฏ
แต่จากทำความเข้าใจที่มีต่อแดนสังสารวัฏในตอนนี้ เขารู้สึกเหมือนตนเข้าไปพัวพันกับมรสุมอันใหญ่หลวงเสียแล้ว!
คล้ายว่าท่านเซียนกำลังประมือกับจุดกำเนิดเบื้องหลังแดนสังสารวัฏ!
และตัวเขาคล้ายว่าจะกลายเป็น…หมากตัวหนึ่ง!
หมากในมือท่านเซียน!
“ข้า…”
เขานึกหวั่นใจจริง ๆ
เดิมทีเขาไม่กลัว และคิดว่าท่านเซียนสามารถถล่มแดนสังสารวัฏได้ชนะขาดลอย
แต่บัดนี้เขารู้แล้วว่าแดนสังสารวัฏมีรากฐานที่น่ากลัวกว่านั้น เขากลัว…จากใจจริง!
ใช่ว่าท่านเซียนสามารถเอาชนะรากฐานที่อยู่เบื้องหลังแดนสังสารวัฏได้
เขาต้องติดอยู่ตรงกลาง แล้วจะมีชีวิตรอดหรือ?
‘เจ้ากำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่! ปราศจากท่านเซียน เจ้าในตอนนี้จะมีชีวิตอยู่อีกหรือ? เจ้าจะสามารถสลัดหลุดจากการควบคุมของแดนสังสารวัฏได้หรือ?’
เขาต่อว่าตัวเองในใจ
ติดอยู่ตรงกลางแล้วอย่างไร?
รากฐานเบื้องหลังแดนสังสารวัฏน่ากลัวกว่าแล้วอย่างไร?
หากไม่มีท่านเซียน จวบจนบัดนี้เขายังเป็นทาสของแดนสังสารวัฏอยู่ ต้องโดนแดนสังสารวัฏคอยบงการ!
“ข้าควรตายไปนานแล้ว…ท่านเซียนคืนอิสรภาพแก่ข้า ซ้ำยังชี้แนะข้า ได้รับใช้ท่านเซียน ข้ายังมัวกลัวนั่นกลัวนี่อยู่ได้ ข้า…ยังเป็นคนอยู่หรือ!?”
เขาละอายใจยิ่ง รู้สึกว่าตัวเองช่างไร้จิตสำนึกสิ้นดี!
“ข้าต้องอยู่ต่อ ไม่ว่าเบื้องหลังแดนสังสารวัฏมีสิ่งใด ข้าก็ขอยืนอยู่ข้างท่านเซียน รับใช้ท่านเซียน!”
เขาเอ่ยกับตัวเองในใจอย่างจริงจัง
ท่านเซียนมีบุญคุณต่อเขาราวกับให้กำเนิดชีวิตใหม่ เขาจะทำตัวไร้จิตสำนึก เนรคุณไม่ได้!
เขาขอยืนหยัดอยู่ข้างท่านเซียน!